xs
xsm
sm
md
lg

“ทำความดี ต้องอย่าหวังผล” เปิดใจแม่เด็ก ป.4 เก็บเงินแสนคืนเจ้าของ ไม่เอารางวัลตอบแทน!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
นี่แหละต้นแบบความดี! สังคมชื่นชม เด็ก ป.4 เก็บเงินได้ 1.4 แสนบาท” ส่งคืนเจ้าของ แถมไม่รับสินน้ำใจสักบาท เชื่อคำครอบครัวสอน “ทำความดี อย่าหวังสิ่งตอบแทน” ด้านคุณแม่เปิดใจสอนลูกเสมอเรื่อง ความซื่อสัตย์”  แม้ครอบครัวยากจนแต่ต้องใช้ความพยายามของตัวเอง!

“ของคนอื่น ไม่ใช่ของเรา”

“ถึงบ้านเราจะฐานะลำบาก แต่จะสอนลูกเสมอว่าอย่าคิดอยากได้ของคนอื่นที่ไม่ใช่ของเรา ถ้าอยากได้ต้องหามาด้วยตัวเอง ด้วยความพยายามและความตั้งใจของเราเอง”

'ปิยะรัตน์ แซ่ปัง' แม่ของ 'ด.ญ.ญาณัจฉรา ธรรมพิชัย' หรือน้องแบม นักเรียนชั้น ป.4 จากโรงเรียนมัธยมวัดใหม่กรงทอง ในพระราชูปถัมภ์ฯ จ.ปราจีนบุรี เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ถึงเหตุการณ์ที่ตนและลูกสาวเก็บกระเป๋าสตางค์ได้ระหว่างทางกลับบ้าน โดยภายในมีเงินมากกว่า 148,000 บาท!

“ตอนนั้นกำลังพาน้องเข้าบ้านพอดีค่ะ ตัวแม่เองขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ แต่น้องเห็นกระเป๋าสีดำที่พื้น ในใจเราคิดว่าน่าจะเป็นของเด็กนักเรียนทำกระเป๋าดินสอหล่นไว้หรือเปล่า พอกลับรถวนไปดู ไม่ได้คิดว่าในนั้นจะมีเงิน เราหยิบให้ลูกถือพอน้องเปิดดูบอกว่ามีเงินเยอะเลย เราขี่รถอยู่ก็ยังไม่เชื่อ คิดว่าใครจะมาทำเงินตกเยอะแยะ

จากนั้นพอมาถึงบ้านเลยเปิดดูก็เป็นเงินจริงๆ เราไม่ได้เอาของเขาออกมา ไม่รู้เลยว่าจำนวนเท่าไหร่ ไม่ได้นับเลย คิดแค่ให้เขาไปนับกันเองที่โรงพักดีกว่า เรายังลำยากขนาดนี้ แล้วคนที่ทำหาย เขาจะเป็นยังไงบ้าง

แม่รีบพาน้องไปแจ้งความที่โรงพักตอนนั้นความรู้สึกแรกที่ผ่านเข้ามาในหัวคือ คิดว่าเจ้าของเขาจะเป็นยังไง น้องก็บอกแม่ว่าป่านนี้เขาไม่ร้องไห้แล้วเหรอทำเงินหายเยอะขนาดนี้ ถ้าเขารู้ว่ากระเป๋าเงินหายคงเครียด เราก็บอกลูกแบบนั้นเลยพากันไปแจ้งความ”


 
หลังจากที่เดินทางไปแจ้งความจึงได้ทราบว่ามีผู้มาลงบันทึกแจ้งหายก่อนหน้านี้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจสอบจนพบว่าเป็นเงินของ 'ทรงวิทย์' เจ้าของร้านขายส่ง ซึ่งได้วานให้ลุงลูกจ้างคนหนึ่งนำเงินไปเข้าธนาคาร แต่ระหว่างทางกลับทำหล่นหายไม่รู้ตัว

“ลุงแกเป็นลูกจ้างเจ้าของเงิน พอบอกว่าเจอเงินแล้ว แกก็ดีใจกระโดดใหญ่เลยแทบร้องไห้ แกบอกว่าเหมือนยกภูเขาออกไปเลย ตอนยังไม่เจอเงินก็คิดว่าจะไปหาจากไหนมาชดใช้ให้เขาหมด เงินตั้งเป็นแสนๆ ใช้คืนทั้งชาติก็ไม่หมด แกก็กระโดดกอดน้องแบม เราเห็นแล้วก็จะร้องไห้ บอกลุงไม่เป็นไรนะ เจอเงินแล้ว

ทีแรกเจ้าของเงินเขาก็อยากตอบแทนน้ำใจของน้องแบม ยื่นเงินให้แต่น้องไม่ได้เอา เพราะแม่เคยสอนเขาตลอดว่าเวลาเราทำอะไรก็ตาม อย่าไปหวังผลนะลูก มันไม่ใช่ของเรา ทำไปแล้วเราต้องอย่าหวังผล เงินเราต้องหาเองนะ อย่าไปรอเงินคนอื่น แม่สอนให้เขาทำงานเอง เพราะพ่อกับแม่ก็ลำบาก

น้องแบมไม่กล้ารับ แม่ก็ไม่รับ เพราะมันเยอะเกินไปที่เขาให้ เขาพับแบงก์พันมาทีแรกแม่ก็ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ พี่ตำรวจเขาถามจำนวน เขาเลยบอกว่า 5 พันบาทครับ น้องแบมก็ส่ายหัว ไม่รับ แต่ตอนหลังเขาบอกว่าให้ฝากธนาคารเป็นทุนด้านการศึกษาให้แก่น้องแทน”

อย่างไรก็ดี แม่ของน้องแบมได้เล่าย้อนความให้ฟังด้วยว่าลูกสาวมักเก็บเงินได้บ่อยครั้งที่โรงเรียน ซึ่งน้องจะกลับมาเล่าให้แม่ฟังเสมอว่าตนส่งคืนครูเพื่อประกาศหาเจ้าของเงิน แม้จำนวนเงินจะไม่ได้มากมายก็ตาม

“น้องเก็บเงินได้อยู่ที่โรงเรียนค่ะ ชอบมาเล่าให้ฟังตอนกลับบ้าน วันนี้หนูเก็บเงินได้ 10 - 20 บาทนะแม่ เราจะบอกเขาตลอดว่ากี่บาทก็ต้องเอาไปให้ครูเขาประกาศนะลูก น้องก็จะเอาไปให้ครูและกลับมาเล่าให้ฟัง
แม่จะบอกน้องเสมอถึงเราเป็นหนี้เยอะก็อย่าไปอยากได้ของคนอื่น น้องรู้มาตลอดว่าพ่อ-แม่-ตา ยากลำบาก แต่น้องก็ไม่เคยอยากได้ของใคร”

 
“เด็กดี-ซื่อสัตย์” คำสอนประจำบ้าน

“น้องแบมเป็นเด็กรักแม่มากเลย เวลาที่น้องเห็นแม่เหนื่อยก็จะมานวดให้ เป็นเด็กขี้อ้อน ขี้เล่น น้องรู้ว่าบ้านเราลำบาก ไม่ได้มีเหมือนคนอื่น แต่น้องก็ไม่เคยขอหรืออยากได้อะไรเลย แม่ก็บอกน้องว่าพ่อแม่ลำบากไม่มีอะไรให้นะลูก หนูต้องตั้งใจเรียน”

เห็นได้ชัดเจนเลยว่าสิ่งที่สังคมพากันชื่นชมเด็กน้อยวัย 9 ขวบคนนี้ ไม่เพียงเพราะเก็บเงินได้แล้วส่งคืนเจ้าของอย่างครบถ้วนทุกสตางค์ แต่ยังภูมิใจในคำสอนของครอบครัวที่ถึงแม้จะมีฐานะยากลำบาก แต่ก็ยังสอนลูกๆ เรื่องความซื่อสัตย์อยู่เสมอ

“ครอบครัวเรามีลูก 4 คนก็จะเป็นแบบนี้หมดนะคะ คือ ไม่กล้าเอาของใครมาเป็นของตัวเอง ส่วนน้องแบมตอนที่เห็นเงินน้องก็ไม่ได้มีความคิดว่าเห็นที่บ้านลำบาก น่าจะเก็บเงินไว้
น้องไม่ได้พูดแบบนั้นเลย น้องจะเป็นคนที่ไม่กล้ารับของจากใคร อย่างเวลาคนมาบ้านถ้าเขาจะให้เงิน 100 - 200 บาท เด็กๆ เขาก็จะหันมามองหน้าแม่ก่อนว่าควรจะรับดีไหม

ที่บ้านเราสอนไม่ใช่เชิงบังคับทีเดียว แต่จะค่อยๆ บอกมากกว่า อย่างไปเจออะไรมาหรือตอนนั้นมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็จะค่อยๆ สอน แม่จะบอกน้องแบมตลอดว่าอะไรที่ไม่ใช่ของเรา เราอย่าไปเอา ห้ามเห็นแก่ตัว ต้องทำงาน หนูเห็นพ่อกับแม่ทำงานไหมก็จะบอกน้องว่าครอบครัวเราลำบาก เขาก็รู้มาตลอด

พ่อกับแม่ต้องทำงานถึงจะได้เงิน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้เงินนะลูก ตอนนี้ทำงานรับจ้างวิ่งรถ 6 ล้ออยู่ คอยวิ่งรถรับส่งของโรงงาน ส่วนบ้านที่อยู่ตอนนี้ก็เช่าอยู่ เราทำงานมาตั้งแต่วัยรุ่นเลย เคยมีช่วงหนึ่งขายของแต่เศรษฐกิจไม่ดีก็ต้องกู้เงินรายวัน ครอบครัวเราเจอมาหมดเลย น้องแบมจะช่วยเลี้ยงน้องสาวคนเล็กเวลาที่แม่ทำงาน จะช่วยดูแลน้อง”

 
แน่นอนว่าหลังจากที่มีการเผยแพร่เรื่องราวของน้องแบมออกไปก็ทำให้เกิดเสียงชื่นชมว่าเด็กน้อยคนนี้เป็นแบบอย่างที่ดีเรื่องความซื่อสัตย์ให้แก่เด็กยุคใหม่ ขณะที่ด้านคุณแม่เองก็ภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้เช่นกัน ทั้งยังบอกอีกว่าจะสอนให้น้องทำความดีต่อไป

“ส่วนโตขึ้นอยากเป็นอะไร น้องเขาอยากเป็นหลายอย่างมากเลย (หัวเราะ) น้องบอกแม่อยากเป็นหมอจะได้รักษาคนในครอบครัว หรือเวลาเล่นตุ๊กตาก็อยากเป็นนักออกแบบชุด เขาจะชอบเอาผ้ามาตัดเป็นชุดตุ๊กตา แม่ก็บอกว่าเป็นได้ ถ้าหนูพร้อมก็เป็นได้ทุกอย่างนั่นแหละ

หลังมีข่าวออกมาที่คนชื่นชม น้องก็ดีใจ แต่แม่จะบอกน้องว่าเราทำไป เราไม่ได้หวังอะไรนะลูก เราไม่ได้อยากดัง เราทำไปก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง แต่เราอยากคืนเจ้าของให้เขาได้รับเงินคืน คิดแค่ว่าไปโรงพักตามหาเจ้าของแค่นั้น พอเรียบร้อยแล้วก็กลับบ้าน ไม่ได้คิดว่าจะมีคนสนใจขนาดนี้เลยค่ะ

แม่ภูมิใจในตัวเขาที่สุด ชื่นใจที่เขาไม่มีความคิดที่อยากได้ของคนอื่น แม้ที่ผ่านมาน้องจะเคยน้อยใจว่าทำไมบ้านเราลำบาก แต่เราก็บอกว่าถ้าหนูโต หนูตั้งใจเรียนนะลูก พ่อแม่ลำบากไม่มีอะไรให้หนูนะ หนูเรียนเก่งๆ จะได้ทำงานดีๆ จะได้มีบ้านให้แม่อยู่ น้องก็จะบอกถ้าหนูโต หนูจะซื้อบ้านให้แม่ จะดูแลครอบครัว”

ข่าวโดย MGR Live




** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **



กำลังโหลดความคิดเห็น