จาก “ผู้ป่วยติดเตียง” สู่ “นักวาดอาชีพ” หารายได้สร้างบ้านให้พ่อ-แม่ แม้ร่างกายพิการอัมพาตตั้งแต่หน้าอกจนถึงปลายเท้า มีเพียง “มือสองข้าง” ที่ยังพอต่อเติมความฝันได้อยู่ ล่าสุดเปิดประมูลภาพ “พระสังฆราช” เรียนรู้เองผ่านยูทูบ-เฟซบุ๊ก สังคมชื่นชมยกเป็นต้นแบบ “นักสู้ชีวิต”
ฝึกฝนเรียนรู้ผ่านยูทูบ-ไลฟ์สด
“ตั้งแต่เด็กผมชอบวาดรูป ผมเคยขอแม่เรียนวาดรูปตอนจบ ม.ต้น อยากเรียนต่อที่ศูนย์ศีลปาชีพบางไทร แต่แม่ไม่มีเงินส่งผมเรียน ความฝันของผมก็เลยหยุดอยู่แค่นั้น จนเมื่ออายุ 23 ที่ประสบอุบัติเหตุกลายเป็นอัมพาต ทั้งความฝัน ทั้งชีวิตผมมันก็ไปต่อไม่ได้เลย”
“จอม - วัฒนา จันทร์ชาย” เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ถึงความชื่นชอบด้านการวาดภาพที่มีมาตั้งแต่เด็ก ก่อนที่ชีวิตจะพลิกผันไปอีกเส้นทาง แม้ปัจจุบันหลายคนจะจดจำเขาในบทบาทนักวาดภาพผู้พิการที่สร้างรายได้เลี้ยงชีพตัวเองได้อย่างน่าชื่นชม แต่ชีวิตก่อนหน้านี้ก็ขมขื่นอยู่ไม่น้อย
“ผมเคยแต่งงาน มีครอบครัว มีลูกสาว 1 คน ลูกผมอายุได้ 4 เดือนเอง ผมออกไปทำสวนและโดนต้นไม้ล้มใส่ที่ต้นคอ ทำให้กระดูกต้นคอหัก เส้นประสาทไขสันหลังไม่ทำงาน ต้องกลายเป็นอัมพาตตั้งแต่หน้าอกจนถึงปลายเท้า แค่มือสองข้างเท่านั้นที่พอขยับได้
ตอนที่ป่วยแรกๆ ผมยังอยู่กับแฟน ตอนนั้นยังไม่ได้แยกทางกัน ผมอยู่บ้านผมเบื่อก็เลยให้แฟนหาอุปกรณ์วาดเขียนมาให้ ผมเริ่มหัดเขียน หัดวาด ภาพแรกที่วาดก็เป็นภาพที่วาดเล่นกับลูกสองคน ตอนนั้นผมยังไม่ใช้โทรศัพท์ เฟซบุ๊กก็เล่นไม่เป็น (หัวเราะ)
วันหนึ่งแฟนผมมาคุยกับผมว่าลองเปิดเฟซบุ๊กดูไหม เพราะแฟนเคยเอารูปผมตอนที่เกิดอุบัติเหตุใหม่ๆ ไปลงในเฟซบุ๊กก็มีคนติดตามเยอะ ผมเลยคุยกับเขาว่าถ้าเปิดเฟซบุ๊กก็มาวาดรูปขายด้วยเลยดีไหม ผมก็ขอให้พ่อซื้อมือถือให้ เครื่องละพันกว่าบาท”
แม้แรกเริ่มเขาจะเปิดใจว่าเป็นคนที่ชอบการวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก แต่ทักษะในวัยเด็กก็ไม่สามารถนำมาสร้างเป็นอาชีพได้เต็มที่เท่าที่ควร จากตรงนี้จึงทำให้เขาอยากเรียนรู้เทคนิคการวาดใหม่ๆ จนได้ไปเจอกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้พิการเหมือนกัน จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการสู้ชีวิต และสร้างรายได้ให้ตนและครอบครัวจนถึงวันนี้
“แรกๆ ผมก็วาดไม่เป็นนะครับ ผมจะวาดเป็นแต่พวกลายเส้น ลายไทยมากกว่า ผมเริ่มจากการดูแบบก่อน ลองวาดนางเงือก วาดกินรี หลังจากนั้น ผมก็เลยเสิร์ชหาตามช่องยูทูบ จนผมได้เจอกับ “อ.ดล จูกระโทก” ท่านเป็นคนพิการเหมือนกัน แต่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน
ผมได้แรงบันดาลใจมาจากอาจารย์คนนี้ แกเปิดแฟนเพจสอนศิลปะ ทีแรกผมก็ไม่กล้า แต่พอรวบรวมความกล้าได้ก็ทักอาจารย์ไปทางเฟซบุ๊กขอให้ช่วยสอนผมหน่อย ผมอยากมีงานทำ อยากหารายได้ เขาสอนผมทุกอย่างเลย ทั้งเทคนิคการวาด การแรเงา การวาดภาพบุคคล ไม่มีกั๊กวิชาเลย
ผมเรียนรู้ผ่านไลฟ์สดของอาจารย์ ผมดูทั้งวันเพราะผมทำอะไรไม่ได้ นอกจากนอนบนเตียง พอเริ่มวาดเป็นก็มาหาเงินซื้ออุปกรณ์ จนไปพบกับแฟนเพจ “นางฟ้า ซาลอน” ผมเห็นเขาออกรายการช่วยเหลือคนพิการ ผมก็ติดต่อไปขออุปกรณ์การวาดรูปจากพี่เขา อีก 3 วันเขาส่งมาให้ผมเลย ผมอยากขอบคุณที่ช่วยเหลือผมทำให้ผมมีอาชีพในวันนี้”
ร่างกายพิการ แต่ใจเกินร้อย
“ผมพูดทุกครั้งเวลาใครถาม ผมจะบอกเสมอว่าชีวิตมันเป็นไปแล้ว ถ้าจะให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมมันยากแล้ว เราต้องอยู่กับปัจจุบัน ต้องอยู่กับสิ่งที่เป็นให้ได้ อยู่ไม่ได้ก็ต้องอยู่ให้ได้ อย่างบางคนที่มีครบทุกสิ่งเขาก็อาจจะลำบากกว่าเราก็ได้ ผมหวังว่าเรื่องของผมมันจะเป็นประโยชน์ให้แก่คนอื่นๆ ที่กำลังท้ออยู่”
แม้ร่างกายอาจไม่แข็งแรงได้เต็มร้อย แต่สิ่งที่เขาทำอยู่ก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่าจิตใจของเขาเข้มแข็งเพียงใด การเผชิญหน้าต่อสภาวะเจ็บป่วยทางร่างกายทั้งยังวาดภาพหารายได้ไปด้วยเป็นสิ่งที่ยาก แต่เขาก็ทำมันสำเร็จ ซึ่งภาพวาดส่วนใหญ่เน้นแนวพอตเทรตเป็นหลัก โดยมีราคาภาพเดี่ยวขาว-ดำอยู่ที่ 500 บาท และภาพคู่อยู่ที่ 1,000 บาท
“ตอนนี้มือผมปลายประสาทนิ้วมันไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ความยากของการวาดภาพมันเลยอยู่ที่การบังคับ และการลากนิ้ว เพราะประสาทสัมผัสของผมตอนนี้มันชาไปหมดเลย มันจะไม่รู้สึกเวลาเราจับ มันชาไปหมด
แต่เวลาผมวาดให้ลูกค้า ผมจะทำเต็มที่ ถ้าลูกค้าคนไหนยังไม่โอเคกับผลงานที่ผมวาด ผมก็จะวาดให้ใหม่ครับ บางรูปถ้าลูกค้าส่งต้นแบบมาไม่ชัด ผมวาดตามที่เห็นแบบ ถ้าลูกค้ายังไม่ชอบ ผมก็วาดให้ใหม่แต่อาจจะขอต้นแบบเขาใหม่ครับ แต่ถ้าเขาไม่มีต้นแบบให้ใหม่ ผมก็จะคืนเงินให้ครับ
ที่ผมวาดคือแนวภาพเหมือนบุคคล ตอนนี้กำลังหัดวาดสีน้ำอยู่เหมือนกัน การวาดมันทำให้ผมผ่อนคลายนะครับ ผมพยายามลบล้างความเครียดด้วยการวาดนี่แหละ ส่วนรายได้ที่เคยทำได้สูงสุด คือ หมื่นต้นๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกเดือน อย่างวันไหนที่อากาศร้อนมากๆ ผมก็จะวาดไม่ได้ เพราะอากาศร้อนทำให้ผมหายใจไม่สะดวก
ตอนนี้ผมวาดรูปพระสังฆราชเพื่อประมูลอยู่ครับ ผมหารายได้มาสร้างบ้านให้พ่อแม่ ที่ประมูลภาพผมจะนำเงินมาแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกผมเก็บไว้ ส่วนที่เหลือผมก็แบ่งให้กับพี่-น้องที่พิการแถวบ้าน และก็มีวาดมอบให้จิตอาสานำไปให้น้องบนดอยสูงด้วยครับ”
แน่นอนว่าเรื่องราวการสู้ชีวิตของเขาได้กลายเป็นบุคคลตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่หลายคน แม้เจ้าตัวจะเปิดใจว่าไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเป็นต้นแบบให้แก่ใครได้ แต่ก็ยังกล่าวทิ้งท้ายถึงผู้ที่กำลังรู้สึกผิดหวังกับชีวิตด้วยว่าเป็นธรรมดาที่ต้องรู้สึกท้อใจ แต่สุดท้ายก็ต้องอยู่กับมันให้ได้
“ผมน้อยใจเหมือนกันนะครับ ที่ผมเป็นแบบนี้ ผมไม่สามารถดูแลลูกได้ ไม่สามารถพาพ่อ-แม่ไปหาหมอได้ มันก็คิดอยู่ตลอด แต่สิ่งที่ผมทำคือเราจะไม่พยายามจนเกินไป ผมคิดแค่ว่าเราทำมันให้ดีที่สุด มันก็สำเร็จครับไม่ต้องไปพยายาม
เพราะการพยายามคือ หนึ่ง เราจะกดดันตัวเอง สอง เราคาดหวังผลจากมันก็จะมีแต่ผิดหวังกับเสียใจ แต่ถ้าเราทำให้ดีที่สุด มันก็จะสำเร็จได้อย่างมีความสุข จริงๆ ผมไม่ได้ท้อที่ต้องเป็นแบบนี้ แต่ผมท้อและเครียดเรื่องคนที่ผมรัก พ่อ แม่ ลูกของผม บ้านเรายากจน ผมเป็นห่วงเรื่องความเป็นอยู่
ที่วาดภาพทุกวันนี้ก็เพื่อให้ครอบครัวของผมกลับมามีความสุข ผมพยายามเก็บเงิน หรือถ้ามีคนมาปรึกษาผมเรื่องวาดรูป ผมก็ยินดีช่วยเหลือนะครับ เรียนมาแบบไหนก็จะบอกไปแบบนั้น ถ้ามือดีอยู่ ใครอยากวาดรูปทักมาหาผมได้ ผมจะแนะนำเทคนิคที่ผมรู้เกี่ยวกับเรื่องศิลปะหรือการแกะสลัก ผมช่วยเต็มที่ครับ
ส่วนคนที่กำลังท้ออยู่หรือคนที่ต้องเป็นแบบผม ท้อได้นะครับ เพราะคนเรามันยังหายใจอยู่ก็มีท้อ มีเสียใจ แต่ถึงเราจะเสียใจ ถ้ายังไม่ตาย มันก็จะอยู่แบบนั้น ฉะนั้น ต้องอยู่กับมันให้ได้ครับ ที่สำคัญสิ่งที่เราควรสู้มากที่สุดคือความคิดของตัวเอง”
ข่าวโดย MGR Live
ภาพ FB : จอม วัฒนา
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **