xs
xsm
sm
md
lg

ไฮไลต์ เปิดจุดเฝ้าฯรับเสด็จ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ร.๑๐

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ใกล้ถึงวันประวัติศาสตร์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่ปวงชนชาวไทยรอคอย ทีม MGR Live ขอนำเสนอเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการเตรียมตัวเรื่องพระราชพิธี จุดคัดกรอง สถานที่รับเสด็จ ตลอดจนข้อห้ามปฏิบัติในงานพระราชพิธี

อลังการ ๓ ริ้วขบวนมหามงคล

หลังจากที่ได้ชมการซักซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ออกมาพร้อมเพรียง สง่างาม สมพระเกียรติกันไปแล้ว ทั้ง 3 ริ้วขบวน ก็ใกล้มาถึงพิธีจริง เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์มหามงคล เพราะตั้งแต่วันที่ ๓ - ๖ พฤษภาคมนี้ อัดแน่นไปด้วยภาพประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า



พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ขึ้นเป็น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณี ซึ่งจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ ๓-๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ณ พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร และนับเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการถ่ายทอดผ่านทางสถานีโทรทัศน์

๓ พฤษภาคม (ริ้วขบวนที่ ๑)

เวลา 10.00 น. เชิญพระสุพรรณบัฏ ดวงพระราชสมภพและพระราชลัญจกรจากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ

เวลา 16.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร นมัสการพระรัตนตรัย ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิ

เวลา 16.19 - 18.00 น. จุดเทียนชัย พระสงฆ์ประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเจริญพระพุทธมนต์

๔ พฤษภาคม (ริ้วขบวนที่ ๒)

เวลา 10.09 - 12.00 น. สรงพระมุรธาภิเษก ณ ชาลาพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน, ทรงรับน้ำอภิเษก ณ พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์, ทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องบรมขัตติยราชวราภรณ์ และพระแสง ณ พระที่นั่งภัทรบิฐ จากนั้นทรงเลี้ยงพระ และพระสงฆ์ดับเทียนชัย

เวลา 14.00 น. เสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เวลา 16.00 น. เสด็จฯ โดยริ้วขบวนราบใหญ่ไปทรงนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ประกาศพระองค์เป็นศาสนูปถัมภก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ณ ปราสาทพระเทพบิดร ถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิ สดับปกรณ์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

เวลา 18.00 น. เจ้าพนักงานเวียนเทียนสมโภชหมู่พระมหามณเฑียร

เวลา 18.19 - 20.30 น. เฉลิมพระราชมณเฑียรและเถลิงพระแท่นบรรจถรณ์ ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน

๕ พฤษภาคม (ริ้วขบวนที่ ๓)

เวลา 9.00 น. พระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์ เลี้ยงพระ เทศน์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เวลา 16.30 น. เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยกระบวนพยุหยาตราสถลมารค จากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

๖ พฤษภาคม

เวลา 16.30 น. เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท รับการถวายพระพรชัยมงคล โดยพสกนิกรชาวไทย


เวลา 17.30 น. เสด็จออก ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ให้คณะทูตานุทูต แขกของรัฐบาล และกงสุลต่างประเทศเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล

19.00-19.30 น. การแสดงแปรอักษรเฉลิมพระเกียรติด้วยโดรน 300 ลำ

*ข้อควรรู้
ไฮไลต์จุดรับเสด็จฯ

จุดที่ดีที่สุดที่ประชาชนควรจับจองพื้นที่เพื่อเฝ้าฯ รับเสด็จ ในวันที่ ๕ พฤษภาคม ซึ่งในวันนี้จะเป็นริ้วขบวนที่ยาวที่สุด คือ ถนนหน้าพระลาน และถนนราชดำเนินกลาง เพราะจะเห็นริ้วขบวนพระบรมอิสริยยศ ขบวนที่ 3 สองรอบทั้งไปและกลับ

รวมถึงบริเวณท้องสนามหลวงในวันที่ ๖ พฤษภาคม ที่มีการแสดงแปรอักษรเฉลิมพระเกียรติด้วยโดรน 300 ลำ โดยแบ่งการขึ้นบินเป็น 2 ชุดใหญ่ จำนวน 167 ลำ และชุดเล็ก จำนวน 68 ลำ สลับกันขึ้นบินแปรขบวนไล่เรียงแสงสีบนท้องฟ้าอย่างเป็นระเบียบแปรอักษร โดยจะมีการซ้อมใหญ่ในวันที่ 5 พฤษภาคมก่อนแสดงจริงในวันที่ 6 พฤษภาคม ในเวลา 19.00 น.

ใช้เวลาในการบิน 8.16 นาที โดยจะแปรเป็นรูปร่างต่างๆ จำนวน 7 รูปแบบ 1.รูปแผนที่ประเทศไทย 2.รูปธงชาติไทย 3.อักษรคำว่า “ราชวงศ์จักรี” 4. เลข 10 ไทย 5.พระปรมาภิไธย ย่อ “ว.ป.ร.” 6.รูปพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ ๑๐ และ 7.อักษรคำว่า “ทรงพระเจริญ”

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องพกติดตัวไว้ คือ บัตรประชาชนในการเข้าพื้นที่ เพราะบัตรประชาชนถือเป็นบัตรเชิญ รวมถึงร่ม หมวกเพื่อกันแดด และกล้วยตาก เพื่อเพิ่มพลังงาน โดยแนะนำช่วงอากาศร้อนนี้ ควรจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อให้ร่างกายสดชื่น และไม่ต้องกลัวว่าจะขาดน้ำ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับสั่งให้จัดเสื่อ เบาะรองนั่ง และหญ้าเทียม และพระราชทานโรงครัว 18 จุด รวมถึงจุดน้ำดื่มไว้บริการประชาชนถึง 78 จุด

ส่วนจุดคัดกรองซึ่งจะใช้เวลาตรวจไม่เกิน 10 นาที เพื่อผ่านเข้าไปยังพื้นที่ภายในพระราชพิธีจะมีทั้งหมด 21 จุด ได้แก่ สะพานพระปิ่นเกล้า, ท่าช้าง, สนามหลวง ฝั่งถนนหน้าพระธาตุ, พระแม่ธรณี, ถนนจักรพงษ์ พิพิธภัณฑ์เหรียญ, ถนนข้าวสาร ก่อนตัดถนนตะนาว, ถนนตะนาว ฝั่งใต้, ถนนบูรณศาสตร์, ถนนบุญศิริ ก่อนถนนอัษฎางค์, สะพานข้างโรงสี, แยกบางลำพู, เชิงสะพานเฉลิมวันชาติ, แยกผ่านฟ้าลีลาศ (ถนนนครสวรรค์), แยกผ่านฟ้าลีลาศ (ถนนหลานหลวง), แยกผ่านฟ้าลีลาศ (ถนนดำรงรักษ์), ถนนมหาชัย (วัดราชนัดดา), ถนนดินสอ ฝั่งใต้, แยกเสาชิงช้า, แยกเฉลิมกรุง, วงเวียน สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง และท่าเตียน

นอกจากนี้ กองอำนวยการร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ยังได้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะมาร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยได้เตรียมที่จอดรถยนต์ส่วนบุคคลกว่า 38,000 คัน ใน 27 จุด และมีบริการรับส่งประชาชนที่มาร่วมงาน 3 ระบบ คือ ระบบรถ ระบบราง และระบบเรือ ฟรี!

รายละเอียดเพิ่มเติมในทุกเส้นทาง: phralan.in.th/coronation/route.php และแฟนเพจ "พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒" 

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะมีการปิดถนน 40 สายในเขตกรุงเทพมหานคร สำหรับใครที่กังวลใจว่าจะมีเส้นทางจราจรใดบ้าง สามารถดาวน์โหลด NOSTRA MAP แอปพลิเคชั่นแผนที่นำทาง มาไว้ดูได้ สามารถ ใช้ฟรีผ่านแอปเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง โดยดูรายละเอียดการปิดเส้นทางจราจร เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางและใช้สำหรับวางแผนการเดินทางในเส้นทางดังกล่าว รวมถึงประชาชนที่หาข้อมูลเส้นทางเพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

สำหรับข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามปฏิบัติในงานพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก มีดังนี้

*ควรปฏิบัติ

-สวมเสื้อผ้าสีเหลือง ใช้ร่ม พัด สวมหมวก แว่นกันแดดสีสุภาพ

-พกบัตรประชาชนเมื่อเดินเท้าผ่านจุดคัดกรองและพกพาบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวตลอดเวลา

- อยู่ในอาการสุภาพเรียบร้อย

-สามารถถ่ายภาพโดยใช้กล้องธรรมดา และกล้องโทรศัพท์มือถือ

-พกเฉพาะสิ่งของจำเป็นเท่านั้น เตรียมความพร้อมยา อาหาร น้ำดื่ม ยาประจำตัว

ต้องห้าม

-งดพกพาอาวุธ วัตถุโลหะที่อาจเป็นอันตรายเข้าพื้นที่เด็ดขาด

-งดสวมใส่ชุดไม่สุภาพ โทนสีดำ

-งดแสดงอาการหยอกล้อ อยู่ในอาการสำรวม

-งดถ่ายภาพโดยกล้องเลนส์ซูม และงดใช้ขาตั้งกล้อง

-ห้ามออกนอกพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ ไม่วิ่งตัดหน้าหรือห้อมล้อม กีดขวางทางริ้วขบวน


....ครั้งหนึ่งในชีวิตของประชาชนคนไทย มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทย!



 
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **

กำลังโหลดความคิดเห็น