“เรื่องเงินไม่เท่ากับสภาพจิตใจที่ไร้การเยียวยา” เปิดเรื่องราวการเยียวยาจากญาติผู้เสียชีวิตคดี “แพรวา 9 ศพ” ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ไร้การเยียวยา ไม่เคยได้รับเงิน ด้านผู้รอดตายคดีนี้ได้เงินเพียง 20,000 บาท เคยเจอคู่กรณีเพียงครั้งเดียว ย้ำจิตใจย่ำแย่ ไม่เคยรู้สึกถึงความใส่ใจในการเยียวยาจากอุบัติเหตุนี้เลย
ไร้การเยียวยาตลอด 9 ปี!!
ยังคงร้อนระอุ สำหรับกรณีที่สังคมกำลังให้ความสนใจ จนผุดแฮชแท็ก #แพรวา 9 ศพ , #แพรวาหายไปไหน กลับมาติดเทรนด์ทวิตเตอร์อีกครั้ง หลังมีการทวงถามถึงความคืบหน้าของคดีอุบัติเหตุที่ แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถเก๋งชนรถตู้จนมีผู้เสียชีวิต 9 ศพ และผู้บาดเจ็บ 5 คน เมื่อเกือบ 9 ปีก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา และความเป็นธรรมจากฝ่ายคู่กรณีแม้แต่อย่างใด
ถวิล เช้าเที่ยง แม่ของดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง หนึ่งในผู้เสียชีวิต ได้ออกมายืนยันทุกวันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แม้แต่งานศพเขาก็ไม่มา ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้ ยังไม่ได้รับเงินชดใช้ใดๆจากครอบครัวแพรวา ซึ่งที่ผ่านมา จำเลยยื่นต่อรองค่าเสียหาย ขอลดลง 20% แต่ตามคำสั่งศาลไม่ลดตามที่ร้องขอ อีกทั้งที่ผ่านมา ได้เพียงเงินจากประกันภัยรถยนต์เท่านั้น
“ตอนนี้คดีถึงที่สุดแล้ว เขาก็เฉย เหมือนกับเรื่องที่ลูกเขาทำไว้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ทุกวันนี้ต้องทุกข์ทรมาน ร้องไห้ตลอด มันเป็นแผลในใจ เรื่องเงินไม่เท่ากับสภาพจิตใจที่ไร้การเยียวยา แถมยังทำแบบนี้อีก ก็อยากถามถึงความเป็นธรรมด้วย”
ทั้งนี้ ศาลมีคำพิพากษาให้ผู้ก่อเหตุจำคุกเป็นเวลา 2 ปี รอลงอาญา 3 ปี คุมประพฤติจำเลย 3 ปี พร้อมกับบำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 48 ชั่วโมง และห้ามจำเลยขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปี
ทว่า ข้อหาใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ พิพากษายกฟ้อง บำเพ็ญประโยชน์ 138 ชั่วโมง แต่ในส่วนการเยียวยา ชดเชยผู้เสียหาย จำนวน 26 ล้าน โดยคดีแพ่งถึงที่สุดตั้งแต่ 8 พ.ค.62 จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ด้าน สิตาพัชญ์ พงศ์รัตน์ถาวร ภรรยาของอุกฤษฎ์ รัตนโฉมศรี ได้เล่าถึงพฤติกรรม และความรู้สึกอัดอั้นต่อคำพูดที่ทางฝั่งนั้นได้แสดงต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคน หลังจากศาลพิจารณาคดีเสร็จสิ้น และไม่มีการรับผิดชอบเยียวยาใดๆ
“จะไกล่เกลี่ยมั้ย ถ้าจะไกล่เกลี่ยก็ติดต่อมานะ ถ้าจะฟ้องให้ถึงที่สุดก็ไม่รู้นะ ว่าจะได้อะไร จะไปถึงตรงไหน จะได้หรือเปล่า จะเอาอะไรกับทางนี้ก็ไม่มีจะให้นะ”
เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ อดีต ผกก.สภ.ทุ่งศรีอุดม พ่อของสุดาวดี นิลวรรณ ผู้เสียชีวิต เปิดใจผ่านปลายสายกับ ทีมข่าว MGR Live ถึงระยะเวลาที่รอการเยียวยาจากคดีแพรวา 9 ศพ ตอนนี้ทางจำเลยยังไม่มีติดต่อมาเยียวยาแม้แต่อย่างใด ทั้งที่เลยกำหนดว่าภายใน 30 วันต้องนำเงินมาชำระ
“9 ปีที่ผ่านมา เราไม่ได้เงินสักบาท มีแต่เสีย อย่างผมก็จะมีค่าเดินทาง ค่าที่พัก มันหลายสิบเที่ยวแล้วนะครับ ตั้งแต่ประชุมที่ธรรมศาสตร์ เดินทางมาศาล มาเบิกความ มาฟังคำพิพากษา ค่าใช้จ่ายมันเยอะ”
ขณะที่ รัตติยา คันธา แม่ของปรัชญา คันธา ผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า หลังจากที่มีคำพิพากษาศาลฎีกา ให้ชดใช้ค่าสินไหมทางแพ่งให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 9 ราย ตอนนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้รับการชดใช้ หรือครอบครัวออกมาขอโทษแต่อย่างใด
ไม่เพียงเท่านี้ สุชาดา ปาละกูล มารดาของ ตรอง สุดธนกิจ หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน ได้ออกมาเปิดเผยว่า การตายของลูกสาว ทำให้ผู้เป็นพ่อต้องตรอมใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว ตอนนี้ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากแพรวา
“ทนายฝั่งเขาพูดเสมอว่าคนขับรถตู้เขาผิด ทั้งๆ ที่มีพยานและหลักฐานหลายอย่าง คิดว่าทุกอย่างชัดเจน รู้สึกยอมไม่ได้” โทโมโกะ นันโด ชาวญี่ปุน ซึ่งเป็นภรรยาของ ภิญโญ จินันทุยา ได้ออกมาเปิดใจ และยอมรับว่าตอนแรกที่เกิดเหตุ ยังทำใจไม่ได้ เหมือนคู่คิดทุกอย่างหายไป ต้องอยู่คนเดียวมาโดยตลอด ถ้าหากต้องการจะพูดคุย และมีโอกาสนั้นก็ยินดี
นอกจากนี้ ทางด้านของทองพูล พานทอง แม่ของนฤมล พานทอง คนขับรถตู้ หนึ่งในผู้เสียชีวิต ได้ออกมายืนยันอีก 1 เสียงว่า จนถึงเวลานี้ ล่วงเลยมาเกือบจะ 10 ปี ยังไม่ได้รับคำขอโทษ หรือเห็นการสำนึกผิดของแพรวา และครอบครัวเลย และดูเหมือนว่าฝ่ายจำเลยยังใช้ชีวิตสุขสบาย แต่คนที่โดนกระทำตลอด 9 ปียังทุกข์ทรมาน
“รู้สึกได้รับความเป็นธรรมในแง่กฎหมาย แต่ในแง่จิตใจไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย เพราะช่วงเกือบ 9 ปี ครอบครัวไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ และไม่ได้รับการปฏิบัติในฐานะผู้สูญเสีย จนหลายครั้งทำให้รู้สึกถอดใจและท้อใจอยู่บ่อยครั้ง”
ทวงความยุติธรรม หวังคดีจะจบ!!
“เจอเขาแค่ครั้งเดียว แล้วไม่เจออีกเลย ตอนนี้คดีจบแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการเยียวยา” สุนทร ปิตาทานัง หนึ่งใน 5 ผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มีภรรยา เป็นคนขับรถตู้ ได้เสียชีวิต แม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปเกือบ 9 ปี แต่ภาพเหตุการณ์ และความทรงจำยังไม่เคยหายไป ตอนนี้ยังไม่ไดัรับความเป็นธรรม ยอมรับว่าสภาพจิตใจและร่างกายย่ำแย่ลง ผลกระทบมาจากอุบัติเหตุทำให้เข่าทั้งสองข้างไม่ปกติ เดิน ลุก นั่ง นอนมีอาการปวด
สำหรับเงินเยียวยาครอบครัวในเฉพาะส่วนของตนและลูกสาว 2 คนที่ต้องกำพร้าแม่ เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 500,000 บาท ซึ่งภายหลังมีคำสั่งศาลออกมาตั้งแต่เดือน พ.ย.ก็ยังเงียบ ทั้งที่เป็นผู้เสียหายและยังมีชีวิตอยู่ แต่กลับไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด อยากให้เขาเห็นใจคนสูญเสียบ้าง โดยที่ผ่านมา เขาเข้ามาเยี่ยมเพียงครั้งเดียว นำเงินมาให้ 20,000 บาท และไม่ได้มีการขอโทษเป็นการส่วนตัว
แน่นอนว่าเมื่อย้อนกลับไปเมื่อปี 53 คดีแพรวา 9 ศพ ตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 16 ปี และไม่มีใบขับขี่ กระทั่งขับรถยนต์ไปชนท้ายกับรถตู้สาย มธ.รังสิต-จตุจักร ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 9 คน โดยผู้ที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บล้วนเป็นคนที่มีความรู้และมีอนาคตที่ดี ทำให้เกิดการตั้งคำถาม และทวงความยุติธรรมของสังคมกับกรณีที่ยืดเยื้อถึง 9 ปี
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคำสั่งศาลตัดสินให้จ่ายชดเชยค่าเยียวยาครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดที่ยื่นขอต่อศาล แต่ปัจจุบันยังคงไร้เงาของการเยียวยาหรือการติดต่อประสานงานเข้ามา
ขณะที่ผู้รอดชีวิตอย่างวรัญญู เกตุชู อดีตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกผ่านทวิตเตอร์ “tintinwarunyoo” หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์อันเลวร้ายมาได้ โดยระบุว่า ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เขาได้ต่อสู้คดีถึง 3 ศาล แต่ไม่เคยเจอหน้าคู่กรณีเลย ซึ่งเขาหวังว่าคดีจะจบลงเสียที แต่ดูเหมือนคำพิพากษาใดๆ ก็ยังไม่สิ้นสุด เพราะทุกอย่างยังถูกยื้อ
“หลังจากผ่าตัดขยับร่างไม่ได้เลย เพราะโดนพันท่อนล่างทั้งหมด เป็นเวลากว่า 2 เดือน ที่ต้องนอนนิ่งๆ บนเตียง ร้องไห้บ่อยมาก หงุดหงิดตัวเองที่ต้องมาเป็นแบบนี้ และแน่นอนว่าไม่ได้ไปเรียน ครั้งแรกที่ได้เจอแพรวา มาพร้อมกับคุณแม่และช่างภาพ ยังนอนติดเตียงอยู่เลย น้องนั่งรถเข็นมาในห้อง คนที่พูดทั้งหมดคือแม่ของน้อง พอพูดจบจึงบอกว่า "ขอโทษพี่เขาสิลูก" น้องก็พูดว่า ขอโทษค่ะ นั่นคือครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน พร้อมกับขนมเปี๊ยะบ้านอัยการและถ่ายรูป
ตอนนั้นไม่รู้สึกถือโกรธแล้วเพราะมันคืออุบัติเหตุ ไม่มีใครตั้งใจ เราก็รู้สึกดีนะที่มาขอโทษ ที่เขาไม่พูดเพราะเขายังเด็กอาจจะกลัวด้วย พอน้องออกไป พี่พยาบาลก็มาเล่าว่าน้องเขาเดินมาปกตินะ แต่มาขอรถเข็นหน้าวอร์ด เราเลยอึ้งไปพักนึง"
หลังจากนั้น ก็ต้องกายภาพ หัดเดินให้กลับมาเป็นปกติอีก 1 ปี ระหว่างนั้นก็กลับไปเรียนต่อด้วย ร่างกายกลับมาปกติทุกอย่างในอีก 3 ปีให้หลัง แต่ก็ต้องไปๆ มาๆ หาหมออยู่เรื่อยๆ ค่ารักษาพยาบาลประกันรถเป็นฝ่ายจ่ายให้ แต่หลังจากออกโรงพยาบาลแล้วก็ต้องจ่ายเอง ซึ่งเป็นจำนวนตามที่ฟ้องเรียกค่าเสียหายไป
ทั้งนี้ล่าสุด แม่ของแพรวา ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโหนกระแส โดยให้คำตอบถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่ลูกสาวกระทำ ตอนนี้รู้สึกทุกข์ใจ เพราะชีวิตลูกล้มเหลว เหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้า และไม่รู้ว่าจะฆ่าตัวตายวันไหน พร้อมโชว์โฉนดมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท รวมทั้งประกาศขายหาเงินมาชดใช้ผู้เสียหายทุกคน
ข่าวโดยทีมข่าว MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **