xs
xsm
sm
md
lg

“แท็กซี่สะพานบุญ” อุ้ม รับ ส่งฟรี “ป่วย – พิการ – พระสงฆ์” เรียกใช้ได้! [มีคลิป]

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ดูแลยิ่งกว่าญาติ! เปิดเรื่องราวหลังพวงมาลัยรถ “สุวรรณฉัตร พรหมชาติ” คนขับแท็กซี่จิตอาสา ที่ทำหน้าที่ “อุ้ม” ผู้ป่วย - ผู้พิการ ส่งโรงพยาบาลฟรีตลอดชีวิต มานานกว่า 2 ทศวรรษ ไม่เพียงแค่นั้น ยังทำโต๊ะ - เก้าอี้ มอบให้โรงเรียน/โรงพยาบาลที่ขาดแคลน จนใครๆ ต่างขนานนามให้เป็น “แท็กซี่สะพานบุญ”

23 ปีกับหน้าที่ “แท็กซี่ใจบุญ”

“ดีที่สุด คือการให้ไม่สิ้นสุด” , “พระสงฆ์ สามเณร แม่ชี นิมนต์นั่งฟรีครับ”, “คนพิการ อัมพฤกษ์ อัมพาต ช่วยเหลือฟรี”, “ขาดเงิน ขาดรถ ขาดคนอุ้ม คนรวยมีรถ ขาดคนขับ ขาดคนอุ้ม ลูกหลานไม่ว่าง ในบ้านมีแต่ผู้หญิง อุ้มไม่ไหว บริการฟรีครับ”

ข้อความข้างต้นถูกนำมาติดอยู่รอบตัวรถแท็กซี่สีเขียว-เหลืองคันใหญ่ของ “เดี่ยว - สุวรรณฉัตร พรหมชาติ” โชเฟอร์หนุ่มใหญ่วัย 41 ปี หรือที่สังคมรู้จักกันดีในนามของ “แท็กซี่ใจบุญ” ผู้อุทิศแรงกายแรงใจในการเป็นจิตอาสา ขับรถแท็กซี่คู่ใจคอยช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้พิการ ด้วยการให้โดยสารรถแบบไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมระยะเวลาที่เขาโลดแล่นอยู่ในเส้นทางแห่งการทำความดีก็เข้าสู่ปีที่ 23 ปีแล้ว


แท็กซี่คู่ใจพร้อมรับ – ส่งแบบไม่คิดค่าใช้จ่าย

กิจวัตรของเขาในแต่ละวัน จะตระเวนรับผู้ป่วยหรือผู้พิการในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ไปส่งยังโรงพยาบาล ตามคิวที่โทรศัพท์มาจองไว้ล่วงหน้า ซึ่งการนำตัวผู้ต้องการความช่วยเหลือขึ้นรถ จะใช้วิธี “อุ้ม” แต่การอุ้มนั้นจะไม่ได้ทำอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความปลอดภัยของผู้ป่วย

โชเฟอร์ผู้นี้จะเตรียมอุปกรณ์ในการอุ้ม อันประกอบไปด้วย ชุดเกราะเซฟหลังที่ตนเองต้องใส่ทุกครั้ง เผื่อไว้เวลาเจอคนป่วยที่มีน้ำหนักตัวมาก , ชุดเกราะฟองน้ำที่มีความนิ่ม เมื่อเจอผู้ป่วยมีแผลกดทับจะช่วยเซฟอาการเจ็บของผู้ป่วยได้มาก , ปลอกแขนบุนวม เพื่อที่เวลาอุ้มจะทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อยที่สุด และเบาะรถไฟฟ้าที่ถูกปรับแต่งให้มีความสะดวกต่อการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย


อุปกรณ์การอุ้ม เซฟทั้งตนเองและผู้ป่วย

นอกจากนี้ เขาไม่เพียงแต่รับ-ส่ง ผู้ป่วยติดเตียงและผู้พิการ แต่ยังรับ-ส่งพระสงฆ์ สามเณร และแม่ชีฟรีอีกด้วย ซึ่งการรับ-ส่งผู้ป่วยแต่ละราย ไม่ใช่ช่วยแค่ครั้งเดียวจบ หากแต่ช่วยกันไปตลอดชีวิต
เมื่อผู้สัมภาษณ์ขอให้เล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นว่า อะไรทำให้ตัดสินใจที่จะมาเป็นจิตอาสา รับ-ส่งผู้ป่วย ผู้พิการฟรี ดังเช่นทุกวันนี้ เขาก็ได้ให้คำตอบว่า ก่อนที่จะมาเป็นผู้ให้ เขาเคยเป็นผู้รับมาก่อน

“ผมขับแท็กซี่ตอนอายุ 18 ปี ก่อนที่จะมาขับก็ทำงานก่อสร้าง อ๊อก เชื่อมต่างๆ พอขึ้นหลังคาสูงๆ เลยคิดว่าสักวันคงจะพลาดตกลงมาพิการหรือตายได้ เลยคิดว่าอาชีพไหนที่เป็นอิสระและได้เงินทุกวัน ก็เลยมาขับแท็กซี่ วันหนึ่งผมเจอลุงพิการ เรียกรถหลายคันไม่มีใครรับ พอเรารับแกขึ้นมาบนรถ แกพูดซ้ำๆ ว่า “อยากฆ่าตัวตาย คนเดี๋ยวนี้มันใจดำจริงๆ”



มันทำให้ผมแปล๊บขึ้นมาในใจ ในสมัยอายุ 15 ผมถูกหลอกไปออกเรือ โดนเรือหนีบ โดนทำร้าย เงินไม่ได้ พอเข้าฝั่งมาได้ก็หนี ตอนที่ไปนอนอยู่สถานีรถไฟชุมพร คนก็เดินผ่านไปผ่านมาทั้งวัน เราก็ไม่ได้คิดว่าใครจะมาช่วย แต่ปรากฏว่ามีคนมาช่วย ซื้อข้าว ซื้อตั๋วรถไฟ รวบรวมเงินอีกเกือบ 300 บาท ให้เราได้กลับบ้าน นั่งกินข้าวไปผมก็น้ำตาไหลไป ซาบซึ้งว่า เขาเหมือนเทวดามาโปรด แล้วคำพูดของลุงคนนี้แทงใจผม มันทำให้นึกถึงตรงนั้น

ก็เลยทำให้เราอยากจะแบ่งปันน้ำใจให้แก่สังคม อย่างที่คนอื่นเคยแบ่งปันให้เรา เลยทำมาเรื่อยๆ จนไม่ได้สนใจเรื่องเงินแล้ว บางทีได้เงินมาก็คิดไม่ออกว่าจะเอาไปทำอะไร รู้สึกว่าชีวิตจะเป็นทาสเงินตลอดเหรอ ความคิดเลยเปลี่ยนไปว่า ใช้ชีวิตให้มีค่ามากกว่าที่จะมุ่งไปสู่เงิน การแบ่งปันน้ำใจด้วยการทำความดี เพราะว่าถ้าเราไปสนใจเงิน เสาะแสวงหาความอยากหรือกิเลสที่ตัวเองพึงได้เหมือนคนอื่นเขา มันก็จะยิ่งเกิดทุกข์ แต่ถ้าเราใช้พละกำลังหรือใช้ในสิ่งที่เรามีเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น มันก็เป็นการทำบุญไปในตัว เหมือนหยอดกระปุกไปเรื่อยๆ(ยิ้ม)”

“โชเฟอร์ - คุณหมอ” คู่ชีวิตหัวใจจิตอาสา

“สังคมทุกวันนี้เป็นสังคมที่ผู้สูงอายุมากขึ้น คนป่วยนอนติดเตียงก็มากขึ้น อุบัติเหตุก็มากขึ้น ผมก็จะกำหนดว่า คนป่วยที่เราไปช่วยจะรวยหรือจน ฟรีหมด คนจนขาดเงินขาดรถ ขาดคนอุ้ม คนรวยมีรถ ขาดคนขับ ขาดคนอุ้ม ลูกหลานไม่ว่าง ในบ้านมีแต่เด็กแต่ผู้หญิง ผมอุ้มให้ฟรี ไม่ได้แยกแยะ รวย จน ฟรีหมด ในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียง

ผมไม่ได้ช่วยครั้งเดียว ช่วยจนตายหนีจาก ถ้าคนรวยที่เราช่วยประจำ วันหนึ่งเขาเสียไปแล้ว เราก็ได้เป็นสะพานบุญต่อ เตียงสภาพดี รถเข็น ที่นอนเป่าลม เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องดูดเสมหะ เขาบริจาคผ่านเราหมด เราก็เอารถไปขนมาไว้ห้อง จนห้องมีแต่ของพวกนี้ แล้วผมก็มานอนอยู่นอนห้อง(หัวเราะ) เหมือนเป็นสะพานบุญต่อให้คนที่ยากจน ไม่มีทุนทรัพย์ในการซื้อ”


ภายในบ้านเต็มไปด้วยของเตรียมการบริจาค

แท็กซี่ใจบุญเปิดเผยว่า พื้นที่ภายในบ้านของเขาเต็มไปด้วยของใช้ที่ไว้สำหรับดูแลผู้ป่วย ผู้พิการ ที่เตรียมจะนำไปบริจาคต่อ ซึ่งทุกวันนี้ไม่เพียงแค่การทำหน้าที่เป็นสารถีของผู้ต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น เขายังสละเวลาไปเชื่อมเหล็ก ทำโต๊ะ - เก้าอี้ บริจาคให้แก่เด็กๆ ในโรงเรียนยากไร้ รวมถึงโรงพยาบาลที่ขาดแคลนอีกด้วย

“เงินที่ได้รับบริจาคมา ผมไม่สะสมนะ นอกจากจะเติมแก๊สช่วยเหลือสังคมแล้ว ยังช่วยทำโต๊ะบริจาค ที่ผ่านมาทำไปร้อยกว่าชุด เพราะถือว่าผมทำเพื่อสาธารณะประโยชน์ มีเพื่อนที่เห็นว่าเราทำมานานเขาก็มาสมทบ หมดไปก็มีมาเรื่อย มีไม่เยอะแต่สามารถทำได้ตลอด จนผมรู้สึกว่าชีวิตมันเปลี่ยนเยอะเลย”


ทำโต๊ะ - เก้าอี้ ให้โรงเรียนและโรงพยาบาลที่ขาดแคลน

สำหรับความช่วยเหลือของจิตอาสาผู้นี้ ไม่เพียงช่วยรับ-ส่ง ผู้ป่วย ผู้พิการ ไป-กลับโรงพยาบาลฟรี แต่ยังช่วยคนไร้ญาติขาดมิตร คนถูกทิ้งไร้คนดูแล ให้ได้รับการดูแลจากสถานสงเคราะห์มาแล้วหลายราย บางรายประสบชะตากรรมอยู่ในสถานะไม่ต่างกับคนเถื่อน เพราะไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน เขาก็ช่วยให้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง

และผู้ที่คอยติดต่อประสานงานเรื่องเอกสารก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็น พญ.จำเนียร พรหมชาติ คู่ชีวิตของเขา ที่มักจะออกไปกับสามี เพื่อช่วยดูแลและการจัดการเรื่องสิทธิผู้พิการ สิทธิผู้สูงอายุ ประกันสังคม และการให้ความรู้เรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ผู้ป่วยควรได้รับอีกด้วย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอดระยะเวลานานเกิน 2 ทศวรรษในการเป็นจิตอาสา หากเป็นบางคนอาจถอดใจไปแล้ว แต่สำหรับสุวรรณชาติ เขายอมรับว่า โชคดีที่มีคุณหมอจำเนียรเป็นภรรยา



“ผมก็บอกเขา(ภรรยา)เสมอว่า คนที่อยู่กับผมได้ต้องเป็นคนที่เสียสละเพื่อคนอื่น ถ้าจะมาเพื่อหวังว่าให้ผมดูแลเขาอย่างเดียว ทิ้งผมไปง่ายกว่าที่จะให้ผมมาเลิกสิ่งที่ทำ ชีวิตผมก็ได้หย่าร้างเพราะสิ่งเหล่านี้มาแล้ว ก็ปรากฏว่าคุณหมอเขาคิดแนวเดียวกันตรงที่ว่าให้ได้ แล้วก็มีจิตใจเมตตาต่อผู้ป่วย ไปไหนไปกันเหมือนคู่หู นอนบนรถก็ไม่บ่น ตื่นก่อนมาปลุกผมตี 3 เพื่อไปหาคนป่วย ทุกวันนี้นาฬิกาปลุกผมคือคุณหมอ

โชคดีที่สุดของผมไปถึงพ่อแม่ด้วย พ่อตามองไม่เห็นมาสิบกว่าปี หมอดูตาให้หน่อยเดียวเป็นต้อกระจก พาไปผ่าพ่อก็มองเห็น มันนำไปสู่ความสุขในครอบครัว ภรรยาของผมจะมาดูแลผมเวลาผมปวดหลัง เชื่อไหมว่าชีวิตผมไม่คิดเลยว่าใครจะมาใส่ถุงเท้าให้ทุกวัน ผมใส่เองก็ได้ แต่หมอกลัวว่าจะเจ็บหลังเลยใส่ให้ เขาทำอย่างนั้นมาตลอด เวลาผมกล้ามเนื้ออักเสบ หมอก็นวดให้ จัดยาให้

มันก็เลยกลายเป็นว่า...จะว่าสวรรค์กำหนดมาก็จะเวอร์ไปไหม(หัวเราะ) แต่ผมรู้สึกว่า นี่เป็นสิ่งที่มาช่วยครอบครัวผมด้วย
อยากจะบอกคุณหมอว่าคุณหมอเหมือนนางฟ้าลงมา ชุบความรู้สึกให้ผมรู้สึกมีกำลังใจที่จะทำต่อไปอย่างที่ไม่มีวันหยุด โดยที่ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนที่เคยอยู่คนเดียว ก็รักมาก รักคุณหมอมากครับ(ยิ้ม)”



เมื่อผู้สัมภาษณ์ ยิงคำถามถึง พญ.จำเนียร ว่าอะไรทำให้รู้สึกว่า จะต้องตกลงปลงใจใช้ชีวิตกับคนคนนี้ ทางด้านของภรรยาแท็กซี่ใจบุญก็ให้คำตอบว่า เพราะความดีที่เขาทำ

“พื้นฐานเขาเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือไม่ได้หวังผลตอบแทน ตอนนั้นเราก็เป็นหมอ คนไข้เดินมาหาเรา อยู่ในห้องแอร์สบาย แต่เราก็รู้สึกบางทีก็เครียด ซ้ำซากจำเจ แต่พอมาเห็นเขาวิ่งเข้าไปช่วยเหลือคนไข้ถึงในบ้าน เหงื่อแตกไม่ได้กินไม่ได้นอนเป็นเวลา เขายังไปช่วย ในขณะที่เราอยู่สบาย แค่นั่งรอให้คนไข้มาขอความช่วยเหลือ มันเลยเหมือนช่วยเติมพลังใจให้เราในตอนนั้น

แล้วมีลักษณะนิสัยและการดำเนินชีวิตที่คล้ายกัน ที่นี้ก็มาดูว่าเราจะช่วยเหลือเขาได้ยังไงได้บ้าง ได้ช่วยเหลือกันมันก็ไปในทางเดียวกัน เข้าใจกัน แล้วก็สนับสนุนกัน ในที่สุดจากร่วมบุญกันก็มาร่วมชีวิตกัน(ยิ้ม) ก็อยากบอกว่า ก็โชคดีที่ได้มาเจอเขา จริงๆ แล้ว น่าจะเป็นคนเดียวในโลกนี้ก็ได้ที่เป็นอย่างนี้ คนอื่นก็อาจจะดีในแบบที่คนอื่นชอบ แต่แบบที่เขาเป็นมีคนเดียวในโลกนี้ที่เรารักแล้วก็เทิดทูน(ยิ้ม)”

ชีวิตนี้ ขอทำดีตามรอยพ่อหลวง

แม้จะปิดทองหลังพระมาอย่างสม่ำเสมอ แต่ผลจากการความดีที่ทำก็มีคนเห็น เพราะตัวเขานั้นได้รับรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ มาแล้วมากมาย ทั้งกรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม มหาวิทยาลัย ฯลฯ

และสิ่งที่ทำให้คู่สามี-ภรรยาจิตอาสาคู่นี้ ภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต ก็คือการได้เข้ารับพระราชทานพระราชกระแสชมเชยในการทำความดี ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ยังความปลาบปลื้มมาสู่เขาและภรรยาอย่างหาที่สุดมิได้ พร้อมสัญญาว่า จะตั้งใจทำความดีต่อไป เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน จนกว่าชีวิตจะหาไม่


คู่สามี - ภรรยาจิตอาสา เข้ารับมอบพระราชกระแสทรงชมเชย ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน

เมื่อสนนทนาดำเนินมาถึงตอนจบ สุวรรณชาติ แท็กซี่ใจบุญ ก็ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตของ ก็คือในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมกับฝากข้อคิดดีๆ ไว้ว่า รักษาความดีให้เท่ากับทะเลที่รักษาความเค็ม

“แรงบันดาลใจสำคัญของผมคือในหลวงรัชกาลที่ 9 บนหัวนอนจะมีภาพของพระองค์ประทับอยู่ข้างล้อรถยนต์พระที่นั่ง พระองค์ลุยไปทุกๆ ที่ที่ชาวบ้านลำบาก เวลาเขาเชิดชูหรือยกให้เราเป็นแบบอย่าง ก็เป็นเครื่องเตือนใจอย่างหนึ่งว่า ให้อดทนและอย่าเผลอ ก็เหมือนรักษาความดีให้เท่ากับทะเลที่รักษาความเค็มครับ



งานจิตอาสาคืองาน ลมหายใจทุกวันนี้อยู่เพื่อคนอื่น ไม่ได้อยู่เพื่อตัวเอง ผมไม่ได้หากินมาแล้วปีแล้ว ช่วยคนอย่างเดียว แต่ก่อนเราปิดทองหลังพระมาก หากินไปด้วย ทำบุญไปด้วย วันนี้มีคนที่ติดตาม เขาเห็นเราทำจริง ทำทุกวัน ทำโดยที่ไม่ได้รังเกียจ เขาก็โอนเงินมาร่วม พอตอนหลังบางคนเขาก็เห็นว่ามีที่ที่บริจาค เช่นรถเข็น ที่นอนลม ผมก็จัดซื้อมาแล้วถ่ายรูปให้เขาดู เราเป็นแค่สะพานบุญนำส่งถึงผู้ที่ ตัวบุญจริงๆ คือเขา

ขนาดรถคันเก่ายังถวายวัดไป แล้วคันใหม่ผู้ร่วมบุญเขาบริจาคมา เบาะรถก็มีคนบริจาคให้ ยางล้อรถก็มีบริษัทให้ ถ่ายน้ำมันเครื่องน้ำมันเกียร์เขาก็ดูแลให้ ไปล้างรถบางที่เขารุมกันล้างแล้วไม่คิดเงิน เจ้าของสั่งมาแต่ไกล คันนี้มาล้างได้ตลอดชีวิตไม่คิดเงิน(หัวเราะ) ไปนั่งกินข้าวบางที่เขาก็ไม่เก็บเงิน แถมยังให้เงินอีก ไปไหนก็มีคนจำได้ เลยกลายเป็นว่าไม่ต้องสนใจเรื่องเงิน ชีวิตมันก็อยู่ได้ ชีวิตมันต้องทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ต่อผู้อื่นอย่างแท้จริง ที่บอกว่าสวรรค์อยู่กับเราทุกวัน ทำอะไรอย่าหลอกตัวเอง ทำแล้วอย่าให้เป็นทุกข์ เพราะถ้าเป็นทุกข์เมื่อไหร่ก็เป็นบาป”



คำว่าจิตอาสาคือคนที่มีใจอยากจะทำประโยชน์เพื่อสังคม และนี่ก็คือเรื่องราวของคู่รักที่มีหัวใจตรงกับความหมายของคำว่าจิตอาสาอย่างแท้จริง แม้สิ่งที่ได้รับตอบแทนอาจจะไม่ใช่เงินทอง หรือความสะดวกสบายในชีวิต แต่สิ่งที่เขาได้รับ มาจากความเชื่อ ความศรัทธาในความดี และความสุขที่ได้เป็นผู้ส่งต่อน้ำใจ จากอีกคนสู่อีกคน ตามที่เขานิยามตัวเองว่าเป็น “สะพานบุญ” นั่นเอง

สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญช่วยเหลือผู้ป่วย หรือผู้ที่ต้องการใช้บริการรถแท็กซี่ สามารถโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 08-7331-5421 หรือใครก็ตามที่ต้องการอัปเดตเรื่องราวของแท็กซี่ใจบุญผู้นี้ สามารถติดตามได้ทางเฟซบุ๊ก “สุวรรณฉัตร พรหมชาติ”


สัมภาษณ์ : รายการ “ฅนจริง ใจไม่ท้อ”
เรียบเรียง : MGR Live
เรื่อง : กีรติ เอี่ยมโสภณ
ภาพ : เฟซบุ๊ก : สุวรรณฉัตร พรหมชาติ



 
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **





กำลังโหลดความคิดเห็น