อุปกรณ์เสริมความสุขทางเพศ “เซ็กซ์ทอย” ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงไม่จบสิ้น!! สังคมตั้งคำถามถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะไปข้างหน้า เพราะประเทศอื่นก็ไม่ได้มองเป็นเรื่องผิดปกติ แถมขายอย่างเสรี!! มีแต่คนไทยนี่แหละเอามาล้อกันเล่น สะท้อนให้เห็นถึงความคับแคบของทัศนคติเรื่องเพศ ด้านผู้เชี่ยวชาญซัด เป็นเรื่องปกติ ใครไม่ใช้บ้าง ชี้เป็นความสุขโดยไม่ต้องไปเสี่ยงติดโรค HIV!!
สะท้อนทัศนคติไทย VS ต่างประเทศ ยิ่งปิดกั้นยิ่งบานปลาย
นี่แหละหนอประเทศไทย! กำลังถกเถียงกันยกใหญ่ว่า ทำไมอุปกรณ์ช่วยเหลือตนเองเพื่อใช้สำเร็จความใคร่ทางเพศอย่าง “เซ็กซ์ทอย" ถูกมองเป็นเรื่องที่น่ากลัว ไม่เป็นที่ยอมรับ และทำไมถึงไม่เปิดขายอย่างเสรีสักที ทั้งที่ไม่ได้ไปสร้างความเสียหายร้ายแรงหรือฆ่าใครตายด้วยซ้ำ โดยมีผู้เสียหายโดนแฉจากการซื้อเซกซ์ทอย จนเขาถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย เพราะอับอายจากการมองเป็นเรื่องผิดปกติของสังคม
หนึ่งในเหตุการณ์ล่าสุดสะท้อนให้เห็นความคับแคบของคนไทยบางส่วนที่ยังมีเกี่ยวกับทัศนคติการใช้เซ็กซ์ทอย ที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง สำหรับกรณีพนักงานบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส แกะพัสดุของลูกค้าซึ่งเป็นเซ็กส์ทอยออกมาถ่ายรูปหรา พร้อมทั้งคุยล้อเลียน แถมบอกพิกัดเจ้าของพัสดุกับคนอื่นอีก
จากการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวพบว่า ผู้เสียหายได้เปิดเผยว่า ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่เรื่องตลกที่เอามาพูดล้อเลียน ทำให้เครียดถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย และทั้ง2 ฝ่าย มีการออกมาขอโทษ และทางบริษัทได้เยียวยาค่าเสียหาย พร้อมทั้งปรับความเข้าใจกันแล้ว
[ขอบคุณภาพจากเพจ"ล่า"]
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนออกมาเล่าประสบการณ์ที่สะท้อนให้เห็นความคับแคบของคนไทยบางส่วน ที่มองสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องผิดปกติ อย่างเจ้าของเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ได้บอกเล่าผ่านประสบการณ์ว่าอยากให้ประเทศมองเรื่องเซกซ์ทอยมีการค้าขายอย่างถูกกฎหมาย เพราะไม่ต้องการซื้อขายบริการ เพราะไม่เสี่ยงติดโรค
“ผมเห็นด้วยกับการทำให้Sextoyเป็นของถูกกฎหมายครับ และรวมถึงสินค้าที่เป็น+18ขึ้นไปด้วย ผมไม่อยากมีอะไรกับผู้หญิงขายบริการทางเพศ เพราะเป็นสิ่งเปลืองเงินและเสี่ยงต่อโรคครับ”
ขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีเพียงกรณีข้างต้นที่โดน อย่างคนในสังคมโซเชียลฯ ก็เคยเจอประสบการณ์โดยตรง และยิ่งทำให้สะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยยังไม่เปิดรับเรื่องนี้ ทั้งๆที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งโสเภณี
“ในตปท. เช่น เยอรมนี เราเห็นSex toy อยู่ในร้านแม่และเด็ก คือ มันปกติมากๆ เรื่องเพศถูกคน ถูกที่ ถูกเวลาคือเรื่องที่ดี เป็นการคลายเครียดและผ่อนคลายที่ธรรมชาติมอบให้มนุษย์ แต่เราทำตามความเหมาะสม กลับจะเป็นประโยชน์เรื่องสืบพันธุ์ มันสำคัญเพราะมันคือความอยู่รอดของมนุษย์ชาติ”
“จะใช้ Sex toy มันแปลกตรงไหน จะสวยจะหล่อหรือจะขี้เหร่ เขาอาจจะไม่อยากมีเซกซ์กับใคร เขาอาจจะไม่มีแฟนก็ได้ มันไม่เดือดร้อนใคร มันปลอดภัยด้วยไม่ต้องเสี่ยงติดโรค ไม่ต้องไปone night standกับใคร”
“ผมว่า Sex toy ดูเป็นทางออกที่น่าสนใจในเรื่องลดปัญหาการข่มขืน กระทำชำเราครับ แต่ก็ต้องมีการควบคุมมาตรฐานการผลิต วัสดุที่ใช้ ฯลฯ แต่มองอีกมุมหนึ่ง หากยังคงมีการขายบริการ(แบบถูกกฎหมาย) ก็ควรขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง ปลอดภัยกับผู้ใช้บริการ สบายใจผู้ประกอบการ”
“ญี่ปุ่น อาชญากรรมทางเพศ น้อยเกือบที่สุดในโลก ก็เพราะเขามีที่ระบายนี่แหละ. ลองดูบ้านเราสิ ข่าวข่มขืนรายวัน. แปลกดี เหมือนการพนันถูกกฎหมาย บริการทางเพศถูกกฎหมาย ดันผิด สุดท้ายแบบเล่นแอบบริการใต้ดินส่งส่วยทั้งนั้น”
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศ หรือเทียบกับประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศเสรีแห่งการขายเซกซ์ทอย อย่างเปิดเผย ซึ่งประเทศญี่ปุ่นมองว่า การขายเซ็กซ์ทอยเป็นการลดปัญหาเรื่องการข่มขืน ทั้งยังมีการขายใน “Sex Shop” ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโตเกียว โดยมีทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกัน ล้วนเป็นสถานที่ในการค้าขายเซกซ์ทอยทั้งสิ้น ซึ่งไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด และยังอนุญาตให้ขายสินค้าอย่างถูกต้อง มีความแตกต่างกับประเทศไทยที่เป็นสิ่งผิดกฎหมายอย่างชัดเจน
เช่นเดียวกับ Ti Chang (ทิชาง) ผู้ก่อตั้งและรองประธานกรรมการ "Crave" บริษัทออกแบบเซ็กซ์ทอยสุดหรู ที่มีจุดประสงค์ต้องการเปลี่ยนวิธีซื้อ และวิธีใช้เซ็กซ์ทอยของผู้หญิง เคยมองเรื่องการซื้อเซกซ์ทอยเอาไว้ว่า การทำให้ผู้หญิงมีความสุขกับเรื่องบนเตียงได้ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ไม่ใช่สิ่งที่ต้องถูกล้อเลียน
“ฉันเชื่อว่าเรื่องความต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะต้องอาย ไม่ว่าจะเป็นเซ็กซ์ทอย, เครื่องประดับ หรือสิ่งของอะไรก็ตามที่ถูกสร้างขึ้นมาเติมเต็ม มันไม่ควรจะถูกมองว่าเป็นตราบาปหรือของต้องห้ามอะไรทั้งนั้น และฉันก็พยายามจะใส่ความคิดเบื้องหลังเหล่านี้ของตัวเองลงไปในทุกๆ ชิ้นงานที่ออกแบบขึ้นมา
แล้วพอฉันได้เห็นผลลัพธ์ ได้เห็นผู้คนมีความสุขกับงานดีไซน์ อย่างที่ฉันคาดหวังเอาไว้ หรือบางทีก็เกินความคาดหวังด้วยซ้ำไป มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกสนุก และคิดว่าตัวเองบรรลุวัตถุประสงค์ในงานที่ทำแล้ว"
“ปลดปล่อย-เสริมความสุข” ป้องกันปัญหาติดเชื้อ HIV!!
“จริงๆผมมองว่าเป็นเรื่องที่ปกติ ที่ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร คือผมเข้าใจว่าสมัยก่อนจะมีความเชื่อเรื่องของการใช้เซ็กซ์ทอย เป็นพวกที่มีรสนิยมทางเพศ เป็นวิปริตถึงใช้กัน แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ มันเป็นแค่อุปกรณ์ที่ใช้ในการช่วยตัวเองธรรมดาอันหนึ่ง”
วิทวัส ศิริประชัย อดีตแพทย์ประจำโรงพยาบาลเกาะลันตา เจ้าของหนังสือเกี่ยวกับเพศศึกษาและเป็นผู้สนับสนุนเรื่องการใช้เซ็กซ์ทอยมาตลอด เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live หลังต่อสายตรงสอบถามถึงประเด็นทัศนคติการใช้เซ็กซ์ทอยของประเทศไทยที่ยังไม่ถูกยอมรับ รวมทั้งประเด็นสุดฮอตที่ถูกสังคมพูดถึงอยู่ในขณะนี้
โดยกูรูรายนี้ ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่าการใช้เซ็กส์ทอยมันเรื่องปกติมากๆในสังคมที่พัฒนาแล้ว มีการใช้กันตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ไม่ได้รับการยอมรับ เพราะเชื่อว่าผู้ไหนใช้อุปกรณ์เหล่านี้คือคนที่มีรสนิยมทางเพศ ส่วนการเอาพัสดุของลูกค้าที่เขาไว้วางใจให้ขนส่งมาทำแบบนี้ รู้สึกสมเพชกับพนักงานทั้ง 4 ราย และมองว่าเป็นเรื่องของการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของ
“คืออยู่ที่ความชอบ ใครชอบแบบไหนก็ใช้แบบนั้นไป มีทั้งของผู้ชาย และผู้หญิง ของผู้ชายก็ทั้งแบบจิ๋มกระป๋อง มีไข่หรรษา มีพวกตุ๊กตายางของผู้หญิงก็มีทั้งแบบดิ]โด้ และพวกอุปกรณ์แบบเย็บ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ
[โฆษณา"เซ็กซ์ทอย"ที่ประเทศฮ่องกง]
เขาไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เพราะเป็นการใช้ส่วนตัว มันก็ไม่ควรเอามาเป็นประเด็นที่ล้อเลียนให้เกิดความอับอายอะไร เพราะมันเป็นเรื่องปกติ ใครไม่ช่วยตัวเองบ้าง
ต่างประเทศก็ไม่ได้มองเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอาย เขาก็ขายเป็นเรื่องปกติ ถ้าไปประเทศญี่ปุ่น จะมีห้างขายเซ็กซ์ทอยโดยเฉพาะ มันก็ดูเป็นเรื่องปกติ อย่างฮ่องกงก็ขึ้นป้ายโฆษณาจิ๋มกระป๋อง เป็นเรื่องปกติ ก็มีแต่ประเทศไทยที่มองว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอาย จริงๆ ผมมองว่าน่าจะเปลี่ยนได้แล้วนะ เวลาเห็นเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปจับคนขายจิ๋มปลอม มันดูตลกยังไงบอกไม่ถูก มันสร้างความเดือดร้อนยังไงไม่ทราบ”
นอกจากนี้ ทนายรายเดิมยังให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้เซ็กซ์ทอย และความเป็นไปได้ที่เซ็กซ์ทอยจะถูกนำมาใช้อย่างเสรี และถูกกฎหมายในประเทศไทยเอาไว้ว่า การปรับเปลี่ยนกฎหมายให้เปิดกว้างมากขึ้นเป็นไปได้ถ้ารัฐบาลสนับสนุน ซึ่งการมีเซ็กซ์ทอยมองว่าเป็นประโยชน์มากกว่าการเป็นภัยร้ายแรง
“ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่เข้าไปในสภาเยอะ ผมว่าแนวโน้มที่จะมีการปรับเปลี่ยนกฎหมายให้มันเปิดกว้างมากขึ้นก็น่าจะเป็นไปได้ เพราะจริงๆคนรุ่นใหม่ส่วนมากมองเรื่องนี้เป็นเรื่องปกตินะ ไม่ได้ผิดแปลกอะไร
การใช้ดิลโด้จู๋ปลอม ไม่มีทางติดเชื้อ HIV เป็นสิ่งที่ปลอดภัย คือเป็นช่องทางที่สามารถมีความสุขโดยไม่ต้องไปเสี่ยงติดโรค เรื่องของการช่วยตัวเอง การทำอะไรสิ่งนี้ ต่างประเทศจะอยู่ในหลักสูตรเพศศึกษาของเขา เขาก็มีการหยิบเรื่องนี้มาคุยกันไม่ขวยเขิน ทั้งเรื่องการป้องกันตัว การใช้ถุงยาง การช่วยตัวเอง ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่ถ้าเรามองว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอาย ไม่อยากพูดถึง คนก็จะหันไปลองผิดๆถูกๆ
จริงๆ แล้วการที่ใช้สิ่งนี้เหมือนเป็นการช่วยตัวเอง มันเป็นสิ่งที่สามารถระบาย คือเรื่องของอารมณ์ทางเพศมันไม่ใช่แค่ปลดอารมณ์ทางเพศอย่างเดียว การที่บอกว่าให้เด็กที่มีอารมณ์ทางเพศไปออกกำลังกาย ไปเตะบอล ที่เป็นมุกขำขันในข้อสอบนั้น มันเป็นแค่การลดการควบคุม แต่ไม่ใช่การปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ ซึ่งการช่วยตัวเองเป็นการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศที่ดี และการใช้อุปกรณ์เสริมเป็นสิ่งที่ทำให้ปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดอันตราย ไม่เสี่ยงติดเชื้อ ไม่เสี่ยงติดกามโรค ทำไมถึงไม่ควรสนับสนุน ควรสนับสนุน”
ข่าวโดยทีมข่าว MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **