xs
xsm
sm
md
lg

ปัญหาซุกใต้พรม! ปม รพ.ทำคลอดเด็กตาย เหตุร้องเรียนอันดับ 1 ทั่วโลก!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บีบหัวใจคนเป็นพ่อเป็นแม่! ทีมแพทย์ รพ.ย่านปทุมฯ ทำคลอดลูกเสียชีวิต สภาพศพหูฉีก-คอเขียว! ด้าน รพ.ส่งตัวแทนเยี่ยมใส่ซองให้ 1 หมื่นแลกชีวิตลูก คุณพ่อตั้งข้อสังเกตลูกหนัก 3,800 กรัม ทำไมปล่อยให้คลอดเอง! พร้อมตั้งคำถามย้ายภรรยาจาก รพ.มาอีก รพ.ทั้งที่ลูกยังคาอยู่ที่ปากช่องคลอดเป็นเรื่องปกติหรือ!? ปธ.เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์แนะคุณพ่อคุณแม่ผู้สูญเสียลูกรีบยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาสูงสุด 4 แสน! ชี้ปม รพ.ทำคลอดเด็กตายเหตุร้องเรียนอันดับ 1 ทั่วโลก!

ลูกตาย ใครผิด!?

เศร้าเกินบรรยาย! พ่อแม่สูญเสียลูกคนแรกของชีวิต เเละเป็นลูกชายที่เฝ้ารอ ทะนุถนอมมาอย่างดี เพื่อรอวันคลอดลืมตาดูโลก แต่สุดท้าย วันเกิดกลับกลายเป็นวันตายของลูก!

บัวขาว ปราณีดุจศรี คุณพ่อของน้องซีวิค ทารกที่เสียชีวิตระหว่างคลอด เล่าเรื่องราวสุดเศร้าพร้อมน้ำตา ตนเองและภรรยาแต่งงานกันและอยากมีลูก กระทั่งภรรยาเกิดตั้งท้องตนเองจึงนำไปภรรยาไปฝากท้องที่ ร.พ.แพทย์รังสิต จนภรรยาตั้งท้องได้ 12 สัปดาห์ จึงให้ภรรยาลาออกจากงานประจำเพื่อมาอยู่บ้านเฉยๆ เพราะกลัวว่าภรรยาต้องทำงานหนักแล้วจะแท้งลูก จนกระทั่งประกันสังคมขาดจึงดำเนินเรื่องทำบัตรทอง 30 บาท โดยมีต้นสังกัดอยู่ที่ รพ.ประชาธิปัตย์

จนวันที่ 6 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 10.00 น.ภรรยาเกิดเจ็บท้องน้ำเดินตนเองจึงนำไปส่งที่ รพ.ลำลูกกา เพราะอยู่ใกล้บ้านแต่เมื่อเดินทางไปถึงแล้วพยาบาลได้ทำการเช็คสิทธิ์ และตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าต้นสังกัดอยู่ที่โรงพยาบาลประชาธิปัตย์ ประกอบกับปากมดลูกเปิดอยู่ที่ 2 เซนติเมตร จึงรีบให้ตนเองพาภรรยาไปที่ รพ.ต้นสังกัดเพราะยังอยู่ในช่วงที่ปลอดภัย

ตนเองจึงเดินทางมาถึงในเวลาประมาณ 11.00 น.โดยเมื่อมาถึงพยาบาลได้นำภรรยาเข้าห้องคลอดไป โดยให้ตนเองเฝ้าหน้าห้องและพยาบาลก็ออกมาบอกตลอดเวลาว่าช่องคลอดเปิดกี่เซนติเมตร และแม่ของเด็กมีน้ำตาลในเลือดสูงเด็กตัวโต “อาจจะคลอดยากหน่อยนะคุณพ่อ”

กระทั่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานจนเวลา 22.00 น. ภรรยาตนเองปวดท้องหนัก หายใจไม่ออกจึงร้องขอให้พยาบาลเรียกตนเองเข้าไปหา เมื่อตนเองเดินไปพบภรรยาที่นอนอยู่บนเตียงภรรยาจึงบอกให้ทราบว่า อุปกรณ์ที่ให้ออกซิเจนซึ่งปิดจมูกอยู่นั้นอ๊อกซิเจนไม่ออกมาประมาณ 20 นาทีแล้ว ตนเองจึงลองนำมาครอบจมูกตนเองก็พบว่า ไม่มีอ๊อกซิเจนออกมาจึงไปแจ้งพยาบาล จนนำอ๊อกซิเจนมาเปลี่ยนให้

จากนั้นเวลา 23.00 น. พยาบาลได้พาภรรยาตนเองเข้าไปในห้องทำคลอด เพื่อทำคลอดก่อนจะให้ตนเองออกมารอหน้าห้องคลอด กระทั่งเวลา 01.00 น.ของอีกวันหนึ่งพยาบาลออกมาบอกตนเองว่า คุณพ่อทำใจนะลูกไม่ค่อยดีนะ ก่อนที่พยาบาลอีกคนตะโกนให้ รปภ.ไปตามหมอ ไม่ถึง 10 นาทีหมอก็มา

“ผมรู้ว่าเกิดความผิดปกติขึ้นเลยรีบวิ่งตามหมอเข้าไปติดๆ หมอและทีมทำคลอดก็ถามว่าผมเป็นใครเข้ามาได้ยังไง ผมบอกว่าผมเป็นพ่อของเด็ก และสิ่งที่ผมเห็นก็คือคนที่ทำคลอดลูกผม ไม่ใช่หมอแต่เป็นพยาบาล พยายามทำคลอดกันเอง หมอเพิ่งเข้ามาทีหลัง และผมเห็นว่าหัวของลูกผมคาอยู่ เค้าบอกว่าให้คุณพ่อทำใจ เพราะเด็กอาการไม่ดีหัวโผล่อย่างเดียว พยาบาลพยายามดึงจนสุดความสามารถแล้ว ผมถามว่าในเมื่อเด็กตัวใหญ่ทำไมถึงไม่ผ่าคลอดเขาบอกว่าที่โรงพยาบาลเครื่องมือและอุปกรณ์มีไม่ครบ”

จนเวลาผ่านไป 20 นาที คือเวลา 01.25 น. จึงทำการเคลื่อนย้ายภรรยาตนเองและลูกชายที่คลอดออดกมาเพียงครึ่งตัวขึ้นรถโรงพยาบาลส่งตัวไปที่ รพ.ปทุมธานี

คุณพ่อ เผยต่อพร้อมน้ำตาว่า เมื่อไปถึง รพ.ปทุมธานี ทีมแพทย์ได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการใช้เครื่องดูดลูกตนเองออก ก่อนที่ทีมแพทย์จะออกมาบอกว่า กำลังช่วยชีวิตน้องอยู่หัวใจน้องไม่เต้น แต่แม่ปลอดภัย สุดท้ายลูกเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยตนเองคิดว่า สาเหตุการเสียชีวิตนั้นมาจากทีมทำคลอดของ รพ.ประชาธิปัตย์ กระทำการผิดพลาดลูกตนเอง

พร้อมตั้งคำถามลูกของตนมีน้ำหนักถึง 3,800 กรัม ทำไมไม่ผ่าคลอด เพราะเด็กลำตัวขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นลูกคนแรก ลูกตนเองต้องมาเสียชีวิตเพราะไม่สามารถคลอดออกมาได้ และการเคลื่อนย้ายภรรยาตนเองจาก รพ.หนึ่งมาอีก รพ.หนึ่งโดยที่เด็กยังคาอยู่ที่ช่องคลอดนั้นปกติหรือไม่!?

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ รพ.ประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาเยียวยาโดยการมอบเงินให้ 10,000 บาท อีกทั้งไม่ได้เอ่ยปากขอโทษได้แต่แสดงความเสียใจและบอกว่าเป็นอุบัติเหตุ คุณพ่อสุดอัดอั้นวอนสังคมช่วยเพราะตนเองไม่มีเงินไม่มีทองไม่มีความรู้จะไปเรียกร้องใดๆ

รพ.ทำคลอดเด็กตาย ปัญหาคาราคาซัง!

ทีมข่าว MGR Live รีบติดต่อขอความช่วยเหลือไปยัง ปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ แนะคุณพ่อคุณแม่ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาสูงสุด 4 แสน ชี้กรณีเด็กเสียชีวิตจากการทำคลอดเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของความเสียหายจากการรักษาพยาบาล เป็นเหมือนกันทั่วโลก!

“ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียไปยังกับครอบครัวเพื่อนผู้เสียหายรายนี้ด้วย จากข่าว ข้อมูลที่ได้คือ เป็นหญิงท้องแรก มีโรคแทรกซ้อนคือเบาหวาน ถือว่าเป็นครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง ที่ควรได้รับการทำคลอดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

กรณีนี้มีหลายโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้อง ต้องนำเวชระเบียนของทุกโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องมาให้แพทย์ที่ปรึกษาของเครือข่ายฯ ช่วยดูให้ว่า เกิดความผิดพลาดตรงจุดไหน อย่างไร

ตามข่าว ข้อมูลที่ยังขาดไปคือข้อมูลจากโรงพยาบาลแรกที่ฝากครรภ์ ว่าระหว่างฝากครรภ์ไปพบหมอตามนัดอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ แม่และเด็กเป็นอย่างไร มีโรคอะไรแทรกหรือไม่ แพทย์ได้เตือนให้ระมัดระวังอย่างไร และครรภ์ครอบกำหนดคลอดเมื่อไหร่ นัดทำคลอดเมื่อไหร่ ด้วยวิธีอะไร ที่สำคัญคือเมื่อเปลี่ยนสิทธิเป็นบัตรทอง ได้ไปพบแพทย์ที่ รพ.ประชาธิปัตย์หรือไม่

อย่างไรก็ตาม แม่และเด็กใช้สิทธิ์บัตรทอง มีสิทธิยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตามมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ซึ่งมีเพดานการเยียวยาสูงสุดกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรคือ 4 แสนบาท ทราบผลภายใน 90 วันหลังยื่นคำร้อง

จึงอยากให้ทางครอบครัวไปยื่นคำร้องเอาไว้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี หรือทางตรงพยาบาลประชาธิปัตย์จะยื่นให้ก็ได้”

ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ กล่าวต่อว่า จากการรับเรื่องร้องเรียนมายาวนาน 17 ปี พบว่าสาเหตุการเสียชีวิตและพิการจากการทำคลอดนั้น เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของความเสียหายจากการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นเหมือนกันทุกประเทศทั่วโลก

ทางกระทรวงสาธารณสุขของไทยจึงร่วมกับองค์การอนามัยโลก ประกาศนโยบาย Patient For Patient Safety เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 เพื่อนำเหตุไม่พึงประสงค์เหล่านั้นไปพัฒนาระบบป้องกันเหตุการณ์ซ้ำ เพื่อลดจำนวนคนเจ็บคนเสียชีวิตจากเหตุไม่พึงประสงค์ เพื่อรักษาชีวิตคนไข้ไทยให้ปลอดภัย


 
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **

กำลังโหลดความคิดเห็น