xs
xsm
sm
md
lg

ขอบริจาคหรือรีดไถ? เตือน "มูลนิธิ" แบบนี้ไว้ใจไม่ได้ ให้หลักร้อย-ขอหลักพัน!!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แบงก์ร้อยไม่ แบงก์ใหญ่เอา!! แฉบูทมูลนิธิขอรับบริจาคตามห้างฯ อ้างเอาเงินช่วยเด็ก-สัตว์ แต่มีเงื่อนไข ต้องให้ขั้นต่ำ 2,000 บาท หว่านล้อมสารพัด “ได้ของ - ได้บุญ” กูรูการตลาดชี้ “รับบริจาคยุค 4.0” ย้ายจากริมถนนเข้าห้างฯ เพิ่มความน่าเชื่อถือ หวังกระตุ้นยอดแต่เสียถึงมูลนิธิ!!

ให้ 100 บาทไม่เอา จะเอา 2,000 !!

กลายเป็นประเด็นดรามาทันที เมื่อโลกโซเชียลฯ พากันแฉพฤติกรรมของกลุ่มคนที่ตั้งโต๊ะขอรับเงินบริจาคเงินตามห้างสรรพสินค้า โดยเรียกคนเหล่านี้ว่าเป็น “ขอทานห้าง” พวกเขาจะอ้างว่าจะนำเงินไปช่วยเหลือคนยากไร้ - สัตว์เร่ร่อน แต่ยอดเงินในการขอรับบริจาคก็ไม่ใช่น้อย เพราะสตาร์ทขั้นต่ำกันที่หลักพัน ซ้ำร้ายเงินที่ให้ไปนั้น ถูกคนเหล่านี้ใช้กินเที่ยวอย่างหรู!

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งนามว่า “พัด” โพสต์ข้อความเตือนภัยจนกลายเป็นประเด็นร้อน บอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เธอไปเจอเข้ากับมูลนิธิที่มาตั้งบูทเพื่อขอรับเงินบริจาคที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.สระแก้ว โดยตัวเธอมีความประสงค์จะบริจาคเป็นจำนวนเงิน 100 บาท แต่คนกลุ่มนี้กลับพยายามยัดเยียดสินค้าให้และไม่รับเงิน พร้อมตอบกลับมาว่า “ต้องบริจาคขั้นต่ำ 2,000 บาท” ตามบรรทัดต่อจากนี้



“ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการตั้งบูธรับบริจาคเงินเพื่องค์กรต่างๆ นานา ที่เทสโก้โลตัสอรัญฯ หน่อยนะคะ ดูแล้วเหมือนๆ เป็นการขายของมากกว่าค่ะ เราเดินผ่านเรียกเราไปอธิบายมากมายว่าของต่างๆ ดียังไง กระบอกน้ำ ถุงผ้า กระเป๋า ตุ๊กตา บลาๆๆ ของดีมาก เกรดเดียวกับสตาร์บัคส์ พร้อมกับหยิบยกกระดาษขึ้นมาอธิบายว่า 1.ถ้าสนใจบริจาค 20,000 บาท จะได้รับอะไร 2.ขั้นต่ำเริ่มต้น 2,000 บาท พร้อมอธิบายว่าจะได้อะไร และของเค้าคุณภาพดีขนาดไหน

เราก็ตอบไปว่า บริจาคได้แค่100 บาท ทางเจ้าหน้าที่ที่อธิบายอยู่ บอกว่าไม่สามารถรับเงิน100 บาทได้ ทางเรารับเริ่มต้นที่ 2,000 บาท ! ค่ะ! ก็เลยตอบกลับไปว่า สะดวกบริจาคที่ 100 บาท และการบริจาคก็ควรเป็นการบริจาค ที่ผู้บริจาคสบายใจ !!! ทางนั้นก็บอกว่า รับเงิน 100 บาทไม่ได้จริงๆ #อะไรคือความหมายคำว่าบริจาค #ในยุคแบบนี้บ้าป่ะเริ่มต้น2000 #ถ้าจะขายของก็มาขายเลย #อย่าเอาโรงเรียนหรือมูลนิธิมาอ้าง ทุเรศจริงๆ”

ไม่รอช้า ทีมข่าว MGR Live ได้ติดต่อไปยังบุคคลต้นเรื่อง เธอทำงานเป็นพนักงานธนาคาร ณ ห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ และได้เปิดใจให้สัมภาษณ์พิเศษกับทีมข่าวว่า บูทที่มาตั้งขอรับบริจาคมาตั้งบ่อยครั้งมากและมีหลากหลายมูลนิธิ ซึ่งการบริจาคจะเป็นแบบซื้อแพ็กเกจ และแพ็กเกจแพงสุดที่เธอเจอมาเป็นแบบพรีเมียม อยู่ที่ราคา 20,000 บาท!!!



“พัดทำงานอยู่ในห้างจะเห็นบูทลักษณะนี้มาตั้งเยอะมาก จะมีให้ช้าง เด็กเล็ก หมาแมว ฯลฯ วันนั้นเพื่อนโดนเรียกไปก่อน แล้วเพื่อนก็มาเรียกเรา ก็เลยเดินไปฟัง แล้วเขาก็อธิบายว่ามีกระบอกน้ำ มีแท็กกระเป๋า มีถุงผ้า เขาก็บอกว่าของคุณภาพดีนะ เกรดเดียวกับแบรนด์ดัง

เราก็ถามว่า จะร่วมทำบุญต้องทำยังไง เขาก็หยิบกระดาษขึ้นมาแล้วบอกว่ามีแพ็กเกจพรีเมียม 20,000 บาท แล้วก็มี 15,000 10,000 8,000 5,000 และ 2,000 บาท ที่เขาเปิดแพ็กเกจให้เราดูนะคะ แต่ไม่ทันจะฟังว่าได้อะไรบ้าง เราก็ตกใจแต่ไม่ได้ถามว่ามีอะไรบ้าง ก็พูดว่าแพงไปรึเปล่า

เขาก็บอกว่าไม่ต้องตกใจ จะมีขั้นต่ำ 2,000 บาท จะได้ถุงผ้า ตุ๊กตา แท็กกระเป๋า กระบอกน้ำ แล้วก็ได้ร่วมทำบุญสมทบทุนกับมูลนิธิเด็ก โรงพยาบาลเกี่ยวกับเด็ก เราก็เลยบอกว่าเราสะดวกให้แค่ร้อยเดียวแต่ไม่เอาของ เขาก็บอกว่ารับไว้ไม่ได้ ขั้นต่ำ 2,000 บาท เขาก็ตื๊อๆ หน่อย พูดจาหว่านล้อม ส่วนมากจะพรีเซนต์ของที่ให้มากกว่าค่ะ สมมติว่าถ้าตกลง เขาก็จะให้จ่ายเป็นเงินสดตรงนั้นและมีแบบโอนได้ด้วย พอดีมีลูกค้าอีกท่านไม่มีเงินสดเขาก็บอกว่าโอนเข้าบัญชีได้เลย”



นอกจากนี้ สาวแบงก์ผู้นี้ฝากข้อมูลเพิ่มเติม โดยหวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้คนในสังคมในเศรษฐกิจแบบนี้ เพราะการทำบุญควรทำด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่ต้องมาบริจาคตามเป้า

“พัดก็ยังไม่เคยติดต่อไปทางห้างว่าทำไมถึงอนุญาตให้เข้ามา เมื่อก่อนจะมีมูลนิธิช้าง แต่ช้างเขารับหมด เป็นกล่องบริจาคไม่มีของให้ แต่ถ้าบริจาคขั้นต่ำ 500 บาท จะได้เสื้อยืด พัดเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ปีนึง เห็นแทบจะทุกวัน คนรอบข้างก็ตกเป็นเหยื่อกันเยอะ คือมาตั้งบ่อยมาจนไม่มีใครอยากบริจาคแล้วค่ะ มันเหมือนขายของ ถ้าได้น่าจะได้จากพวกขาจรมากกว่า

สำหรับตัวพัด พัดคิดว่ามันมาในลักษณะของพาณิชย์ เงินบริจาคมันอาจจะไปถึงแต่น้อยมากๆ อยากให้ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบหน่อย เพราะห้างคนมาเดินก็เหมือนจะเป็นเหยื่อให้คนกลุ่มนี้เยอะ อยากให้จะมาตรวจสอบ ทำไมถึงมีการจัดตั้งองค์กรแสวงหาผลกำไรในลักษณะแบบนี้ เงินมันไปถึงโครงการต่างๆ จริงรึเปล่า มากน้อยแค่ไหน บางทีก็สงสารคนผ่านไปผ่านมาด้วยเศรษฐกิจแบบนี้ ในจำนวนเงินที่บังคับให้เราทำบุญเท่านี้ๆ มันลำบากใจมากกว่าค่ะ”

ทั้งนี้ ทีมข่าว ได้พยายามติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงานที่มาออกบูทดังกล่าว ผลปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด

กูรูแนะ เจอแบบนี้อย่าให้!!

ไม่เพียงแค่เหตุการณ์ข้างต้นเท่านั้น ทีมข่าวได้ตรวจสอบต่อก็พบว่า เพจเฟซบุ๊ก “บิ๊กเกรียน" ได้แฉเหตุการณ์ในลักษณะนี้เช่นกัน ระบุว่า ได้รับการเปิดเผยจากอดีตทีมงานที่ขอรับบริจาคว่า คนเหล่านี้ไม่ใช่มูลนิธิ หากแต่เป็นบริษัทที่รับสมัครพนักงานเพื่อทำงานตามห้างสรรพสินค้า ทำหน้าที่ขอรับบริจาคจากผู้คนที่เดินผ่าน โดยจะมีการอ้างชื่อคนดังและองค์กรการกุศล

ส่วนจะนำเงินไปบริจาคที่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าออกบูธของโครงการอะไร ซึ่งนอกจากจะได้เงินเดือนประจำแล้ว จะได้ยอดจากการรับบริจาคอีกประมาณ 10 - 15 ค่าเปอร์เซ็นต์ และเมื่อออกงานเสร็จ ก็จะนัดรวมตัวเพื่อไปดื่มกินกันอย่างสบายใจ



หรือนี่จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้คนหัวใสหากินกับความใจบุญของคนไทยได้อีกทางกันแน่? เพื่อหาคำตอบของเรื่องนี้ ทีมข่าว MGR Live ได้พูดคุยเรื่องนี้กับ อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์ด้านการตลาด มาเป็นผู้วิเคราะห์ถึงพฤติกรรมการเรี่ยไรเงินในลักษณะนี้ ว่าเข้าข่ายเป็นมิจฉาชีพหรือไม่?!

“ตามหลักเขาไม่มีใครไปรับบริจาคแบบนี้นะ สมมติว่าเป็นมูลนิธิอะไรพวกนี้เขาก็จะส่งทางไปรษณีย์ อย่างผมก็เคยได้ แล้วเขาก็จะระบุวัตถุประสงค์ว่าคืออะไร บริจาคยังไงได้ หรือว่ามูลนิธิที่รับเลี้ยงเด็กเราก็จะบริจาคยาวๆ รับเป็นบุตรอุปถัมภ์อะไรทำนองนั้นเลย ผมไม่เคยเห็นเลยนะที่มูลนิธิแบบมีที่มาจะเข้ามารับบริจาคในห้าง อาจจะมีตามถนนบ้าง ไม่มีมูลนิธิที่จะมากดดันคนว่า 100 บาทไม่เอา เพราะว่าคอนเซ็ปต์บ้านเราคือทำบุญเท่าไหร่ก็ได้

กรณีนี้มันเหมือนกับว่ามีคนใช้ชื่อมูลนิธิ คล้ายๆ ให้สิทธิ์ไปดำเนินการในฐานะมูลนิธินี้ แต่เนื่องจากเป็นบริษัทเอกชนซึ่งมีค่าใช้จ่าย เขาก็จะหักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือ เหมือนเวลาเราได้ยิน "หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว" แล้วคนไทยก็ใจบุญกันเยอะ เดินห้างกันเยอะ สมัยก่อนก็จะมีทำบุญโลงศพ เดินเข้ามาเลย อันนี้คือขยับเข้ามาสู่สถานที่ที่เป็นห้างฯ ที่มันน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งคนก็จะไม่สืบค้น เขาเข้ามาประกบเลย แล้วก็หว่านล้อมให้บริจาคให้ได้

ถ้าจะใช้คำว่ามิจฉาชีพได้ 1.มูลนิธิต้องไม่มีตัวตน 2.มูลนิธิรับรู้หรือไม่ 3.แบ่งเงินกันยังไง อันนี้อาจจะเป็นการต่อยอดมูลนิธิที่ใช้เอกชนเข้ามา ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของมูลนิธิ ส่วนจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ต้องไปดูว่ามูลนิธิที่มาตั้งตามห้างมีตัวตนไหม ผมเข้าใจว่ามีตัวตนจริงเพราะว่าเป็นห้าง ถ้าเกิดไม่มีตัวตนแล้วห้างฯ ให้พวกนี้เข้ามาแล้วหลอก อันนี้ห้างจะเสียชื่อ”


อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย

อ.ธันยวัชร์ ยังเสริมต่อไปว่า การตลาดที่ให้คนเดินเข้าใส่เพื่อขอรับบริจาคโดยตรงแบบนี้ อาจส่งผลประทบต่อภาพลักษณ์ของมูลนิธิ และอาจทำให้คนไม่บริจาคอีกเลยก็เป็นได้

“บริจาคมูลนิธิยุค 4.0 ใช้ไดเร็กต์เซลประกบผู้ใจบุญ วิธีการทำมาร์เก็ตติ้งเพิ่มยอดให้มูลนิธิสมัยใหม่ แต่จะเหมาะสมหรือไม่ มูลนิธิต้องพิจารณาตัวเอง ถ้ามูลนิธิมีตัวตนจริง ผมว่าควรยุติการเพิ่มช่องทางรับบริจาคแบบนี้ เพราะต่อไปคนอาจจะไม่บริจาคมูลนิธินั้นเลย เมื่อมันไวรัลไป คนอาจจะไม่บริจาคเลยเพราะถือว่าคนก็ไม่แฮปปี้

ผมมองว่ารายได้มูลนิธิอาจจะตั้งเป้าไว้แล้วไม่พอ แล้วเศรษฐกิจแบบนี้เราก็ไม่บริจาค แล้วถ้าเป็นวิธีไดเร็กเซลดีไหม เข้ามาประกบแล้วอธิบาย เพราะว่าคนไทยใจบุญเยอะนี่ แต่เนื่องจากว่าบริษัทพวกนี้เป็นเอกชน ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ถ้าบริจาค 100 อาจจะถึงมูลนิธิแค่ 20 ที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายก็ได้



ผมว่าเป็นลักษณะนี้ อย่างผมถ้าจะบริจาคก็ไปที่ตั้งเลย ไม่ก็โอนเงินและส่งอีเมลไป เขาก็ส่งใบเสร็จรับเงินมา ผมก็ไปหักภาษี คือบอกคนที่จะบริจาค อย่าสนับสนุนวิธีการแบบนี้ ถ้าจะบริจาคมูลนิธิมีหลายวิธี ไปที่มูลนิธิหรือโอนเงินเข้าไป เดี๋ยวนี้เขาทำแบบนี้ทั้งนั้น”

สุดท้าย กูรูด้านการตลาดชื่อดัง ได้ฝากถึงคนใจบุญ ควรบริจาคเข้ามูลนิธิโดยตรง หรือหากการเจอเข้ากับสถานการณ์ข้างต้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องตั้งสติและถามกลับไปยังกลุ่มคนที่มาขอรับบริจาค เพื่อไม่ให้พวกเขาสามารถหว่านล้อมได้

“อย่าสนับสนุนการบริจาคโดยการไดเร็กต์เซลแบบรุมล้อมแบบนี้ ถึงแม้ท่านจะใจบุญก็ตาม ผมไม่เห็นด้วย จะทำให้คนที่ใจบุญจะเตลิดเลย ไม่บริจาคเลย ทำให้ภาพลักษณ์ของมูลนิธิมีปัญหาเลย ถ้าจะบริจาคต้องตรวจสอบให้ดีก่อน

แต่ถ้าเดินไปในห้างแล้วไปเจอบูทแบบนี้เข้า ต้องยิงคำถามเลย มูลนิธิตั้งอยู่ที่ไหน วัตถุประสงค์คืออะไร เอาเงินไปทำอะไร ทำมาทำแบบนี้ ทำไมมารุมล้อมแบบนี้ ให้ถามๆๆๆๆๆ อย่าฟังเขา พอเราถามเยอะๆ เขาจะหนีเอง ถ้าเราใจบุญจริง มีวิธีทำบุญอีกเยอะวิธีที่ถูกคือทำโดยตรง เพื่อที่จะถึงมือมูลนิธิหรือวัด ไม่ต้องหักค่าใช้จ่าย”



 
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **



กำลังโหลดความคิดเห็น