'แบนซีรีส์ไปก็ไร้ประโยชน์!!' สังคมออนไลน์ถล่มเละพรรค 'พลเมืองไทย' แสดงจุดยืนผิดที่-ผิดทาง หลังยื่นหนังสือขอปลดป้ายโฆษณาซีรีส์วัยรุ่นจาก Netflix อ้างลามกอนาจาร-ชี้นำเด็กไทยมีเพศสัมพันธ์ แต่กระแสตีกลับความคิดล้าหลัง ปิดหู-ปิดตาเยาวชน ด้านนักวิจารณ์จากเพจดัง เปิดใจ ปัญหาในวัยรุ่นไม่ได้เกิดจากซีรีส์ ย้ำ สิ่งที่ควรแก้ไขคือทัศนคติผู้ใหญ่!
ซีรีส์ Sex Education ไม่เหมาะกับเด็กไทย!?
สร้างชื่อเสียงให้กับพรรคการเมืองได้อย่างน่าจดจำเสียเหลือเกิน! เมื่อ 'พรรคพลเมืองไทย' เดินเรื่องขอให้ปลดป้ายโฆษณาซีรีส์ Sex Education จาก Netflix (เน็ตฟลิกซ์) ที่ถูกติดตั้งบริเวณข้างทางด่วนพระราม ๙ และทางด่วนจากอุรุพงษ์ ไปแจ้งวัฒนะ โดยให้มุมมองว่าซีรีส์เรื่องดังกล่าวมีการนำเสนอเนื้อหาทางเพศที่ไม่เหมาะสม!
ประเด็นดราม่าทั่วโลกออนไลน์ครั้งนี้เริ่มมาจากผู้สมัคร ส.ส.หญิงของพรรค ได้เห็นโฆษณา Netflix จากป้ายโฆษณาขนาดใหญ่เพื่อชวนให้ดูซีรีส์เรื่อง Sex Education เมื่อได้รับชมซีรีส์ดังกล่าว พบว่า มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมกับเยาวชนไทย ทั้งเรื่องเพศ การใช้ยาเสพติด การพูดจาหยาบคาย และภาพลามกอนาจาร
จากตรงนี้นำมาสู่ข้อเรียกร้องถึง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการคมนาคมแห่งชาติ เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน แถมยังบอกอีกว่า เนื้อหาภาพรวมของซีรีส์ Sex Education แม้ชื่อเรื่องจะใช้คำว่า 'เพศศึกษา' แต่เนื้อหานั้น 'ผิดศีลธรรม'
โดยได้อธิบายถึงการเรียกร้องข้างต้น สาเหตุเนื่องจากสภาพของสื่อลามกอนาจารต่างๆ ที่เปิดเผย สามารถเข้าถึงได้ง่าย ขณะที่หน่วยงานของรัฐไม่สามารถจัดการได้ ซึ่งเจ้าซีรีส์ Sex Education เองได้มีการโฆษณาอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ย่อมท้าทายการทำงานของหน่วยงานภาครัฐนั่นเอง
จากกรณีนี้ได้นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของพรรคการเมืองไทยในหลายแง่มุม โดยส่วนใหญ่มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากชุดความคิดอนุรักษนิยม คล้ายสังคมปากว่าตาขยิบที่มักปกปิดสิ่งที่สังคมไทยควรเรียนรู้ โดยเฉพาะกับเยาวชนไทยในเรื่องเพศว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอาย
“ทัศนคติเชยมากเลยค่ะ ถ้าจะตีความคำว่า Sex Education ต้องมีเนื้อหาวิชาการ ถือว่าทัศนคติไม่ผ่านเลย นี่ปี 2019 แล้วนะคะ แต่กรอบความคิดเหมือนยุค 60-70 ปีที่แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่อยากพัฒนาประเทศชาติ ”
“เป็นการได้พื้นที่สื่อในประเด็นทางสังคมที่แย่ที่สุดครั้งหนึ่งของพรรคการเมืองไทย ถ้านี่คือการประชาสัมพันธ์ตัวเองทางอ้อม นี่คือการตลาดที่ล้มเหลว หรือถ้านี่มาจากแนวคิดของพรรคจริงๆ ก็เป็นแนวคิดที่ตื้นเขิน ล้าหลัง ซึ่งล้มเหลวและน่าอับอาย”
“ต่อให้ไม่มี Netflix เด็กวัยรุ่นก็ท้องไม่พร้อมกันอยู่แล้วหรือเปล่า มีเซ็กซ์กันตั้งแต่วัยเรียน เป็นคุณแม่วัยใส แถมข้างนอกก็มีอาบ อบ นวด กันทั่วกรุงฯ อย่ามัวแต่มาเพ่งเล็งหนังวัยรุ่น ขณะที่วงการละครไทยก็ไม่ต่าง มีแต่ใช้ความรุนแรง ตบตี อิจฉาริษยา”
แน่นอนว่าท่ามกลางกระแสในสังคมที่โจมตีพรรคพลเมืองไทยอย่างหนัก จนทำให้ชื่อเสียงของพรรคนี้กลายเป็นที่พูดถึงกันเพียงข้ามคืน ทีมข่าว MGR Live ได้ตรวจสอบความเป็นมาและนโยบายของพรรคดังกล่าว
พบว่าเป็นพรรคน้องใหม่ มีหัวหน้าพรรค คือ 'เอกพร รักความสุข' ซึ่งเป็นอดีต ส.ส. จังหวัดสกลนคร และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม นอกจากนี้ยังมีนโยบายหลักของพรรคที่เน้นจุดยืนที่เป็นกลางทางการเมือง โดยนายกฯ จะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
อีกทั้งยังชูเรื่อง 'กระทรวงอาหาร' ดันอาหารไทยให้เป็นอันดับ 1 ของโลก รวมถึงเสนอให้ขุดคลองในภาคใต้ เชื่อมโยงทะเลฝั่งอันดามันกับอ่าวไทยไว้ด้วยกัน โดยตั้งเป้าจะได้ ส.ส. ที่จะได้จากการเลือกตั้งรอบนี้ คาดว่าจะได้ทั้งหมด 25 ที่นั่ง แต่ถึงอย่างไร คงต้องรอลุ้นกันอีกระลอกว่า
สุดท้ายแล้ว ชื่อเสียงของพรรคพลเมืองไทยที่เกิดขึ้นในเวลานี้ จะกลายเป็นจุดแข็งหรือจุดอ่อนต่อการได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนในอนาคตกันแน่!
ปัญหาวัยรุ่นไทย ต้องแก้ที่ “ทัศนคติ”
“ผมว่าเขาน่าจะมีแนวคิดที่ค่อนข้าง Conservative (อนุรักษนิยม) ซึ่งก็ไม่ผิด แต่ผมคิดว่าแนวคิดแบบนั้นค่อนข้างล้าสมัยเกินไปสำหรับประเทศเราในปัจจุบัน ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าตอนนี้เรามีปัญหาเกี่ยวกับการตั้งท้องไม่พร้อม การติดต่อของโรคทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งปัญหานี้มันไม่ใช่เล่นๆ และที่น่าตกใจคืออยู่ในกลุ่มเด็กและเยาวชนทั้งนั้นเลย”
คำบอกเล่าของเจ้าของหนังสือ 'กระปู๋แมน' ที่ว่าด้วยการปฏิรูปเพศศึกษายุคใหม่ จากเจ้าของเพจดังสายดาร์ก อย่าง 'จ่าพิชิต ขจัดพาลชน' เปิดใจกับทีมข่าวหลังต่อสายตรงถึงข้อถกเถียงที่เกิดขึ้นในสังคมออนไลน์ในเวลานี้
ซึ่งสายตาของผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาวัยรุ่นไทย มองว่า อุปสรรคในการเปิดรับเรื่องราวเกี่ยวกับเพศในสังคมไทยเริ่มมาจากการมีความเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าอับอายและเลวร้าย นี่จึงนำมาสู่ความเข้าใจแบบผิดๆ เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะกับเยาวชนไทย
“เพราะเราไม่ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษากับเด็กอย่างดีพอ สังเกตง่ายๆ เวลาที่เด็กๆ อยากรู้เรื่องเหล่านี้ พ่อแม่สมัยก่อนมักจะบอกว่า 'ยังไม่ต้องรู้หรอก' หรือ 'รอให้ถึงเวลาก็จะรู้เอง' นี่ทำให้เด็กต้องไปพึ่งสื่ออื่นๆ เช่น การดูหนังโป๊ หรือหนังสือโป๊เพื่อศึกษาเรื่องนี้ กลายเป็นว่าเขาไม่ได้เรียนรู้อย่างถูกต้องก็เตลิดเปิดเปิงไป
ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศของเยาวชนไทยที่ยังมีอยู่ ผมว่ามันเกิดแนวคิดเรื่องเพศศึกษาบ้านเรา ผมว่าเราต้องเปลี่ยนแนวคิดที่ว่า เพศศึกษาเป็นเรื่องน่าขยะแขยง เป็นเรื่องน่าละอายหรือไม่ควรสอนเด็ก ซึ่งเราควรอย่างยิ่งที่ต้องสอนเพราะมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตเรา
ส่วนซีรีส์นี้คนที่ดูแล้วจริงๆ ชื่นชมกันทั่วประเทศเลยนะ เพราะเนื้อหามันดี ก่อนอื่นเลยต้องดูก่อนว่าสิ่งที่หนังหรือซีรีส์ต้องการนำเสนอประเด็นอะไร แก่นของเรื่องไม่ใช่การยั่วยุให้วัยรุ่นไปมีเพศสัมพันธ์กัน
แต่เป็นการพูดถึงประเด็นการมีปัญหาเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตั้งท้องไม่พร้อม หรือการมีเพศสัมพันธ์แล้วไม่มีความสุขในชีวิต กระทั่งโรคติดต่อ เนื้อหาซีรีส์ได้ให้นักแสดงเหล่านี้มานำเสนอ
รวมถึงสอดแทรกแนวคิดให้คนดูได้ประเด็นไป เรื่องเซ็กซ์เป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของซีรีส์เรื่องนี้เท่านั้นเอง ถ้าบอกว่าห้ามดูหนังเพราะมีฉากเซ็กซ์ ผมว่าเราคงต้องแบนหนัง Netflix กันทั่วโลกเลย”
เห็นได้ว่าแวดวงซีรีส์ต่างประเทศต่างมีการนำเสนอคอนเทนต์ (เนื้อหา) เกี่ยวกับวัยรุ่นอย่างมากมาย จากประเด็นนี้คงเป็นเรื่องยากที่จะห้ามให้เยาวไทยเข้าถึงสื่อดังกล่าว แต่ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้รับคำปรึกษาหรือคำแนะนำจากครอบครัว ซึ่งอดีตแพทย์คนเดิมยืนยันด้วยว่าการพูดคุยอย่างเปิดใจถือเป็นเรื่องที่ดี
“ก่อนอื่นต้องดูเรตติ้งของหนังว่าหนังของ Netflix หรือหนังของต่างประเทศจะมีการระบุเรตติ้งไว้ พ่อ-แม่ต้องเป็นคนให้คำแนะนำ ถ้าลูกยังเด็กเกินไปคงต้องบอกลูกว่ายังไม่เหมาะ แต่ถ้าถึงวัยแล้วก็สามารถดูได้ แต่ต้องให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ พูดคุยประเด็นที่เกิดขึ้นในหนัง ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ”
ขณะนี้กระแสในโซเชียลมีเดียยังคุกรุ่น เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการออกมาเรียกร้องของพรรคพลเมืองไทยว่า เป็นไปเพื่อต้องการได้พื้นที่สื่อเพื่อประชาสัมพันธ์พรรคการเมืองของตนหรือไม่นั้น ด้านจ่าพิชิตให้ความเห็นหลักๆ น่าจะมาจากแนวความคิดต่อเรื่องเพศในอดีต ซึ่งแน่นอนว่าสังคมไทยยังคงต้องปรับตัวตามให้ทันโลกปัจจุบัน
“การออกมาทำให้คนรู้จักแบบนี้ไม่น่าดีนะครับ(หัวเราะ) แต่ผมเข้าใจนะว่าถ้าเป็นคนที่อายุมาก อาจจะมีทัศนคติแบบนั้นได้ แต่มันเป็นเรื่องของสังคมยุคใหม่ที่เราต้องปรับตัวตาม ต้องดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ ผมว่ามันเกิดขึ้นจากทัศนคติเก่าๆ แบบนั้นที่ตามไม่ทันโลกแล้ว ฉะนั้น เราต้องปรับตัวตามกัน
สำหรับบทสรุปของเรื่องนี้ ผมว่าต้องให้เขาดูซีรีส์เรื่องนี้ให้จบก่อน ถ้าดูจบแล้วผมว่าเขาอาจจะละอายกับสิ่งที่เขาทำไปก็ได้ ผมว่าต้องแก้ที่ทัศนคติของผู้หลักผู้ใหญ่ หรือคนที่ให้ความรู้แก่เยาวชนต้องมีความเปลี่ยนแปลง ผมอยากฝากให้คนมาดูซีรีส์แบบนี้กันเยอะๆ เพราะมันจะช่วยให้เรามีประเด็นที่จะมาถกเถียงและพูดคุยกันได้
อีกทั้งอยากให้สังคมไทยเปิดกว้างเรื่องเพศศึกษามากขึ้น กล้าที่จะหยิบประเด็นพวกนี้มานำเสนอ พูดคุย ถกเถียงกัน มันจะทำให้เด็กและเยาวชนไทยมีความรู้เรื่องนี้ เพื่อปกป้องตัวเองจากปัญหาเรื่องโรคติดต่อและท้องไม่พร้อมในอนาคตได้”
ข่าวโดย MGR Live