ดรามา #คบซ้อน กระหึ่มโซเชียลฯ! กลายเป็นประเด็นประทุลุกลามใหญ่โตอย่างคาดไม่ถึงกับกรณี “ป๊อบ-ปองกูล" ที่ถูกโลกโซเชียลฯถล่มเละกับพฤติกรรมนอกใจ จนตั้งฉายาว่า “คาสโนวาขาเบียด” เจ้าชู้หนักคบซ้อน “โบว์-ปลา” แถมแต่ละคนกินเวลากว่าสิบปีโดยไร้พิรุธ นักจิตวิทยาคลี่ปม!เหตุใดผู้ชายถึงหลายใจ ชี้ผู้ชายมักขาด "ภูมิต้านทานการนอกใจ แนะแก้ได้ด้วย “วุฒิภาวะ- ความเมตตา”
เปิดคำสารภาพ “ผมทำการคบซ้อน”
โดนสังคมถล่มเละ! ป๊อบ - ปองกูล กับความรักอันสลับซับซ้อนยากหยั่งถึงพฤติกรรมตีเนียน หวานฉ่ำแฮปปี้วาเลนไทน์กับอีกคน แต่สุดท้ายไปแต่งงานกับอีกคน ยิ่งไปกว่านั้นระยะเวลาของการคบกับผู้หญิงทั้งสองคนก็กินเวลานานมากกว่าสิบปีทั้งคู่
เรื่องนี้จุดประเด็นมาจากภาพข่าวการแต่งงานแบบซุ่มเงียบของนักร้องเสียงนุ่ม ป๊อบ ปองกูล สืบซึ้ง กับแฟนสาวนอกวงการ “ปลา” ที่คบหาดูใจกันมา 15 ปี กระทั่งกลายเป็นดรามาร้อนระอุ เมื่อมีคนออกมาจับผิดว่าเจ้าสาวเป็นคนละคนกับสาวอีกคนนามว่า “โบว์” ที่พึ่งอวดความหวานในคืนวาเลนไทน์ที่ผ่านมา และยังได้ร่วมเปิด ”ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านผี” ด้วยกัน แถมคบกันมานานนับสิบปี
"โบว์ คือ ผู้หญิงที่ผมคบมาตลอดหลายปี และเรียกได้ว่าเป็นแฟน แต่ผมทำการคบซ้อน กับผู้หญิงอีกคนที่ผมคบมาก่อน ผมสร้างปัญหาเหล่านี้ขึ้นมาและปกปิดมันไว้ ผมจึงได้คุยกับโบว์ เพื่อที่จะยุติปัญหาที่ผมสร้าง โดยพูดคุยทำความเข้าใจกัน และถอยความสัมพันธ์กลับไป โบว์แนะนำให้เราโพสต์อธิบายสถานการณ์เหล่านี้เพื่อที่ เค้าจะไม่ต้องอธิบายกับคนอื่นๆอีก”
คำสารภาพของป๊อบ ปองกูล ผ่านอินสตาแกรม ทำเอาสังคมบนสื่อโซเชียลฯ สวดยับกับเหตุการณ์ที่เขากระทำย่ำยีหัวใจของแฟนที่คบซ้อนมานับสิบปีกันอย่างดุเดือด จนเกิดแฮชแท็กร้อน #คบซ้อน แถมยังเกิดผลกระทบต่อคนทั้งประเทศ จนเกิดปรากฏการณ์ “เช็คแฟน” ของตนเองเกิดขึ้น เพราะเริ่มหวั่นกลัวความรักของคู่ตนเองจะสั่นคลอน
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการแสดงความคิดเห็นพาดพิงถึงรูปลักษณ์หน้าตาของ ป๊อบ ปองกูล ถึงรูปร่างหน้าตาตัวใหญ่ไซส์บิ๊กหน้าตาไม่หล่อ แต่ทำไมยังกล้า “นอกใจ” เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่จะมั่นใจว่า หากเลือกผู้ชายหน้าตาไม่ดี เปอร์เซ็นต์การนอกใจจะยิ่งลดน้อยลงตามหน้าตา แต่จากเหตุการณ์นี้ทำให้ใครหลายคนต้องล้มล้างความเชื่อเหล่านี้โดยด่วน
นอกจากนี้ โลกโซเชียลฯ ยังจับโยงประเด็นรูปลักษณ์ไปถึงผู้ชายและสามีในอุดมคติของใครหลายคน เพราะหน้าตาที่หล่อเหลาแถมไม่เคยมีปัญหาเรื่องการนอกใจ ทำให้ตรรกะที่ว่า “คบคนหน้าตาดีอันตราย” ไม่จริงเสมอไป! อย่าง “สามีแห่งชาติ” โย่ง อาร์มแชร์ และ ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์ ทั้งสองเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงหลายคนต่างอิจฉา ด้วยรูปลักษณ์ นิสัย และความ “รักเดียวใจเดียว” ที่สำคัญไม่เคยมีปัญหาเรื่องมือที่สาม
“การนอกใจคนรักมันคือความเห็นแก่ตัว ทุกวันนี้ก็มีเพื่อนๆเจ้าชู้อยู่เหมือนกัน รู้สึกทึ่งมาก ทำแล้วนอนหลับสบายใจได้อย่างไร เก่งกันน่าดู ไม่กลัวพังเลย ซึ่งผมทำไม่ได้จริงๆ คงเครียดมากแน่ๆ เพราะลองคิดในมุมกลับกันดูแล้ว ถ้าเมียเราทำแบบนี้บ้าง คงเจ็บสุด" ประโยคสุดกินใจของ ฮิวโก้ ที่เคยแสดงความคิดเห็นถึงการนอกใจคนรัก ทำให้หลายคนยิ่งทึ่งในความรักของเขา
""จากข่าว #ป๊อบปองกูล คำที่ว่า วันนั้นไม่ใช่คนนี้นี่ คงไม่ใช่แค่คำพูดเล่นๆอีกต่อไป มันคือความเห็นแก่ตัวอย่างที่สุด คุณทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องเสียเวลา เสียความรู้สึก กับความเห็นแก่ตัวของคุณ ใครที่กำลังทำแบบนี้อยู่ หยุดเถอะนะ การคบซ้อน คุยหลายคน มันไม่ได้เท่เลยสักนิดเดียว มัน “เลว” ต่างหาก การที่มี “รักเดียว” สิโคตรเท่ห์
เพราะการนอกใจมันง่ายนิดเดียว อย่าเห็นแก่ตัวด้วยการคบเผื่อเลือก เพราะอีกคนที่คุณไม่เลือก ชีวิตของเค้าหลังจากนั้นจะเป็นยังไง ต้องเจออะไรบ้าง แต่ละวันต้องเผชิญกับคำถามมากมาย มันบั่นทอนมากขนาดไหน การดูแลคนๆเดียว คุณยังทำไม่ได้ แล้วคุณจะมีหลายคนเพื่อ? ข้อดีของการคบคนเดียว เราสบายใจ เปิดเผย ไม่มีอะไรต้องคอยระแวง ไม่ต้องโกหก ไม่พร้อมที่จะรักใครอย่างจริงใจ ก็อย่ามีใครเลยดีกว่า"
หนึ่งในความคิดเห็นในโลกโซเชียลฯ ที่ขอระบายความไม่พอใจต่อการคบซ้อนของป๊อบเช่นนี้ เพราะถึงแม้เรื่องการนอกใจจะดูเป็นเรื่องปกติไปแล้วในยุคนี้ แต่การที่ ป็อบ ปองกูล เป็นบุคคลสาธารณะ และศิลปินดัง เสียงเพราะ ร้องเพลงรักโรแมนติก แถมแฟนคลับก็ชื่นชอบในผลงานเพลงมากมาย และภาพลักษณ์ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นอ่อนโยนรักแฟน กลับต้องมาสะดุดลงกับพฤติกรรม “ไม่ซื่อสัตย์” กับคนรักเยี่ยงนี้
“เจ้าชู้-นอกใจ” ป้องกันด้วยด้วยวุฒิภาวะ!
“เมื่อเวลาผ่านไป ความเลวร้ายของผู้ชายก็ฉายแววออกมาไม่น้อย”
นพ. สุกมล วิภาวีพลกุล หัวหน้าแผนกจิตเวชประจำโรงพยาบาลพญาไท 2 ผู้เชี่ยวชาญเรื่องปัญหาคู่สมรสและสุขภาพทางเพศ วิเคราะห์ในเชิงจิตวิทยา ทำไมผู้ชายถึงเจ้าชู้ ทำไมถึงต้องนอกใจ
“จากการทำงานเป็นจิตแพทย์ผู้ให้การปรึกษาเรื่องชีวิตคู่ ผมพบว่า 80 % ของผู้ชายมักมีปัญหาข้อคำถามเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ และส่วนใหญ่ของผู้หญิงก็เป็นทุกข์เพราะความรัก ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะฮอร์โมนเพศหญิง (estrogen) เป็นฮอร์โมนแห่งความรัก ความเสน่หา ส่วนฮอร์โมนเพศชาย (testosterone) เป็นฮอร์โมนแห่งความต้องการทางเพศ และความก้าวร้าว
ในขณะที่ผู้ชายมีฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) สูงกว่าผู้หญิงถึง 10 - 20 เท่า และศูนย์กระตุ้นทางเพศ (sex center) ในสมองส่วน hypothalamus ของผู้ชายก็มีขนาดใหญ่กว่าเพศตรงข้ามอีกด้วย ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผู้ชายถึง "บ้าเซ็กส์" มากกว่าผู้หญิง นี่พูดถึงคนส่วนใหญ่นะครับ ส่วนน้อยอาจมีบ้างที่กลับกัน
ฮอร์โมนเพศหญิงมีสองชนิด คือ Estrogen และ progesterone ขึ้น ๆ ลง ๆ สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงเยื่อบุผนังมดลูกตามรอบเดือน แต่เราเพิ่งเข้าใจกันมาเมื่อไม่กี่ปีนี้เองว่ามันส่งผลต่อจิตใจทำให้ผู้หญิงมีบทบาทเป็นแม่ บังเกิดความรู้สึกอยากเลี้ยงดูและให้อาหารแก่บุตร Progesterone เป็นฮอร์โมนแห่งความเป็นแม่
นอกจากฮอร์โมนแห่งความรักแล้ว ธรรมชาติยังซ้ำเติม ผู้หญิงด้วย oxytocin เป็นฮอร์โมนแห่งความผูกพัน (emotional attachment) ซึ่งมีผลต่อร่างกาย ทำให้มดลูกบีบตัว จะหลั่งออกมา 3 กรณี 1.ขณะคลอดลูก มดลูกบีบตัว และรู้สึกผูกพันกับเด็กที่คลอดออกมา 2.ขณะให้นมลูก น้ำนมที่ไหลรินกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน เกิดความผูกพันกับลูกน้อยในอ้อมแขน 3.ขณะมีเพศสัมพันธ์ มดลูกบีบตัว พร้อมความรู้สึกผูกพันกับชายหนุ่มในอ้อมขา
ผู้หญิงมี oxytocin เยอะ ในขณะที่ผู้ชายมีน้อย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม “ผู้หญิงรักเดียวใจเดียว” แต่ผู้ชายจึง “หลายใจ” เพราะฉะนั้น ผู้ชายเองก็ขาด "ภูมิต้านทานการนอกใจ" เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว
ปัจจุบันเราไม่ค่อยแน่ใจว่า "ความเจ้าชู้" ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้หรือไม่ และนิสัยเจ้าชู้เป็นสิ่งที่ติดตัวอยู่ในสมองหรือโครโมโซมหรือเปล่า เพราะความเจ้าชู้ของผู้ชายหลายคนตั้งแต่วัยหนุ่มมันหยั่งรากฝังลึกในจิตวิญญาณจนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แม้วัยมากขึ้น และแม้ว่าจะรักภรรยาปานจะกลืนกิน เมตตาแค่ไหน สามีก็มิอาจควบคุมใจในเรื่องนี้ ต้องหากินนอกบ้านร่ำไป เพราะปัญหาสำคัญคือ “วุฒิภาวะ” คือความสามารถในการควบคุมแรงขับในใจ และแสดงออกอย่างเหมาะสม
สุดท้าย คุณหมอสุกมล แนะนำทิ้งท้ายว่า “ความเมตตา” เป็นวัคซีนที่สำคัญ ป้องกันการนอกใจ ชี้ผู้หญิงต้องยืนยันหนักแน่นเสมอว่า การนอกใจเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และหากมีสิ่งใดที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ ต้องช่วยกันสร้างสรรค์
....เพราะความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นด้วยความซับซ้อน ย่อมจบลงด้วยความเจ็บช้ำของคนที่ไม่ได้ถูกเลือกนั่นเอง!
อย่างไรก็ดี หากไม่อยากให้ความรักสั่นคลอนหรือคิดอยู่หลายตลบว่าควรจะถอยออกมาจากคนรักดีหรือไม่ ลองสังเกตพฤติกรรมต่างๆเหล่านี้ว่าคุณหรือคนรักของคุณกำลังเป็นอยู่หรือไม่!
นพ.เจษฎา ทองเถาว์ จิตแพทย์ประจำ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี คลินิกเฉพาะทางจิตเวชศาสตร์ เผย 8 รูปแบบความสัมพันธ์ที่รอวันล่มสลาย
1.พฤติกรรมก้าวร้าว ข่มขู่/ทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายหรือตนเอง ใช้วาจาหยาบคาย/วิพากษ์วิจารณ์/ ทำลายข้าวของ/ใช้ความรุนแรงทางเพศ
2.ไม่ซื่อสัตย์/นอกใจ โกหก ปิดบังความลับ นอกใจ แอบไปมีกิ๊ก
3.ไม่ให้เกียรติ ดูหมิ่นสิ่งที่อีกฝ่ายนับถือ/ตะโกนใส่เหมือนเด็ก/ไม่รับฟัง ทำให้อับอายในที่สาธารณะ/ดูถูกความคิดเห็น
4.เข้ากันไม่ได้ หลายครั้งที่ความแตกต่างคือการเติมเต็ม แต่ในบางเรื่อง ความคล้ายคลึงไปในทางเดียวกันจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า เช่น ค่านิยม/ศีลธรรม/การเงิน/รสนิยมทางเพศ
5.พึ่งพิงอย่างมาก ต้องการความสนใจจากอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา จนไม่เป็นอันทำอะไร งอแงเอาแต่ใจ/ต้องได้ในสิ่งที่ต้องการ ขู่จะทำร้ายตนเองเมื่อไม่ได้อย่างใจ
6.ควบคุม บงการกีดกันความก้าวหน้าในชีวิต
7.หึงหวง คอยติดตาม คอยเช็กพฤติกรรม ห้ามไม่ให้คุยกับเพศตรงข้าม(หรือเพศเดียวกัน) ไม่ไว้วางใจ
8.สองมาตรฐาน มีฝ่ายหนึ่งสามารถทำพฤติกรรมบางอย่างได้ แต่กลับห้ามอีกฝ่ายทำ คิดว่ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรเหนือกว่าอีกฝ่าย เช่น มีฝ่ายหนึ่งที่ขึ้หึงแบบไม่มีเหตุผล แต่ในขณะเดียวก็แอบนอกใจไปมีกิ๊กซะเอง คิดแทนทุกอย่าง สั่งให้ทำตามความคิด
โดยคุณหมอชี้ว่า รูปแบบพฤติกรรมรอวันล่มสลายเหล่านี้สามารถพบได้บ่อยในชีวิตสมรส หรือการคบกันเป็นแฟน ซึ่งหากไม่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น มันก็อาจจะกลายเป็นเชื้อเพลิงของความแตกแยก!
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **