ทำได้หรือ? ขายยาทำแท้งว่อนโซเชียล กิน-สอด-พร้อมส่งฟรี รีวิวกว่าหมื่นเคส อ้างมีแพทย์ให้คำปรึกษา แต่เมื่อสอบถามชื่อแพทย์ไปกลับบ่ายเบี่ยง ด้าน อย. เตือนอย่าหลงเชื่อคำอ้างของคนขาย อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต ทนายชี้ มีโทษทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ส่วนแพทย์มีความผิดถึงขั้นถูกเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ
ใช้กิน-ใช้สอด-พร้อมขับเลือด มารหัวขน!!
“ขายยาสอด ยาทำแท้ง ยาขับเลือด โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์นานหลายปี ตัวยามิดชิดอยู่ในแผง 100% ทุกตัวเรานำเข้า การันตีคุณภาพ ปลอดภัยเห็นผลใน 24 ชั่วโมง ดูแลผู้ใช้ตั้งแต่อริ่มใช้จนจบเคส รีวิวกว่าเหมื่นเคส จากผู้ใช้จริง แอทไลน์สั่งซื้อหรือโทรด่วน”
นี่เป็นข้อความโพสต์ขายยาทำแท้ง ในทวิตเตอร์ ซึ่งพบมากกว่า 10 account ที่ขายกันแบบโจ่งครึ้มไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยอ้างว่ามีคำแนะนำเฉพาะทางจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์นานหลายปี และยังอ้างอีกว่ามีเคสรีวิวอีกเพียบ
ไม่เพียงเท่านี้ ทีมข่าว MGR Live ยังได้ไปสุ่มสอบถามกับร้านค้าออนไลน์ทั้งหมด 3 ร้าน ที่อ้างว่าขายยาทำแท้ง โดยบอกว่า สนใจยาทำแท้ง พร้อมบอกว่ามีอายุครรภ์ 4 เดือน เพียงไม่นานหลังจากนั้นทั้ง 3 ร้านก็ตอบกลับมาว่าจะแนะนำยาให้ พร้อมบอกชื่อตัวยาทั้งสองชนิด และบอกปริมาณที่ต้องกิน
จากการสอบถามทั้ง 3 ร้าน พบว่ามีการขายตัวยาเดียวกัน แต่คนละราคา ปริมาณการกิน การสอดของแต่ละร้านก็แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เหมือนกันจากการสอบถามทางร้านคืออ้างว่ามีคำแนะนำจากแพทย์ และมีความปลอดภัยอย่างแน่นอน ไม่มีอันตราย เห็นผลภายใน 24 ชั่วโมง
“ยาของเราปลอดภัยไม่มีตกเลือดไม่ต้องไปโรงพยาบาล ไม่มีอันตราย เห็นผลภายใน 24 ชั่วโมง แพทย์คอยให้คำแนะนำตลอดพร้อมวิธีทำอย่างละเอียด ส่วนวิธีการใช้ยาจะให้ตอนได้ของแล้ว และสามารถปรึกษาได้ตลอดการใช้ยา”
“ชุดนี้ได้ผลภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เป็นอันตราย ไม่มีตกเลือด ไม่มีผลข้างเคียง ปลอดภับ ออกชัวร์ 100% ปลอดภัย ไม่อันตราย ไม่มีผลข้างเคียง”
“ตัวยา 2 ชนิดเป็นตัวยาเดียวกัน มีประสิทธิภาพเหมือนกัน ต่างกันเพียงประเทศที่ผลิต และเป็นยารักษาโรคกระเพาะ แต่มีคุณสมบัติ อีกอย่างหนึ่งที่นำมาใช้ในการทำแท้งในทางการแพทย์ได้อย่างดีเยี่ยม คือนำยาชนิดนี้มาสอดช่องคลอด กลไกลของตัวยาสามารถออกฤทธิ์กระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกเปิดส่งผลให้เกิดการแท้งนั่นเอง”
เพื่อความแน่ใจจากที่ทั้ง 3 ร้านอ้างว่ามีแพทย์คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ทีมข่าวของเราจึงลองส่งข้อความขอสอบถามชื่อแพทย์ที่ให้คำปรึกษาไปอีกครั้ง กลับโดนบ่ายเบี่ยง โดยหนึ่งในร้านดังกล่าวกลับบอกแค่ชื่อเล่นของแพทย์ และอ้างว่าขณะนี้แพทย์ติดงานอยู่ไม่สะดวก ส่วนอีกสองร้านแก้ปัญหาโดยการไม่ตอบทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ตอบคำถามหมดทุกอย่าง
ส่วนเรื่องอย. ที่สอบถามไปว่า มีอย.รับรองหรือไม่นั้น ทางร้านได้ตอบกลับมาว่า ยาตัวนี้นำเข้าจากอเมริกา ไม่มี อย.ไทย เพราะเป็นยาควบคุม ให้ทำความเข้าใจว่ายาทำแท้งไม่ใช่อาหารเสริม ตัวยาปลอดภัยแน่นอน แต่ประเทศไทย ไม่เสรีในการทำแท้ง ไม่ใช่ยาอันตราย เพียงแต่ประเทศไทยไม่เปิดเสรี
นอกจากนี้คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีมาตราการในการจัดการขายยาทำแท้งเถื่อนด้วยการรวบรวมข้อมูลให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจาก อย.เองไม่ใช่ฝ่ายที่ดูแลอินเทอร์เน็ต จึงต้องประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาดำเนินการ
ด้าน นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงเรื่องยาดังกล่าวที่เมื่อครั้งที่ตำรวจจับกลับยาทำแท้งเถื่อนไว้ว่าต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ เพราะอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ และยอมรับว่าเรื่องนี้จัดการยาก
“อยากเตือนให้ผู้บริโภคระวังในการซื้อยาผ่านอินเทอร์เน็ต เพราะยาดังกล่าวนั้นต้องอยู่ภายใต้การควบคุมการดูแลของแพทย์ หรือมีเภสัชแนะนำวิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง เพราะอาจส่งผลข้างเคียงได้ เช่น การตกเลือด หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าจะมีผลข้างเคียงเช่นไร
นอกจากนี้ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่ายาที่มีการขายเป็นยาจริง ดังนั้นอย่าหลงเชื่อคำอ้างของคนขาย เพราะอาจจะนำยาอื่นมาหลอกขาย หรือเป็นยาปลอม ซึ่งอันตราย และร้านค้าบางรายถึงขั้นอ้างว่ามี อย.รับรอง ขอยืนยันไม่เป็นความจริง”
ทั้งนี้ในทางการแพทย์สำหรับยาที่ทางร้านแนะนำมาให้นั้น จัดเป็นยาควบคุมพิเศษที่ให้ใช้เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น โดยใช้สำหรับการป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร แต่เนื่องจากยาตัวดังกล่าวจะออกฤทธิ์เพิ่มความแรงในการบีบตัวของมดลูก ซึ่งอาจทำให้ตัวอ่อนที่เกิดจากการปฎิสนธิในครรภ์ถูกขับออกมาได้
ท้าทายกฎหมาย ลอบขายยาทำแท้ง!!
ด้าน ทนายรัชพล ศิริสาคร เจ้าของเพจสายตรงกฎหมาย ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Live จึงได้คำตอบว่า
มีความผิดทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย หากแพทย์มีส่วนที่เกี่ยวข้องอาจถูกเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ
“การขายยาทำแท้งและผู้ซื้อไปใช้ เข้าข่ายเป็นการผิดกฎหมาย ในมุมของผู้ที่ซื้อยาไปทำให้ตนเองแท้งลูกนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301 มีหลักว่า หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูกหรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น การซื้อยาไปทำให้ตนเองแท้งลูก ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมาย
ส่วนผู้ขาย อาจเข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด เพราะเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิด ซึ่งได้ทำก่อนที่จะมีความผิดเกิดขึ้น ต้องระวางโทษ 2 ใน 3 ส่วนของความผิดนั้น
ในขณะเดียวกัน หากพบว่ามีแพทย์คอยแนะนำคอยให้คำปรึกษาให้จริง ถือว่าแพทย์มีความผิดในฐานะผู้สนับสนุนรับโทษ 2 ใน 3 เช่นเดียวกัน และหากจงใจกระทำมีความผิดอาญาอาจถูกเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพได้”
นอกจากนั้นทนายความยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อาจเข้าข่ายในเรื่องของการขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย ซึ่งต้องดูพยานหลักฐานว่า ใครเป็นผู้ขายแล้วมีใบอนุญาตหรือไม่
“จริงๆ แล้ว การทำแท้ง สามารถทำได้โดยถูกกฎหมาย แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขของกฎหมาย กล่าวคือ ต้องได้รับความเห็นจากแพทย์ว่าให้ทำแท้งได้ เนื่องจากสุขภาพของหญิงนั้น หรือเกิดจากการกระทำความผิดอาญา เช่น ถูกข่มขืนมา เป็นต้น
เรื่องนี้หน่วยงานรัฐควรรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการคุมกำเนิดให้มากขึ้น เพื่อให้เด็กเข้าถึงและสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรได้”
ทั้งนี้ประเทศไทยมีกฏหมายห้ามทำแท้งปรากฏในข้อบังคับของแพทยสภาว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฎิบัติเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ตามมาตรา 305 โดยอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถทำแท้งได้เพียง 2 กรณีคือ กรณีที่สุขภาพไม่แข็งแรงทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ และกรณีที่ตั้งครรภ์เนื่องจากถูกกระทำชำเรา
เมื่อการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดทางอาญา โดยการถูกข่มขืน และการกระทำเกี่ยวเนื่องกับการจัดการบริการทางเพศที่มีการข่มขืนเพื่อซื้อบริการทางเพศ แพทย์ก็สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ถูกต้องตามกฏหมาย รวมถึงผู้หญิงตั้งครรภ์อายุไม่เกิน 15 ปีบริบูรณ์สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ เพราะมีกฎหมายคุ้มครองผู้เยาว์ และหากการตั้งครรภ์นั้นส่งผลต่อสุขภาพมารดา ก็สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้เช่นเดียวกัน
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **
