xs
xsm
sm
md
lg

แฉ! โปรฯ ล่อลวงคอบุฟเฟต์ จ่ายเงินฟรี-โต๊ะไม่มี-ไลน์ไม่ตอบ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 อยู่ดีๆ ก็หายไลน์ไม่ตอบ คนแห่ซื้อโปรฯ ร้านอาหารดัง ซื้อง่ายแต่จองโต๊ะยาก ลูกค้ากว่า 600 คน ตกเป็นเหยื่อแฉหนักในโซเชียลฯ นักการตลาดชี้เป็นกลยุทธ์การขายที่เสี่ยงตาย ด้านผู้พิทักษ์ผู้บริโภคแนะ ถ้าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขแจ้งความได้ทันที เพราะเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค


 

แฉร้านดัง จองโต๊ะยาก-รอนานจนหมดโปรฯ

คนคลั่งกินบุฟเฟต์แห่กันไปซื้อโปรโมชั่นส่วนลดร้านอาหารชื่อดัง ราคาต่อหัวจาก 888 ลดเหลือหัวละ 100 บาท แต่ปัญหาคือซื้อโปรโมชั่นแล้วจองโต๊ะยาก ต้องรอกินอาหารนานกว่า 2 เดือน หรือรอจนสิ้นสุดโปรโมชัน เหยื่อจากการซื้อโปรฯ นี้ออกมาแฉเรื่องราวของร้านลงโซเชียลฯ จนโดนทางร้านขู่ฟ้อง
 
ทางทีมข่าว MGR Live จึงได้ติดต่อไปทาง บุ๋ม วัย 40 ปี เหยื่อสาวผู้ออกมาแฉรายดังกล่าว ให้เล่าเรื่องราวทั้งหมด เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ชอบซื้อโปรโมชั่นส่วนลดร้านอาหาร

โดยเธอเล่าว่าได้ ซื้อ Voucher Buffet ของร้าน “แหลมเกตุ (Laemgate)” มาจากแม่ค้าในเฟซบุ๊ก หลังจากนั้นได้โทร.ไปจองโต๊ะที่ร้าน โทรไม่ติดจึงลองติดต่อไปยังไลน์สำหรับรับจองโต๊ะของทางร้าน ใช้เวลานานกว่าจะจองโต๊ะได้ และต้องรอคิวไปอีก 2 เดือน ทางร้านคอนเฟิร์มการจองโต๊ะ แต่ไม่มีใบตอบกลับจากทางร้าน

เมื่อเห็นท่าไม่ดี เธอจึงทักไปต่อว่าว่า ควรจัดคิวให้ผู้ซื้อโปรฯ รายเก่าแล้วค่อยขายโปรฯ ใหม่ เจ้าตัวจึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวทั้งหมดลงในเฟซบุ๊กและเว็บไซต์พันทิป จนกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอยู่ช่วงหนึ่ง พร้อมอัปเดตว่าล่าสุดได้คิวจองโต๊ะเรียบร้อยแล้ว แต่จากที่เสียความรู้สึกมายาวนาน เจ้าตัวจึงสัญญากับตัวเองเอาไว้แล้วว่า จะไม่ไปกินร้านนี้แล้ว

“ทางเราสํารองที่นั่งในช่วงปลายเดือน ม.ค.62 ทางร้านแจ้งกลับมาว่าโต๊ะเต็ม หลังจากนั้นทางร้านก็ได้แต่ส่งโปรโมชั่นมาขายที่นั่งอย่างต่อเนื่องจนในวันที่ 28 พ.ย. จึงได้ทักไลน์ไป เพื่อจองใหม่ ส่งไปหลายรอบ แต่ได้รับกลับมาแค่ข้อความขายโปรโมชั่นเหมือนเดิม



หลังจากเกิดประเด็น ทางร้านได้ออกมาพูดในลักษณะที่เติมเชื้อเพลิงให้กับสังคมโซเชียลฯ คือคำแถลงการณ์ของทางร้านที่ออกในทางประชดประชัน คล้ายไม่สำนึกผิดและดูเหมือนจะไม่มีคำขอโทษจากทางร้าน เพียงแต่ชี้แจงเรื่องการปรับปรุงระบบการสำรองโต๊ะเท่านั้น

“ผมจะขายราคาเท่าไร่ก็ได้มันเป็นร้านของผม ส่วนที่บ่นกันว่าจองยาก คิวรอนาน ถ้าจ่ายราคาเต็ม 888 บาท เดินสวยๆ เข้าร้านได้เลยนะครับ หลายปีที่ผ่านมาผมตัดสินใจทำโปรโมชั่น ก็เพื่ออยากให้ทุกคนได้ทานของดีราคาแบบสุดคุ้ม แต่วันนี้สิ่งที่ผมขอร้อง ขอให้ลูกค้าทุกท่านเข้าใจ อย่าใจร้อน

จากกระแสดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสความเข้าใจผิดกระจายเป็นหลายด้าน ที่ผ่านมาทางบริษัทได้ทำการเปลี่ยนแปลงระการสำรองที่นั่ง อาจทำให้ลูกค้าไม่สามารถติดต่อได้ในทันที จึงทำให้เจ้าขอกระทู้ดังกล่าวเข้าใจผิดที่คลาดเคลื่อน



[แชทลูกค้าที่ซื้อโปรฯ ร้าน “แหลมเกตุ” บุฟเฟต์แล้วร้านเงียบ]
อีกหนึ่งเคสที่ตกเป็นเหยื่อร้านขายโปรโมชั่นล่อลูกค้ารายเดียวกันคือ เจี๊ยบ วัย 57 ปี โดยรายนี้ได้ซื้อโปรโมชั่นและโอนเงินเกือบ 2,000 บาทให้ทางร้าน สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจโอนเงินทันที เพราะมั่นใจในชื่อเสียงของร้านที่ถือว่าดังมาก และก่อนหน้านี้ก็มีคนแนะนำไว้ว่าจองไม่ยาก

แต่พอถึงเวลาจองจริงๆ ด้วยตัวเอง กลับพบว่าจองโต๊ะยากมาก คือถึงแม้ทางร้านจะรับจอง แต่ก็ต้องรอคิวอีกอย่างน้อย 2 เดือน ซึ่งปัญหาคือด้วยระยะเวลาการรอคอยที่ยาวนาน ทำให้คิวที่มีอยู่ในมือ พอจะใช้จริงๆ กลับหมออายุไปเสียแล้ว คือกำหนดการของโปรฯ ดังกล่าว เริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค.- มี.ค.62 เท่านั้น แต่หลังจากมีเรื่องถูกร้องเรียนหลายราย ทางร้าน จึงได้ขยายเวลาให้ถึงเดือน ก.ย.เรียบร้อยแล้ว



เมื่อทีมข่าวได้หาข้อมูลเพิ่มเติมจากกรณีปัญหาการซื้อโปรโมชั่นแล้วจองโต๊ะยาก ทำให้ผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบหลายราย จึงพบว่ามีการสร้างกลุ่มลับในเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ “มีปัญหาการจองแหลมเกตุ” สำหรับบุคคลที่เจอปัญหาจากร้านนี้ ซึ่งภายในกลุ่มมีสมาชิกเกือบ 600 คน

และจากการไล่ดูข้อมูลในกลุ่มนั้นพบว่า เรื่องราวการแฉร้านอาหารรายนี้ยังคงไม่จบ เมื่อมีอีกหลายคนก็เจอปัญหาเดียวกันนี้ได้ตามไปทวงการสำรองโต๊ะตามเพจของทางร้าน ซึ่งบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “จองยาก ติดต่อไม่ได้”



กูรูแนะวิธีแก้เผ็ด ร้านอาหารเน้นโปรฯ หลอกลวงคน
[โปรฯ ร้าน “บาร์บีคิวพลาซ่า” ที่ยกเลิกเพราะวัตถุดิบไม่เพียงพอ]
ลองไล่หาข่าวฉาวเกี่ยวกับร้านอาหารที่ล่อลวงลูกค้าด้วยโปรโมชัน แต่สุดท้ายกลับเล่นแง่จนถูกดรามาตีกลับดูแล้ว จะพบว่าที่ผ่านมา ไม่ได้มีเพียงร้าน “แหลมเกตุ (Laemgate)” เท่านั้นที่ทำแบบนี้ แต่ยังมีร้านอาหารชื่อดังอย่าง “บาร์บีคิวพลาซ่า” กับประเด็นการขายโปรโมชั่นชุด “อิ่มฟินิตี้” อีกด้วย

โดยโปรโมชันดังกล่าว เสนอราคาให้ 399 บาท โดยให้บวกเพิ่มคนละ 159 บาท เพื่อสั่งหมูสไลซ์ไม่จำกัด ส่งให้โปรฯ นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนเกิดวิกฤตหมูสไลซ์ไม่เพียงพอต่อลูกค้า ทำให้ทางร้านได้ออกมาประกาศยกเลิกโปรโมชั่นนี้ ตามมาด้วยดรามาของผู้ที่ถือโปรฯ ที่ลุกขึ้นมาร้องเรียนราวดอกเห็ด

หนึ่งในเรื่องไม่พอใจข้อใหญ่ๆ ของบรรดาลูกค้าที่ซื้อโปรฯ จากทางร้านไปแล้ว ก็คือ การประกาศยกเลิกโดยไม่บอกล่วงหน้าของทางร้าน หรืออย่างน้อยๆ ก็ควรประกาศล่วงหน้า 1 สัปดาห์ เพราะการออกมาอ้างเรื่องวัตถุดิบไม่เพียงพอ จึงให้ใช้โปรฯ ที่ซื้อไว้ไม่ได้ มีแต่ทำให้เสียชื่อแบรนด์ด้วยความไม่พร้อมเรื่องการจัดการ และการประเมินพฤติกรรมของผู้บริโภคต่ำจนเกินไป ไม่เป็นมืออาชีพ



แม้แต่ร้าน “สเต๊กฮิปโปโปเตมัส (Hippopotamus Restaurant Grill)” ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่ถูกเพ่งเล็ง และเคยโดนแฉเรื่องโปรโมชันทำพิษเช่นกัน โดยมีเจ้าทุกข์รายหนึ่งได้ตั้งกระทู้ระบายเรื่องจริงไว้ในพันทิปว่า เจ้าตัวสั่งสเต๊กตามโปรฯ 499 บาท แต่ตอนเช็คบิล กลับเป็นราคา 989 บาท เมื่อถามพนักงานว่าเช็กบิลผิดหรือเปล่า ก็ได้คำตอบว่าคิดไม่ผิด โดยให้เหตุผลว่าเพราะลูกค้าสั่งเนื้อที่แพงกว่าปกติ

จากกรณีนี้ทางร้านจึงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนเป็นเหตุให้ต้องออกมาชี้แจงในภายหลังว่า เป็นความผิดพลาดของทางพนักงานเองที่จดรายการอาหารผิด และทางร้านพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง


[โปรฯ ร้าน “สเต๊กฮิปโปโปเตมัส” ที่คิดเงินลูกค้าเกินราคา]

จากตัวอย่างทั้งหมดนี้ ช่วยสะท้อนให้เห็นว่ายุคสมัยนี้เต็มไปด้วย “กลยุทธ์การดึงลูกค้าด้วยโปรโมชั่นมืด” ทำให้ลูกค้าตกเป็นเหยื่อหลายราย และเพื่อให้บทวิเคราะห์หลายๆ อย่างชัดขึ้น ทางทีมข่าว MGR Live จึงได้ติดต่อให้ผู้เชี่ยวชาญอย่าง ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย นักสื่อสารการตลาดชื่อดัง ให้ช่วยพูดถึงประเด็นดังกล่าวผ่านปลายสายเอาไว้ให้

“ร้านต้องการใช้ประโยชน์จากการขายโปรโมชั่นอยู่ 2 อย่างคือ 1.ทำให้ดัง และ 2.ดึงดูดคน ถ้าจะทำตามสองข้อนี้ต้องทำให้คุ้ม เพราะการซื้อคูปองต้องจองและจ่ายเงินก่อน ปกติอาหารพวกนี้ต้องกินแล้วค่อยจ่ายเงิน

กลยุทธ์การตลาด ถ้าตัดสินใจทำโปรโมชั่น ทางร้านต้องคิดให้ดีๆ เพราะอันนี้เป็นการเล่นกับมหาชน ถ้าไปเอาเงินลูกค้ามาก่อน และทางร้านทำไม่ได้อย่างที่ขายโปรโมชั่น มันจะส่งผลเสียต่อร้านหรือเผลอๆ อาจจะมีคนแจ้งความหรือเปล่า

เพราะฉะนั้น เวลาทำโปรโมชั่นต้องคำนึงให้ดีว่า ทำได้ตามที่ตกลงหรือเปล่า เพราะถ้าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโปรโมชั่น ต่อไปร้านก็จะอยู่ไม่ได้ แต่ถ้าทำตามเงื่อนไขโปรโมชั่นลูกค้าคุ้ม แต่ร้านไม่คุ้มก็เจ๊งอยู่ดี



กูรูการตลาดรายเดิมบอกอีกว่า ปัญหาที่ลูกค้าสำรองโต๊ะได้ยากก็มาจากกลยุทธ์ของร้าน ที่ทำให้คนซื้อโปรโมชั่นเยอะแล้วค่อยทำให้เรื่องยาก ซึ่งโปรโมชั่นนี้ไม่ได้เอาเปรียบลูกค้า ถ้าหากทำตามเงื่อนไขตามโปรฯ ที่ขายให้ลูกค้าได้

“ซื้อโปรโมชั่นที่ราคาลดเหลือหัวละ 100 บาท เราคุ้มแต่ร้านไม่คุ้ม ร้านก็จะเจ๊งสิ ถ้าคุณไปกินตอนไหนก็ได้ภายใน 6 เดือนเนี่ย ร้านจะอยู่ไม่ได้นะ โปรฯ แบบนี้เฉลี่ยแล้วตกคนละร้อยนิดๆ คนก็จะแห่ไปกินนะ ดังนั้น ร้านเลยทำให้มันยาก พอคนจองเยอะร้านจะอยู่ไม่ได้ก็ต้องให้จองยาก แล้วกว่าจะได้กินก็รอตั้ง 3-4 เดือน คนมันก็ท้อ

ขายโปรฯ ไม่ได้เอาเปรียบลูกค้า ถ้าร้านทำได้ตามเงื่อนไขของโปรฯ ร้านก็จะมีชื่อเสียงต่อไป แต่ถ้าทำไม่ได้ลูกค้าจะมองว่าทางร้านหลอกขายโปรโมชั่นให้แก่ลูกค้า ถ้าจะเล่นเกมนี้เจ้าของร้านต้องคิดให้รอบคอบ เพราะชื่อเสียงมันจะเสียหายแล้วมันกู้กลับลำบากในยุคนี้มันเป็นยุคของโซเชียลฯ

มองอีกมุมของฝ่ายผู้ร้องเรียนเพื่อสิทธิผู้บริโภคอย่าง นฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ที่มองว่า ปัญหาการจองโต๊ะร้านอาหารยากถ้าลูกค้ายังไม่โอนเงินร้านก็ไม่ผิด แต่ถ้าลูกค้าโอนเงินไปแล้วไม่ได้รับบริการจากทางร้านถือว่าทางร้านผิด

“การซื้อโปรโมชั่นและได้รับเงินจากลูกค้าไปแล้วเป็นการทำสัญญา ถ้าติดต่อทางร้านไม่ได้หรือไปกินไม่ได้สามารถเรียกเอาเงินทั้งหมดคืนได้ แต่ต้องดูเงื่อนไขข้อตกลงก่อนว่าตกลงกันไว้อย่างไร ถ้าเราไปร้านแล้วเขาไม่สามารถให้บริการตามที่เขาโฆษณาไว้ในโปรโมชั่น ทางร้านจะเข้าข่ายโฆษณาเกินจริงแจ้งเอาความได้

ถ้าทางร้านยังไม่ปรับปรุงกับปัญหานี้ แล้วมีผู้บริโภคไปแจ้งความ ทางร้านจะถือว่าทำผิดตามมาตรา 22 (1) ข้อความโฆษณาที่เป็นเท็จหรือเกินจริง จะถูกตรวจสอบและให้แก้ไข แต่ถ้ายังฝ่าฝืนไม่ปรับปรุงจะโดนจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สกู๊ป: ทีมข่าว MGR Live
 



 
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **

กำลังโหลดความคิดเห็น