หนุ่มพิการเดินไม่ได้โดนดูถูก โดนรังเกียจโดนแกล้งสารพัด เคยอดอยากถึงขั้นต้องกิน“น้ำก๊อก” ประทังความหิวแม้ร่างกายจะเป็นอุปสรรคต่อการดิ้นรนหาเลี้ยงชีพลำบากแค่ไหน ไม่เคยคิดงอมืองอเท้าไม่เคยคิดขอทาน สู้ทำงานทุกอย่างเพื่อไม่เป็นภาระของสังคม
ทำทุกอย่างด้วยตัวเองไม่เคยคิดขอทาน!!
คนเราเกิดมาต้นทุนชีวิตอาจไม่เท่ากันบางคนครอบครัวฐานะดีไม่ต้องดิ้นรนก็อยู่ได้แต่บางคนนอกจากจะไม่มีฐานะแล้วความพิการทางร่างกายยังเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีพอีกด้วยเช่นเดียวกันกับ กอล์ฟ-ทรงกฤตพนาเรืองที่ไม่เพียงเดินไม่ได้แต่ต้องดิ้นรนทำงานเพื่อความอยู่รอดแม้จะถูกผู้คนบางส่วนรังเกียจและถูกแกล้งถูกโกง แต่เขาก็ไม่เคยท้อต่อชีวิตและไม่เคยคิดงอมืองอเท้า
นักสู้ผู้พิการคนนี้เคยอดอยากถึงขั้นต้องกิน“น้ำก๊อก” ประทังความหิวแม้สภาพร่างกายจะเป็นอุปสรรคต่อการดิ้นรนหาเลี้ยงชีพแต่เขาไม่เคยคิดงอมืองอเท้าลำบากแค่ไหน ไม่เคยคิดขอทานทำทุกอย่าง เพื่อไม่เป็นภาระของสังคมแม้จะรู้ว่าขอทานหาเงินได้ง่ายกว่าและมากกว่าก็ตาม
“เคยมีวันที่ไม่มีข้าวกินแต่ไม่กล้าแบกหน้าไปขอนั่งมองคนอื่นตาแป๋ว ท้องก็ร้อง ก็ต้องอด วันไหนถ้าขายของไม่ได้ก็ต้องกินน้ำก๊อกแทน
ตอนเด็กๆเหมือนคนเป็นอัมพาตช่วยเหลือตัวเองไม่ได้โดนว่าไอ้เป๋ ไอ้ง่อยโดนว่าลูกไม่มีพ่อมีแม่คนแถวอรัญประเทศเขาก็ว่ารังแกผมตอนนั้นทำอะไรไม่ได้เลยครับตอนนั้นอายุประมาณ 10ขวบครับ กินข้าวแบบหน้าทิ่มพื้นนั่งกินกับคนอื่นไม่ได้เลยอีกอย่างเป็นเป็นโรคกระตุกด้วยเป็นโปลิโอด้วย มีบางครั้งที่ปวดหัวมากๆและพูดติดอ่าง ต้องพูดเร็วๆพูดช้าไม่ได้ พูดช้าแล้วลิ้นจะพันกัน”
เรื่องราวของหนุ่มพิการคนนี้ที่มีความพิการทางด้านร่างกายแต่ด้วยหัวใจที่เข้มแข็งเขาจะสามารถฝ่าฝันอุปสรรคที่ยากลำบากไปได้ด้วยมุ่งมั่นขยัน และมีแนวคิดในการดำเนินชีวิตคือพึ่งพาตัวเองเป็นหลักจนทำให้วันนี้เขาสามารถอยู่ในสังคมโดยไม่เป็นภาระใครต่อใครได้
“ขอทานบางคนเขารวยกว่าผมนะครับบางคนแกล้งเดินไม่ได้มานั่งขอทานขี่รถป้ายแดงมาเลยนะครับ คนขอทานให้กันเยอะแต่คนพิการมานั่งขายของไม่มีใครซื้อเลยไม่ได้อิจฉาเขานะ แต่ผมเสียดายอนาคตที่มีมือไม้ดี ขาดี ความรู้ดีอ่านหนังสือออกทำไมต้องมานั่งขอทานทำไมไม่หาอาชีพดีๆทำ
เมื่อก่อนผมหาค่าเช่าบ้านผมอยากไปเล่นตลก อยากไปเป็นดาราอยากไปเป็นนักกีฬาทีมชาติอยากไปโยนเปตองเพราะผมไม่อยากไปเป็นภาระของสังคมอะไรก็ได้ที่ผมทำงานได้ตังค์ผมไม่อยากเป็นภาระของคนอื่นให้เขาว่าได้และอยากให้คนยอมรับช่วยผมซื้อหน่อยเถอะไม่ใช่แค่ผมคนพิการคนอื่นด้วย”
การใช้ชีวิตของหนุ่มพิการคนนี้ไม่ได้ง่ายเลยขณะที่ใช้ชีวิตอยู่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เขาก็พยายามทำงานเพื่อให้มีรายได้ยังชีพเมื่อตายายเสียชีวิตลงได้มาใช้ชีวิตอยู่กับป้าที่บางใหญ่จังหวัดนนทบุรีและยังคงทำงานทุกอย่างเพื่อให้มีรายได้ประทังชีวิตแต่บ่อยครั้งที่ความพิการของกอล์ฟทำให้เขาถูกรังเกียจถูกเอารัดเอาเปรียบและหนักถึงขั้นถูกโกงทำให้เขาต้องเปลี่ยนอาชีพครั้งแล้วครั้งเล่า
“ผมเปลี่ยนหลายอาชีพ10 อาชีพแล้วครับทีแรกขายขนมที่ยายทำให้ขายแถวหมู่บ้านยาย สักพักก็ไปขายของเก่าก็โดนแย่งไปคนธรรมดามาแย่งคนพิการแล้วก็มาขายหนังสือนิยายการ์ตูนเล่มละ 20 บาทนั่งรถเมล์ไปซื้อเข้าไปในกรุงเทพแล้วเราคลานขึ้นถนนไปพร้อมกระเป๋าสะพายเป๋ แล้วก็ใช้ปากคาบคลานขึ้นรถเมล์บางคนก็ซื้อ บางคนเห็นก็มาช่วยพยุงขึ้น
พอขายหนังสือขาดทุนก็ไปขายสับปะรดภูแลที่เขาปอกไว้แล้วไปรับมาขายซื้อกล่องโฟมมาใส่ ขายตามหมู่บ้านคนรังเกียจก็ไม่ซื้อขายได้แค่สองสามคนเป็นญาติป้าๆ แล้วเราก็ไม่ได้ทำเองด้วยนะเราไปรับเขามาพิการไม่ได้หมายความว่าสกปรกนะครับผมอยากให้มองอย่างนั้นนะครับ”
โดนน้ำแกงสาด-ถูกขังในห้องน้ำ-ถูกไล่ตี
“เคยคลานไปซื้อข้าวกิน แต่โดนน้ำแกงสาด ราวไม่ใช่คน”เสียงสะท้อนจากหนุ่มพิการคนนี้ที่เล่าออกมาด้วยหน้าชื่นอกตรม ด้วยความคับแค้นใจที่เหตุใดต้องทำกันถึงเพียงนี้
“ลำบากมากเคยคลานเข้าไปกินข้าวโดนน้ำแกงไล่สาดแล้วก็คลานออกมาจากร้านคนก็ยืนมองเป็นแถว เราไม่ได้ขอเขากินเราคลานเข้าไปซื้อข้าวกินด้วยซ้ำผมจึงเลิกกินแกงฟักทองกับข้าวขาหมูเลิกกินเลยครับ มันฝังใจอีกเรื่องคือเคยไปซื้อของเล่นไปซื้อซีดีมาขายโดนไล่สาดเหมือนกันครับ ”
พิการไม่พอยังถูกเพื่อนแกล้งจนต้องเลิกเรียนตั้งแต่ยังไม่ขึ้น ป.1โดนแกล้งสารพัดโดนกดดันทุกอย่าง อะไรกันที่ทำให้ชายพิการคนนี้ถึงยังต้องสู้มาจนทุกวันนี้
“ตอนจะขึ้นป.1เขาแกล้งผมจับขังในห้องน้ำบ้างหาว่าผมไม่ทำเวรบ้างแล้วก็จับผมนอนวิดพื้นแล้วก็เอาไม้เรียวตีแต่ครูไม่เชื่อตากับยายบอกไม่ต้องเรียนแล้วออกมาเถอะผมเบื่อตรงที่พอแกล้งเสร็จแล้วพอผู้ใหญ่รู้ก็บอกว่าไม่ได้แกล้งจะแกล้งทำไมน่าสงสาร”
แม้จะขยันเพียงใดก็ยังโดนตราหน้าว่าค้าขายเพียงเพราะนำเงินไปซื้อเหล้ากินเท่านั้น ยิ่งทำให้ยอดนักสู้ผู้พิการคนนี้ยิ่งมีแรงฮึดสู้ถึงแม้ในบางครั้งจะเพียงแค่น้อยเนื้อต่ำใจบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้ท้อแท้หรือสิ้นหวังไป
“บางคนเห็นเราทำงานก็ถามว่าเอาเงินไปกินเหล้าหรือเปล่าครับผมก็ได้แต่บอกว่าผมไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่อีกอย่างกางเกงขาดบ่อยเวลาใช้ตัวไถไป มันปวดมันทรมานกางเกงต้องซื้อทุกอาทิตย์ซื้อกางเกงบ่อยมาก สนับขาก็ใช้ไปแล้วไม้กระดานก็ลองแล้วแต่ผมใช้ไม่ได้เส้นผมมันกระตุกเพราะมือใช้การได้ข้างเดียว”
ไม่เพียงเท่านี้คำบอกเล่าจากคนรู้จักคนแถวนั้นเวลามาซื้อของที่สำเพ็งไปขายซึ่งจะมาในช่วงดึกเพราะต้องขายของเสร็จถึงขับรถออกมาซื้อของเพื่อที่จะขายในวันต่อไปจะโดนกลั่นแกล้งโดนรังแกตลอดโดนขโมยของ บางคนก็รังเกียจเมื่อถามความรู้สึกของยอดนักสู้ผู้พิการคนนี้เขากลับตอบกลับมาว่าก็มีความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่แล้วพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแต่ดวงตานั้นเอ่อล้นด้วยความอัดอั้นตันใจ
“ถ้าถามว่าความน้อยเนื้อต่ำใจนั้นมีไหม มีครับ ผมขอตอบสั้นๆ เลยน่าชื่นอกตรม วันนี้ออกไปขายของได้เจอคนดีบ้างวันไหนที่เห็นคนมาซื้อของเขาไม่รังเกียจเราผมก็ภูมิใจที่สุดในโลกเลยนะครับแม้กระทั่งเขาไม่ซื้อแค่แวะมาดูร้านเราผมก็ดีใจแล้วครับ”
เหมือนตายทั้งเป็นแต่ไม่คิดฆ่าตัวตาย!!
นอกจากยังไม่อยากเป็นภาระของสังคมแล้วเขายังไม่อยากเป็นภาระของป้าด้วยเขาจึงออกมาเช่าบ้านอยู่ซึ่งป้าก็ไม่ได้ทอดทิ้งเขายังคงช่วยเหลือเท่าที่พอช่วยได้ชายพิการผู้นี้ยอมรับว่าช่วงที่ต้องเช่าบ้านอยู่นั้นชีวิตยากลำบากเหมือนกับตายทั้งเป็น
ไม่ใช่แค่เรื่องกินที่ลำบากแต่การไม่มีที่อยู่ก็ทำให้กอล์ฟมืดแปดด้านเช่นกันเขาเคยลำบากถึงขั้นไปอาศัยหลวงพ่อไปอยู่ที่วัดแต่ทางวัดกับบอกว่าไม่สะดวกเพราะกลัวว่าความพิการของกอล์ฟจะเป็นอุปสรรคในการช่วยเหลือตัวเองโชคดีมีผู้ใจบุญยื่นมือให้ความช่วยเหลือให้เขามีบ้านอยู่แต่ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟเองเท่านั้น
“เมื่อก่อนบ้านเช่าเช่าเดือนละ 3,000กว่าบาท น้ำไฟไม่มีประตูห้องไม่มี มีแต่ประตูรั้วห้องนอนก็ไม่มีประตูห้องน้ำก็ไม่มีประตูต้องใช้ผ้าม่านปิดทั้งหมดขายของมาก็พอมีเงินหมุนมันเหมือนกับการฆ่าตัวตายเหมือนตายทั้งเป็นแต่ไม่เคยคิดอยากฆ่าตัวตายทุกวันนี้ก็เหมือนตายทั้งเป็นครับ ยังดีที่มีป๋าใจดียื่นมือเขามาช่วยให้ที่อยู่อาศัย
ทุกวันนี้ผมก็ขอบคุณป๋ามากนะครับที่ให้ผมมีกินมีอยู่ทุกวันนี้ผมไม่รู้จะตอบแทนป๋ายังไงผมก็ขอบอกว่าผมก็จะเป็นคนดีและสู้ชีวิตต่อไปกว่าลมหายใจผมจะไม่มีผมจะเป็นคนดีและสู้ชีวิตต่อไปจนกว่าลมหายใจของผมจะหมด
และขอบคุณผู้ใจบุญทุกท่านที่ให้โอกาสคนพิการมีอาชีพผมก็ขอขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสคนพิการที่ได้มีอาชีพค้าขายทำกินแม้พื้นที่สำหรับพวกพี่มันอาจจะไม่มีค่าแต่สำหรับคนพิการอย่างผมมันต่อชีวิตผมได้ มีอาชีพไม่ต้องเป็นภาระของสังคมตราบใดที่มีคนเมตตาคนพิการอย่างผมผมก็อยู่ได้แล้วครับ”
เช่นเดียวกับราตรี พนาเรือง คุณป้าที่เลี้ยงดูและให้ความช่วยเหลือมาตั้งแต่เด็กๆที่ยังให้ความช่วยเหลือมาตลอดแม้พ่อแม่แยกทางกันทำให้ไม่มีโอกาสใช้ชีวิตกับครอบครัวแต่เขาก็ไม่เคยโกรธหรือน้อยใจพ่อแม่เพราะคิดเสมอว่าพ่อแม่คือผู้ให้กำเนิดตัวเองมา
“ตอนคลอดมาก็ไม่รู้ว่าเขาพิการพออายุ 1ขวบไม่คว่ำไม่ตะแคงพอจับยืนเขาก็เขย่ง แล้วขาก็สั้นจากนั้นเอาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราชเอาไปแช่น้ำแร่ แช่น้ำนมจนอายุ 2 ขวบก็มีคนแนะนำไปโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ก็อุ้มไปโรงพยาบาลจุฬาฯ ในวัย9 ขวบก็รักษาอยู่อย่างนั้นหมอบอกว่าไม่หายแล้วแหละก็คงเป็นอย่างนี้ตลอดกาล
จากนั้นคนก็แนะนำไปที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ทางโรงพยาบาลก็ส่งไปที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์เพื่อไปทำกายภาพบำบัดตัวก็หนักขึ้น อุ้มไม่ไหวจะจ้างคนดูแลเงินก็ไม่พอเพราะเงินเดือนน้อยเงินเดือนป้ากับแม่ก็น้อยจากนั้นก็นำไปฝากไว้ที่ยายเป็นญาติที่อรัญประเทศเลี้ยงก็เลี้ยงมาอย่านั้นจนเขาแนะนำให้ไปโรงพยาบาลกลาง หมอบอกว่าเขาไม่ได้เป็นโปลิโอนะเขาเป็นเส้นประสาทไม่สมดุลกันสมองสั่งงานว่าอยากจะเดินแต่ขาไม่ก้าว พอขาอยากก้าวสมองไม่รับรู้อะไรมันไม่สมดุลกัน คือมันสวนทางกันหมอบอกว่าถ้ามีเงินเป็นล้านไปเมืองนอกอาจจะเดินได้ป้าเงินเดือนแค่ห้าร้อยกว่าบาทจะเอาเงินที่ไหนไป
ถือว่าราเป็นเวรเป็นกรรมมาตั้งแต่ชาติก่อนก็แล้วกันนะเราก็สู้ไปเรื่อยๆ ก็เหมือนอย่างป้าอยู่ๆ ไม่มีใครอยากเป็นมะเร็งป้ายังเป็นเลย อย่าไปคิดอะไรมาก
“วันนั้นไม่ได้อยู่ที่ร้านแต่ว่ามีคนโทรไปตามแล้วบอกว่ามีคนพิการมาขอพื้นที่ขายของเขาจะเช่าขายก็เลยบอกว่าถ้าพิการจริงก็ลงได้เลยไม่ต้องจ่ายตังค์ให้ขายฟรีก็บอกเขาแล้วว่าถ้าพื้นที่ขายของว่างจะมาเราก็อนุญาตเขาก็สู้ชีวิตดี น่าสงสาร นิสัยเขาก็ยิ้มตลอดนะกับทุกคนมีอยู่วันหนึ่งเดินผ่านไปเขายังไม่รู้ว่าเป็นใครก็จะช่วยเขาเขาบอกว่าไม่ต้องผมทำได้นี่คือสุดยอดแล้ว”
ไม่เพียงเท่านี้ อำนวย เกิดประสงค์ รปภ.บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า“คนที่มีมือแขนขาดีๆผมเชื่อว่ามาเห็นเขาจะสู้อีกเยอะถ้าคนไม่สู้ก็อายเขามากเลย ผมเจอกอล์ฟครั้งแรกจำได้ว่าเห็นน้องเขาลงจากรถคลานอยู่ตรงแท็กซี่ก็เลยเข้าไปสอบถามเขามาหาที่ขายของผมก็เลยแนะนำมาทางพี่ปอครับผมเห็นเขาครั้งแรกคือถ้าไม่มีคนดูแลเขาคงช่วยเหลือตัวเองยากมากตอนนี้ขายมาเกือบ สามเดือนเดินทางมาด้วยรถพ่วงข้างจะมีช่วยเขาจัดร้านเปิดร้านถ้ากลางคืนว่างไม่มีอะไรไม่ติดธุระมากก็จะออกมาช่วยเขาเก็บร้าน”
เรื่องราวของ กอล์ฟ-ทรงกฤตพนาเรือง หนุ่มพิการสู้ชีวิตถึงแม้จะดูไม่เพียบพร้อมเหมือนใครต่อใคร แต่ด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง เขาสามารถฝ่าฟันอุปสรรคและสามารถดำรงชีวิตได้ด้วยลำแข้งของตนเองอย่างกล้าแกร่ง
สัมภาษณ์ :รายการ “ฅนจริง ใจไม่ท้อ”
เรียบเรียง: ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง: พัชรินทร์ ชัยสิงห์
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **