xs
xsm
sm
md
lg

เจาะกลยุทธ์การเลือกดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์ ผลประโยชน์ไม่ลงรอย ดรามาชามโต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สะเทือนวงการบันเทิงผลประโยชน์ไม่ลงรอยปมขัดแย้งธุรกิจอาหารเสริมของเหล่าดาราปู-ต้นหอม-มะตูมชี้แจงใครเป็นบอสไม่เป็นบอส ด้านทนายของปูยืนยันจะฟ้องกลับเพื่อให้เรื่องจบ 2กูรูด้านการตลาดแนะกลยุทธ์ในการเลือกดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์ในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ฉาบฉวยภาพลักษณ์ดีตอบโจทย์พรีเซ็นเตอร์สินค้ายอดฟอลโล่วไม่ได้บอกอะไรทั้งหมดอยากให้ดูในเรื่องของคุณภาพมากกว่า

ดรามา!วงแตก ผลประโยชน์ไม่ลงรอย

ปมดรามาขัดแย้งเรื่องธุรกิจที่ดูเหมือนจะไม่จบลงง่ายๆกรณี ปู-ไปรยาออกมาให้สัมภาษณ์แตกหักการทำงานร่วมกันกับต้นหอม-ศกุนตลาเทียนไพโรจน์ และ มะตูม-เตชินท์พลอยเพชรเรื่องการยกเลิกสัญญาการเป็นพรีเซ็นเตอร์อาหารเสริมPraya by LB Slim” ในเครือบริษัท ak91หลังจากมีปัญหาเรื่องการตรวจสอบยอดขาย

ล่าสุดมะตูมได้ออกมาชี้แจงผ่านสื่อถึงเรื่องดังกล่าว่าการร่วมงานของปูนั้นอยู่ในฐานะบอสและพรีเซ็นเตอร์มีการแบ่งผลประโยชน์เท่ากันรับผิดชอบร่วมกัน ทุกอย่างหารเท่ากัน

มีการยื่นข้อเสนอกับทางคุณปูไปว่ายูจะเป็นบอสหรือเป็นพรีเซ็นเตอร์เขาก็บอกว่าโอเคเดี๋ยวเขาจะมาทำธุรกิจกับเราดูแต่ทำเป็นบอสเลยนะร่วมกับเราเพราะฉะนั้นตูมก็เลยเข้าใจมาตลอดว่าปูเขาเลือกที่จะเป็นบอสก็เลยงงกับบทสัมภาษณ์ของเขาเฉยๆแล้วในตามสัญญา ก็ระบุว่าเป็นบอสคือทุกอย่างหารเท่ากันรับผิดชอบร่วมกันครับ”

ไม่เพียงเท่านี้ มะตูมยังได้ชี้แจงอีกว่าบริษัทของตนนั้นมีสินค้าอยู่ด้วยกันหลายตัว ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ LB”ตัวแรก พรีเซ็นเตอร์คือ ดีเจต้นหอมแล้วจากนั้นต่อมา 18(เอธธีน)”เป็น แต้ว-ณฐพรต่อมาก็เป็น Prayaby LB” ปู-ไปรยาตัวล่าสุดคือ “ไฮร่าบลู”ได้ กุ๊บกิ๊บ-สุมนทิพย์ เป็นพรีเซ็นเตอร์

เพราะฉะนั้นคำว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ไหมในเชิงของการพูดออกสื่อ เขาเป็นบอสและพรีเซ็นเตอร์ คือคำว่าพรีเซ็นเตอร์หมายความว่าคุณต้องพรีเซนท์สินค้าในมุมของบริษัท มีตูม มีพี่หอมมีคุณกอล์ฟเป็นหลัก 3 คน แต่สินค้าแต่ละตัวทุกๆ คนเป็นพรีเซ็นเตอร์ของตัวเอง แต่ได้รับผลประโยชน์มากกว่าพรีเซ็นเตอร์ นั่นคือการเป็นบอส ซึ่งระบุในสัญญาชัดเจนว่าเป็นมากกว่าพรีเซ็นเตอร์คือเป็นบอสครับ”

ในวันเดียวกันด้าน บวรสิทธิ์ นิติยวาณิชย์ ทนายความของ ปู-ไปรยา ก็ออกมาแถลงข่าวยืนยันจะฟ้องกลับเพื่อให้เรื่องจบ อีกทั้งยืนยันว่ามีการแบ่งกำไรให้จริงแต่ปูไม่ได้ถือหุ้นไม่ได้เป็นกรรมการบริษัท ไม่สามารถตรวจสอบรายรับรายจ่ายได้ จึงกำหนดกติกาให้อัพเดทบัญชีทุกเดือนแต่กลับมีการลงบัญชีไม่ตรงกับยอด ส่วนในสัญญาการจดทะเบียนการค้าต้องเป็นปูแต่ก็ไปจดกันเองพอเคลียร์ไม่ได้ปูจึงขอยกเลิกสัญญา

เอาจริงๆนะ ทุกคนจำกัดความคำว่าบอสยังไงกันบอสคือเจ้าของผลิตภัณฑ์บริหารการขาย ลูกค้าอยู่ในมือรับเงินมาแบ่งให้ทุกคนดูแลรายรับรายจ่ายแต่ที่พูดมาทั้งหมดปูไม่ได้ทำเลยปูเป็นพรีเซ็นเตอร์มีสัญญาใช้สิทธิ์แนบพ่วงกับสัญญาพรีเซ็นเตอร์

คำว่าบอสไม่ได้หมายความว่าเป็นเจ้าของกิจการ เราเซ็นสัญญาพรีเซ็นเตอร์ การกำหนดทิศทางการตลาดทางการโฆษณาเราต้องทำตามผู้ประกอบการที่เขาลิสต์มาให้เรา ไม่งั้นเราก็ผิดสัญญา เรื่องทักท้วงเรื่องบอสผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ผมคิดว่าคำว่าบอสไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเป็นเจ้าของจริง เพราะตกลงกันในสัญญาแล้วว่าบอสนั้นเราไม่ได้หมายถึงการเป็นเจ้าของกิจการในรูปแบบห้างหุ้นส่วนไม่จดทะเบียน”

นอกจากนี้ทนายยังชี้แจงอีกว่าปู โดนบริษัทต้นหอมกับมะตูมฟ้องก่อน แต่ก็ไม่ฟ้องกลับและไม่ให้ข่าวเพราะกลัวส่งผล กระทบกับตัวแทนและคิดว่าน่าจะตกลงกันได้ในชั้นศาลจะได้ไม่กระทบตัวแทน
ส่วนที่“ต้นหอม” และ “มะตูม” บอกว่า“ปู” เป็นบอสสินค้าเป็นเจ้าของสินค้าและเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น ทนายความยืนยันว่าปูไม่ได้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เป็นพรีเซ็นเตอร์และมีสัญญาแนบพ่วงส่วนที่ใช้คำว่า บอสเพราะเป็นแนวทางการตลาดของบริษัทต้นหอมมะตูมที่พรีเซ็นเตอร์ต้องทำตาม
ขณะเดียวกันก็เกิดเป็นประเด็นบนโลกออนไลน์ ที่ชาวโซเชียลต่างขุดเรื่องราวในอดีตของปู ออกมาวิพากษ์วิจารร์อยู่ในขณะนี้ ล่าสุดก็ไม่รอดถูกชาวโซเชียลขุดว่าก่อนที่จะมาถึงจุดแตกหนักในครั้งนี้เจ้าตัวก็เคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับอาหารเสริมลดน้ำหนักแบรนด์หนึ่งที่เรียกได้ว่าจบไม่สวยสักเท่าไหร่เมื่อ 3 ปีก่อน


ยอดฟอลโล่วเยอะ-ภาพลักษณ์ดี-ตอบโจทย์พรีเซ็นเตอร์


กลายเป็นกระแสร้อนแรงกันเลยทีเดียวสำหรับปมขัดแย้งธุรกิจอาหารเสริมทีมข่าว MGR Live จึงติดต่อไปยัง ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ถึงเรื่องกลยุทธ์ในการเลือกสรรดาราหรือพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้า ว่าขึ้นอยู่กับจุดประสงค์อะไรบ้างที่จะสามารถครองใจผู้ซื้อสินค้าได้เป็นอย่างดี จึงได้คำตอบว่าขึ้นอยู่กับยอดติดตามและกลุ่มเป้าหมายของสินค้ารวมถึงพรีเซ็นเตอร์คนนั้นต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีอีกด้วย
การเลือกศิลปินดารา มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้า ดาราคนนั้นต้องมีตัวตนในโซเชียลมีเดีย คนต้องตามเยอะด้วยโดยเฉพาะในไอจีเป็นหลัก แต่ตามเยอะก็ยังไม่เท่าว่าดาราที่คนตามนั้นสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าหรือไม่ ยกเว้นว่าสินค้านั้นจะซื้อให้คนอื่นใช้สมมติว่าเป็นอาหารเสริมช่วยบำรุงน้ำนมมารดา คุณไปเลือกคนที่ไม่ได้แต่งงานมาก่อนเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ไม่ได้ คุณก็ต้องเลือกดาราที่เพิ่งแต่งงานและกำลังมีลูก
ในเชิงของการเป็นดาราการเป็นข่าวที่ไม่ดี ดีกว่าไม่เป็นข่าว ถึงจะเป็นในแง่ไม่ใช่ด้านบวก แต่ถูกพูดถึงยังดีกว่า เอาง่ายๆ คือคุณไม่ได้หายไป และหากดาราคนนั้นมีข่าวเสียหายมีภาพทางด้านลบก็จะไม่โดนรับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะว่าถ้าดารามีภาพลบแบรนด์ต่างๆ ก็จะถูกถอดออกจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์เพราะฉะนั้นการเป็นดารา นักร้องก็ต้องรักษาภาพที่ดีไว้ไม่ให้ภาพในเชิงลบออกมา“
ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดยังเผยอีกว่า ดาราเปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ไว้ดึงดูดผู้บริโภค นั่นก็คือแฟนคลับ และไม่ใช่แค่ในเมืองไทยเท่านั้น วงการ K-pop ก็มาแรง ทำให้บริษัทเหล่านั้นก็ไปจ้างดาราเกาหลี เช่น เถ้าแก่น้อย สาหร่ายในเครือสิงห์ เพราะวัยรุ่นไทยก็ชื่นชอบ K-pop อีกทั้งได้ผลดี ยอดขายสินค้าก็พุ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดรายเดิมยังย้ำอีกว่า ดาราต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมถึงจะยืนอยู่ได้ในระยะยาวในสังคม ต้องไม่ไปโพสต์ให้คนเข้าใจผิดหรือไปโพสต์ให้คนเข้าใจในทางที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าบางทีเยาวชนก็อาจจะเกิดการเลียนแบบได้ ยกตัวอย่างเช่น เคสเมจิกสกินจ้างดารานักร้องตัวท็อปไม่สนใจ แต่เอาดังไว้ก่อน พอสินค้ามีปัญหาไม่ผ่านอย.ดาราเหล่านั้นก็ปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นคนใช้ บอกแค่ว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์อย่างเดียว ทำให้คนตั้งคำถามว่าดารานักร้องก็ไม่ได้ใช้เอง

ไม่เพียงเท่านั้น เกียรติรัตน์ จินดามณี ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ยังได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวของเราว่า ในแง่ของการตลาดนั้นกลยุทธ์ในการเลือกดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์ในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ฉาบฉวย ตัวเลขไม่ได้บอกอะไรทั้งหมด อยากให้ดูในเรื่องของคุณภาพมากกว่า

ยอดฟอลโล่วมีผลบ้างแต่ผมว่าไม่ใช่จุดสำคัญหลักๆ ยอดฟอโล่วเองไม่ได้บอกว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราหรือเปล่า เช่น เน็ตไอดอลผู้หญิงสวยๆ ฟอลโล่วเป็นแสน แต่คำถามคือถ้าคุณขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผู้หญิง อาหารเสริม ยาลดน้ำหนัก แต่ลองไปดูว่ายอดฟอลโล่วเป็นผู้หญิงหรือเป็นผู้ชาย ตัวเลขไม่ได้บอกอะไรทั้งหมด อยากให้ดูในเรื่องของคุณภาพมากกว่า ยอดติดตามก็มีผลเล็กน้อยกับเจ้าของแบรนด์ที่จะมาจ้าง
ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เยอะขึ้น รูปแบบของความเชื่อการทำการตลาดควรจะไปคำนึงจริงๆ ในเรื่องของงานวิจัยว่าได้มาถูกต้องหรือไม่ พาไปดูกลุ่มของโรงงาน ไปดูว่าโรงงานมีความน่าเชื่อถือมากน้อยขนาดไหน ถ้าสามารถนำนักโภชนาการ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรทางด้านอาหารเสริมมาให้ข้อมูลกับผู้บริโภคได้บนโลกออนไลน์ จะมีประโยชน์กว่าที่เราจะไปเอาดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์”
เกียรติรัตน์ จินดามณี ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดรายนี้ ยังทิ้งท้ายไว้ว่า เทรนด์ที่จะนำดาราหรือคนดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์เหล่านี้เปลี่ยนไปแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องอาหารเสริมที่โดนจับเมื่อประมาณสองปีก่อน ทุกวันนี้คนที่น่าจะไปเกาะคือกลุ่มคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านแพทย์ เภสัชกร มากกว่า


** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **



กำลังโหลดความคิดเห็น