“เรื่องที่ทาง ผอ.ตอบกลับเป็นเรื่องหลักการ" เปิดมุมมองผ่านศิษย์เก่ารั้วสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี หลังกลุ่มนักเรียนประท้วงถาม ผอ. ใช้งบประมาณเกินความจำเป็นไปมั้ย “ซื้อพัดลมยักษ์-สร้างสิ่งปลูกสร้างเกินความจำเป็น-ปล่อยห้องน้ำทรุดโทรม” มีแต่เสียกับเสีย ไม่คุ้ม วอนอะไรดีอยู่แล้วไม่ต้องไปเปลี่ยน!!
ไม่พอใจ ทวงถามหาความจริง!!
"นักเรียนเป็นประชากรที่มีจำนวนมากที่สุดในโรงเรียน การใช้งบประมาณต้องเกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักเรียน"
หลังจากที่กลุ่มนักเรียนถือป้ายร้องขอความเป็นธรรมหน้าเสาธง จนเกิดประเด็นและการตั้งข้อสังเกตการใช้งบประมาณทางที่ผิดของดร.สุรวุฒิ ยัญญลักษณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ทีมข่าว MGR Live จึงได้ติดต่อสัมภาษณ์ไปยังศิษย์เก่า ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี รายหนึ่งที่ติดตามประเด็นการทุจริตของผู้อำนวยการ
“น้องในโรงเรียนสั่งสมความไม่พอใจหลายๆ โครงการ ประเด็นที่น่าจะเป็นการจุดประกายความไม่พอใจของนักเรียน และศิษย์เก่าที่เป็นวงกว้าง ก็คือ เรื่องวันไหว้ครู เพราะว่าในประเพณีของโรงเรียน เราจะมีการเชิญรูปปั้นครึ่งตัวของอดีตผู้อำนวยการคนแรกของโรงเรียน ซึ่งเป็นผู้ที่มีคุณูปการอย่างมากของโรงเรียน ท่านเป็นผู้อำนวยการท่านแรกที่บุกเบิกที่ดินที่เป็นที่รกร้างว่างเปล่า
ตามประเพณีจะต้องเชิญรูปปั้นครึ่งตัวของอาจารย์ขึ้นไปเป็นครูอีกท่านหนึ่งที่เราจะไหว้ในวันไหว้ครู เราได้เชิญขึ้นไปบนเวทีแล้ว แต่เมื่อผู้อำนวยการมาเห็นก็สั่งให้เอาลง ก็สร้างความไม่พอใจให้แก่นักเรียน คือน่าจะเป็นการจุดประกายความไม่พอใจมุมกว้างที่ไปกระทบความรู้สึกของนักเรียน ของศิษย์เก่า ก็เลยเป็นที่มาของเรื่อง
เท่าที่คุยกับน้องๆ น้องเขาบอกว่ามันเริ่มจากการที่มีรุ่นพี่ศิษย์เก่าคนหนึ่ง เพิ่งจบได้ไม่นานได้เขียนเรื่องนี้ แล้วพี่ศิษย์เก่าคนนั้นได้ลงโพสต์ในเฟซบุ๊กว่าถูกข่มขู่ ทำให้กลุ่มน้องที่ได้ไปแสดงความคิดเห็นที่หน้าเสาธงเขารู้สึกว่าเป็นจุดระเบิดทำเกินไป ทำให้เขาตัดสินใจในการออกไปพูด”
โดยกลุ่มนักเรียนได้ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากลที่อาจจะส่อแววทุจริต ในเรื่องการใช้งบประมาณที่จัดตั้งพัดลมยักษ์ สร้างสิ่งปลูกสร้างเกินความจำเป็น ค่าจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ด ความทรุดโทรมของห้องน้ำ รวมทั้งร้านสวัสดิการ
“เรื่องที่ทาง ผอ.ตอบกลับเป็นเรื่องหลักการ แต่ความเป็นจริงแล้ว ยกตัวอย่างเรื่องพัดลม เดิมทีเรามีพัดลมไอน้ำที่พ่นไอน้ำออกมาได้ อยู่ในระยะเตี้ยๆ ที่สามารถเป่าออกไปเพื่อระบายความร้อน เพื่อให้นักเรียนไม่ร้อนมากในตอนบ่าย จริงๆ พัดลมถ้าใช้งานได้ก็ใช้ได้แค่บางส่วน
แต่งบที่ใช้ที่ผมจำไม่ผิดถ้ารวม 2 ตัวน่าจะประมาณหลายแสนบาท จริงๆ เงินหลายแสนบาท เอามาเปลี่ยนพัดลมข้างล่างใหม่ทั้งหมด หรือซ่อม มองว่าไม่น่าจะใช้เงินมากขนาดนั้น เท่าที่ดูของจริงถ้าหากเป็นของใหม่ ไม่ควรเป็นสภาพนี้ ทั้งเรื่องของการต่อสายไฟ มันดูไม่เรียบร้อย มันไม่สมกับราคาเลย
ประเด็นเรื่องห้องน้ำ เขาเปรียบเทียบรั้วกับห้องน้ำ ในมุมมองของเด็กคิดว่าทำไมถึงไปทำรั้ว แต่ไม่ทำห้องน้ำ ผู้ปกครองที่ค่อนข้างมีบทบาทในโรงเรียน เขาเสนอตัวในการปรับปรุง มีการใช้เงินของผู้ปกครองกันเอง และอาจจะได้เงินสนับสนุนจากตัวโรงเรียนด้วยหรือเปล่า อันนี้พี่ไม่แน่ใจ
แต่ที่พูดถึงเรื่องนี้เพราะว่าเด็กรู้สึกว่าทำไมไปทำรั้วสวย เพราะว่ารั้วจุดประสงค์มันแค่กันขอบเขตไม่ให้คนเข้า คนออกเท่านั้นก็ควรจะพอ ในเรื่องของห้องน้ำที่เด็กใช้ทุกวันทำไมถึงไม่ทำ เขาเลยรู้สึกว่าถึงแม้ผู้ปกครองท่านนั้นอยากจะสนับสนุนโรงเรียน ควรทำห้องน้ำก่อน เพราะผู้ปกครองก็ใช้ห้องน้ำ”
ไม่เพียงแค่นั้น ศิษย์เก่ารายนี้ยังตั้งข้อสงสัยถึงการบังคับซื้ออุปกรณ์การเรียน ที่มีลับลมคมใน ในการนำของที่ไม่มีคุณภาพมาขายแก่เด็กอีกด้วย
“ยุคของ ผอ.ท่านนี้ บางครั้งไม่มีเหตุอะไรต้องเปลี่ยน อยู่ดีๆ ก็นึกจะเปลี่ยนขึ้นมา และมีการเพิ่มราคาให้แพงกว่าเดิม นักเรียนเขาจึงมีความรู้สึกว่าไม่เห็นมีจุดประสงค์อะไรที่ต้องเปลี่ยน จะเปลี่ยนก็ไม่ว่า แต่เปลี่ยนแล้วขายราคาใหม่ มันดูมีลับลมคมในหรือเปล่า
เรื่องของอุปกรณ์การเรียน เงินอุดหนุนของรัฐบาลทุกโรงเรียนเขาจะสนับสนุนเด็กโดยการให้เงิน 230 บาท ผอ.หลายท่านก็ให้เงินเด็กส่วนนี้ จะซื้ออะไรก็ซื้อ แต่ท่านนี้ให้เงิน 230 บาท แล้วบังคับซื้อที่โรงเรียน ผู้ปกครองมีการนำมาเทียบราคา ของบางอย่างควรจะราคาเท่านี้ แต่ที่โรงเรียนจะแพงกว่า
ประเด็นมันอยู่ที่ว่าของที่ได้มาเป็นของที่ไม่มีคุณภาพ ใช้ไม่ได้ กาวเป็นแบบที่แห้งแล้ว ทาไม่ได้ ปากกาเขียนไม่ได้ ยางลบลบแล้วป่นออกมาเป็นยางลบเสื่อมสภาพ ในความเห็นของนักเรียนเขารู้สึกว่าเป็นของที่หมดอายุ แล้วเอามาบังคับขายในราคานี้ ราคาสูงกว่าข้างนอก และเป็นของที่ไม่มีคุณภาพด้วย”
ห่วงรุ่นน้อง “แต่ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว!!”
“ในเรื่องการทุจริต ถ้าถามว่ามีคนจะเข้าไปเป็นตัวแทนในการร้องเรียน หรือฟ้องร้อง จริงๆ อยากให้มี แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีใครอยากเปลืองตัวไปหาเรื่องใส่ตัว โดยเฉพาะตัวเอง แต่ในส่วนของผมที่เป็นห่วง คือเป็นห่วงตัวรุ่นน้อง”
รุ่นพี่รายนี้ยังยืนยันอีกว่า มีกลุ่มนักเรียน และศิษย์เก่าเป็นห่วงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเป็นห่วงถึงความรู้สึกของกลุ่มนักเรียนที่โดนครูประจำชั้นเรียกเข้าไปปรับทัศนคติ และสั่งห้ามไม่ให้สัมภาษณ์ออกสื่อ
“เมื่อวานถ้าไม่มีรุ่นพี่ไปโรงเรียน น้องคงแย่ ผมไม่พอใจครูประจำชั้นอย่างมาก ใช้คำพูดกับเด็กว่า “ครูก็มีเรื่องปวดหัวอยู่แล้ว ทำไมต้องทำให้มีเรื่องปวดหัว” เหมือนว่าเด็กทำไมถึงทำ จริงๆ เพราะถ้าเด็กไม่ทำ คนจะไม่สนใจอย่างนี้มั้ย ถ้าเกิดตัวเองอยู่ในฐานะครูประจำชั้น ก็ไม่ควรพูดกับเด็กแบบนั้น เราควรจะไม่ให้เด็กรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง”
ส่วนเรื่องที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าดูแล้วผู้อำนวยการมีอิทธิพลจะสามารถทำอะไรได้บ้าง และการกล่าวอ้างใดๆ มีหลักฐานหรือไม่นั้น เขาได้ทิ้งท้ายให้ฟังไว้ว่า ปัญหาเรื่องการทุจริตมันเป็นมาหลายยุคหลายสมัย ศิษย์เก่าหลายคนอยากเข้าไปช่วยสืบหลักฐาน แต่ขั้นตอนมันยาก
“ปัญหาเรื่องที่เกือบๆ ทุจริต หรือเข้าใจกันว่าทุจริตมันเป็นมาหลายยุคหลายสมัยบังเอิญว่าท่านผู้อำนวยการท่านนี้ ผมเข้าใจเองนะว่า เด็กโกรธตรงที่ท่านตะโกนด่าหน้าเสาธง หมายความว่าใช้เสียงที่อาจจะมากเกินไป สำหรับเด็กเขาอาจจะคิดว่าตะโกน น่าจะเป็นจุดความไม่พอใจของเด็กจากวงกว้าง
กลุ่มรุ่นพี่ที่อายุมากๆ จะมีลูก รุ่นพี่ที่อายุไม่มากก็จะมีน้อง เขาก็จะมีน้อง มีลูก มีหลานเขาอยู่ในโรงเรียน เขาจะรับรู้กันหมด พอเด็กกลับบ้านมาต้องมาเล่าว่าเป็นยังไง แล้วผู้ปกครองที่เคยอยู่ในสถานที่เดียวกัน เขาจะนึกออกว่าลูกพูดถึงอะไร
เท่าที่เห็นรุ่นพี่หลายคน เขากำลังหาหลักฐาน แต่อย่างที่บอกส่วนตัวผมรู้สึกว่าไม่ใช่ไม่อยากให้ทำนะ อยากให้ทำมาก แต่ผมเชื่อว่าหาคนทำยาก รุ่นพี่ที่เป็นทนายเยอะแยะ ขอให้ช่วยยังยากเลย”
อย่างไรก็ดี ล่าสุดทางผู้อำนวยการได้ออกเอกสารชี้แจงให้นักเรียนเข้าใจถึงเหตุผลต่างๆ 4 กรณี คือ กรณีพัดลมยักษ์ บัตรสมาร์ทการ์ด การใช้งบปรับปรุงภูมิทัศน์รอบโรงเรียน และเรื่องการไม่พัฒนาปรับปรุงห้องเรียน ห้องน้ำ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นยังเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน และโรงเรียน
ข่าวโดยทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพจาก : Twitter @_BM211S
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **