xs
xsm
sm
md
lg

“โลกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด” หญิงไทยบิดมอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบโลกเพียงลำพัง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เมืองเดรสเดน ประเทศเยอรมนี เมืองเก่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์
สุดสตรองลุยเดี่ยวลาออกจากงานสานฝันเดินทางไกล! ผู้หญิงไทยคนแรกที่ออกเดินทางโดยการขี่รถมอเตอร์ไซค์ข้ามประเทศตามลำพัง 5 เดือน 16 ประเทศด้วยเงิน 600,000 บาท ไร้ซึ่งความกลัวใดๆ ถือคติทุกอย่างอยู่ที่ “ใจ-อย่าคิดเยอะ” แม้ระหว่างทางจะเคยล้มจมโคลน ตกร่อง ย้ำไม่มีอะไรต้องกลัว “ล้มก็ล้มไป ยก ตั้ง ขี่ใหม่”

เกท ภัทรนุกุลกิจ สัตวแพทย์ ผู้รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ลุย! ลาออกจากงานที่มั่นคงระดับอินเตอร์เงินเดือนสูงสานฝันขี่มอเตอร์ไซค์จากเมืองไทยไปยุโรป อนาคตขี่ให้รอบโลก ไม่หวั่นลุยโคลนฝ่าฝน โคลน หิมะ ยืนยัน "ใจใหญ่กว่าตัว" เกิดมาทั้งทีต้องใช้ชีวิตให้สนุก

เปิดประสบการณ์...เดินทางสู่โลกกว้าง


เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความฝันและตั้งใจจะออกเดินทางเที่ยวรอบโลกโดยการขี่มอเตอร์ไซค์ เริ่มต้นจากเมืองไทยไปจนถึงยุโรป ข้ามเฟอรี่มาที่ตุรกี โดยใช้เวลาทั้งหมด 5 เดือน 


สถาปัตยกรรมอันสวยงามของเมืองวรอตสวัฟ โปแลนด์
เธอเล่าจึงจุดเริ่มต้นในการท่องเที่ยว เพราะชื่นชอบการแบ็คแพ็คไปต่างประเทศเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยก่อนหน้านี้เคยไปมาแล้วประมาณ 60 ประเทศ

"เดิมทีเป็นคนชอบเที่ยวอยู่แล้ว แบ็คแพคไปต่างประเทศ แต่ถึงจุดหนึ่งเราจะรู้ว่ามีข้อจำกัดในเรื่องของยานพาหนะ เช่น จะต้องไปรอรถ รอเรือ อย่างเราไปรอรถไฟก็ต้องแบกของจากรถไฟ ไปที่พัก ซึ่งมีข้อจำกัด

เราเลยรู้สึกว่า ถ้าเรามียานพาหนะส่วนตัวก็น่าจะสนุก จะได้ไม่ต้องมานั่งรอว่าราคาเท่าไหร่ เวลาไหนที่ต้องแบกของไป
แต่ก็เคยตั้งใจว่าจะปั่นจักรยานไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะเราเคยปั่นจักรยานจากกรุงเทพฯ มาเชียงใหม่ ใช้เวลา 6 วัน

แต่พอมาพิจารณาจริงๆ ก็อันตรายอยู่ถ้าเราไม่มีคู่ ถ้าผู้ชายไปคนเดียวยังไปได้ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงคนเดียว จักรยานน่าจะลำบาก เพราะประเทศที่เราจะผ่าน เป็นประเทศทุรกันดาร จึงตัดสินใจใช้มอเตอร์ไซค์ดีกว่า”
ดัลกัฟฟิน ลัตเวีย
นอกจากนี้ เธอยังมองว่า การใช้มอเตอร์ไซค์ ยังเป็นพาหนะที่สะดวกเพราะขนาดเล็ก จะทำให้สามารถเข้าไปในเมืองเล็กๆ หมู่บ้าน ป่าเขาลำเนาไพร และเข้าถึงผู้คนได้มากกว่ายานพาหนะที่ใหญ่ และสำหรับการเดินทางในครั้งนี้เธอตั้งงบประมาณไว้ที่ประมาณ 600,000 บาท

แน่นอนผู้หญิงที่ขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะเราก็เคยเห็นผู้หญิงขี่มอเตอร์ไซค์ตามท้องถนนแต่มักมาเป็นคาราวาน หรือไปกันเป็นกลุ่ม แต่เธอเป็นผู้หญิงหนึ่งเดียวในเมืองไทยที่ขี่มอเตอร์ไซค์ฉายเดี่ยวข้ามประเทศไร้ซึ่งเพื่อนร่วมทาง จนบัดนี้เธอไปมาแล้ว 16 ประเทศ ธรรมดาที่ไหน!

ที่สำคัญรถมอเตอร์ไซค์ของเธอไม่ได้มีราคาแพง ซีซีสูง แต่กลับเป็นรถมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่นธรรมดามือสองซื้อต่อจากคนแถวบ้าน หนำซ้ำยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการขี่มอเตอร์ไซค์แบบมีคลัชมาก่อนอีกด้วย

แต่ความกล้าและใจที่สตรองล้วนๆ ทำให้เธอพร้อมทุกสถานการณ์ แม้จะเพิ่งเริ่มหัดซ้อมแต่ก็กล้าท้าทายตัวเองด้วยการลงสู่สนามจริงซิ่งมอเตอร์ไซค์จากกรุงเทพฯกลับบ้านที่เชียงใหม่ด้วยระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร

ซึ่งหลังจากที่ใช้เวลาเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งความรู้พื้นฐานเรื่องรถ เอกสารต่างๆ ที่จำเป็น รวมทั้งเก็บข้อมูลจากกลุ่มไบเกอร์ต่างชาติที่เคยที่มีประสบการณ์ ในที่สุดวันที่ 25 สิงหาคม 2018 เธอก็เริ่มต้นออกเดินทางไกลด้วยมอเตอร์ไซค์เพียงลำพัง ด้วยใจที่กล้าแกร่ง
ระหว่างทางลิทัวเนีย
“เราใช้รถมอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นรุ่นธรรมดามาก Honda CBR 250 ABS อายุ 5 ปี ซื้อมือสองราคา 38,000 บาทเท่านั้น ถึงจะอายุหลายปีแต่สภาพดี

รถที่สามารถขี่ข้ามประเทศได้อย่างน้อยๆ ก็ ต้องมีเครื่องยนต์ 250-300 ซีซี เพราะถ้าต่ำกว่านี้บางทีก็อาจไม่สามารถขี่ข้ามในบางประเทศได้

โดยสาเหตุที่ไม่เลือกใช้รถซีซี. สูงก็เพราะอย่างแรกเลยคือน้ำหนักตัวของรถและอย่างที่สองก็คือคิดว่าเราไม่สามารถใช้ความเร็วได้เต็มสมรรถนะ เพราะในถนนหลายสายในต่างประเทศก็มีการจำกัดความเร็ว

และเพื่อที่จะเป็นแรงบันดาลใจว่า รถมอเตอร์ไซค์อะไรก็ได้ที่คุณมี มันสามารถออกเดินทางไกลข้ามประเทศได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อคันใหม่ ซึ่งทุกคนสามารถที่จะใช้มอเตอร์ไซค์ที่มีอยู่แล้วที่บ้าน เช็คสภาพให้เรียบร้อยแล้วออกเดินทางได้เลย

โดยเตรียมแค่เอกสารและค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ไม่สูงมาก ซึ่งการเดินทางมันจะอันตรายหรือราบรื่น อยู่ที่การวางแผนการเดินทาง การหมั่นตรวจเช็คสภาพรถ ดูเรื่องอุณหภูมิ เส้นทาง ในแต่ละวัน มีสติและขับขี่อย่างระมัดระวังไม่ได้อยู่ที่ยี่ห้อหรือราคาของรถมอเตอร์ไซค์

เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ซาเกร็บ โครเอเชีย
“ประเทศแรกที่ไปคือ ลาว ซึ่งก็เจอปัญหาคือ ประเทศเขาไม่ให้รถคันเดียวเข้า เมื่อก่อนอาจจะสามารถนำรถข้ามไปได้ง่ายๆ แต่ตั้งแต่ปี 2018 ต้องมีรถมาเป็นคาราวาน 5 คันขึ้นไป และต้องผ่านทัวร์ ไปเองไม่ได้เพราะเขาเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เกรงว่าเราจะตกเขา ตกห้วย แล้วไม่มีคนเห็น เราไม่รู้ไง มัวแต่ไปหาข้อมูลประเทศอื่น ไม่ได้หาข้อมูลที่ลาว คิดว่าง่าย แต่ก็พยายามหาหนทางไปจนได้

แน่นอนว่าการเดินทางระยะทางไกลตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องง่าย เธอต้องเจอความท้าทายครั้งใหญ่หลายครั้งด้วยเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปัญหาเอกสารที่จีน และข้อกำหนดของการใช้รถในประเทศ ที่จะต้องมีไกด์ท้องถิ่นร่วมเดินทางด้วย จึงจะสามารถขับข้ามประเทศได้ เนื่องจากจีนห่วงเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางคนเดียวของเรา จึงทำให้เธอตัดสินใจชิปรถข้ามที่ประเทศจีนไปมองโกเลีย จากนั้นก็อยู่มองโกเลีย 1 อาทิตย์ และไปรัสเซียอีก 1 เดือน จากนั้นก็ไปยุโรป 2 เดือน

สำหรับเส้นทางที่ประทับใจเธอยกให้ประเทศแถบยุโรป เพราะขับง่าย สะดวกสบาย ผู้คนพูดภาษาอังกฤษได้ สื่อสารได้ ขอความช่วยเหลือได้ และมีความหลากหลายของเส้นทาง ทั้งเส้นทางประวัติศาสตร์ หรือภูเขา เช่น ออสเตรีย เทือกเขาแอลป์ ที่สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี

เธอเล่าว่า ประเทศแถบยุโรปมีความหลากหลายของภูมิประเทศ เส้นทางสวย ขี่ไม่ยาก ไม่ต้องเครียดมาก ขับสองชั่วโมงก็พ้นประเทศแล้ว ปั๊มน้ำมันมีถี่ ใช้บัตรเครดิตก็ไม่ต้องกลัวเรื่องของการโจรกรรมข้อมูล

ส่วนเส้นทางที่ทำให้เธอต้องเครียด จะเป็นมองโกเลีย เพราะลักษณะของถนนไม่ดี เป็นหลุมเป็นบ่อ แถมปั๊มน้ำมันยังอยู่ไกลกัน

"เส้นทางที่รัสเซียสวยนะ แต่เครียดเพราะพื้นที่กว้าง จากเมืองหนึ่งไปเมืองหนึ่งต้องใช้ระยะทางเป็นพันกิโลฯ และคนรัสเซียที่อยู่นอกเมืองสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จึงต้องวางแผนในการเดินทาง ว่าต้องไช้ถังน้ำมันสำรองหรือไม่ เผื่อหาปั๊มน้ำมันไม่เจอ

แต่ข้อดีของรัสเซียคือ น้ำมันถูกมาก ลิตรละ 19 บาทเอง และซิมการ์ดก็ราคาถูก อย่างค่าโทร.และอินเตอร์เน็ตแบบไม่จำกัด รายเดือนราคาแค่ 200 กว่าบาทเอง แถมเน็ตยังเร็วและแรงแบบไฮสปีดด้วย”

แม้ต้องเจอปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน และระบบเบรก ABS ขัดข้อง ไม่สามารถทำงานได้ กลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์ธรรมดา แต่ก็ไม่ทำให้เธอล่าถอย เธอมองว่า แค่ต้องระวังในการขับขี่ให้มากขึ้น โดยใช้ความเร็วในการขี่มอเตอร์ไซค์ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระหว่างทางออสเตรีย
สำหรับสิ่งของที่จำเป็นต่อการไปทริปไกลๆข้ามประเทศนั้น เธอย้ำว่าสิ่งที่ต้องมีคือ 4 เรื่อง

1.ชุดสำหรับความปลอดภัย หมวกกันน็อก ถุงมือ รองเท้า หากรถล้มข้อมือข้อเท้าจะได้ไม่หัก

2.นาวิเกเตอร์ เพื่อดูเส้นทาง และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เผื่อเครื่องใดเครื่องหนึ่งแบตฯหมด

3.ยารักษาโรค เพราะอากาศเปลี่ยน เราต้องเตรียมรับมือไว้ และโดยปกติฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทั้งสายพันธุ์ไทย เอเชีย และยุโรปทุกปีอยู่แล้วเนื่องจากเราเป็นคนเดินทางต่างประเทศบ่อย

และ 4.เครื่องใช้ส่วนตัว เสื้อบุฮีทเทค เสื้อนอกมีประมาณ 4-5 ตัว ที่สามารถอยู่ภายใต้อากาศหนาวได้ กางเกงยีนส์ กางเกงฮีทเทค กางเกงผ้าร่มบุฉนวนกันความหนาว และรองเท้า 2 คู่

และควรทำประกันชีวิตในการเดินทางเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองให้ครอบคลุมช่วงเวลาที่เราจะออกทริปด้วย คือ ประกันอุบัติเหตุ ประกันความเจ็บป่วย และประกันตัวรถ เผื่อรถเสียหาย หรือสูญหาย

ขับอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงอันตราย

หลายคนคงคิดว่าผู้หญิงกับมอเตอร์ไซค์ดูจะไม่เหมาะกัน อันตรายจากเนื้อหุ้มเหล็ก แถมเสี่ยงอันตรายต่างๆนานา แต่เธอมองว่า การเดินทางคนเดียวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากมีการวางแผนที่ดี และไม่เข้าไปในจุดเสี่ยง!

“ในต่างประเทศก็จะเห็นผู้หญิงขี่มอเตอร์ไซค์กันหลายคน ซึ่งก็ดูปลอดภัยดี ถ้าเราไม่ได้ไปในจุดที่อันตราย ไม่เสี่ยง เราก็จะปลอดภัยทุกประเทศแหละ

ผู้หญิงเดินทางคนเดียวในต่างประเทศไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครหลายคนคิด ฝรั่งเขาก็เหมือนเรา เป็นคนเหมือนเรา บางทีวุฒิภาวะเขาน้อยกว่าเราอีกนะ เขาก็ไม่ได้กลัวอะไร

ถ้าเราไม่ได้ไปในจุดที่มีความอันตราย เปลี่ยว เราก็จะปลอดภัย เราก็ระมัดระวังตัว ไม่ต้องไปพกอะไรมากให้ล่อหูล่อตา ทุกอย่างอยู่ที่การระวังตัวของเรา

เราเดินทางมาไม่เคยเจอปัญหาอะไรเลย เจอมิตรภาพดีๆ มีคนใจดี ชวนไปพักที่บ้าน ชวนกินข้าว คือเขาก็ทึ่งนะ เห็นเรามาคนเดียว ก็อยากจะช่วยเรานะ

อย่างเวลาไปพักเราก็จะพักตามโฮสเทล ก็ได้เจอเพื่อนร่วมห้อง ไม่เหงาเลย ได้เจอคนเจ๋งๆจากทั่วทุกมุมโลกเลย

ส่วนอาหารจะกินอาหารท้องถิ่นในแต่ละเส้นทางที่เราไป และเราจะชอบกินนมกับโยเกิร์ต เนื่องจากราคาถูก ในต่ละวันจะกินเป็นลิตรเลยบางทีก็กินแทนน้ำไปเลย โยเกิร์ตก็กินวันละครึ่งกิโลฯ”

นอกจากนี้ เธอยังเล่าถึงความแตกต่างบนท้องถนนระหว่างเมืองไทยและต่างประเทศ

“ในต่างประเทศไม่ได้มีรถมอเตอร์ไซค์ที่ขี่ไปทำงานเหมือนเมืองไทยเพราะต่างประเทศปกติเขาจะใช้รถยนต์ รถสาธารณะกัน มอเตอร์ไซค์ที่ใช้ขี่ ก็จะเป็นพวกบิ๊กไบค์ เพื่อท่องเที่ยวไปเลย เขาไม่ได้มีรถมอเตอร์ไซค์เล็กขนาดร้อยซีซีแบบบ้านเรา ถ้าจะมีก็เป็นพวกเดลิเวอร์ลี

ดังนั้นความวุ่นวายในท้องถนนของต่างประเทศจะเป็นในเรื่องของรถติดมากกว่า เช่น มอสโก อิสตันบูล ส่วนอุบัติเหตุบนท้องถนนของต่างประเทศจึงน้อยกว่าบ้านเรานะ อย่างคนยุโรปเขาจะขับรถมีวินัย”

“ทุกคนทำได้” ขอเป็นแรงบันดาลใจ
แชะภาพกับเมืองในตุรกี
“เราอยากจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครสักคน เลยคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้มีเงินเยอะ ไม่อยากให้คิดว่า การขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมของคนรวย มีเงินก็ไปได้ จึงอยากให้ไปได้ทุกคน มอเตอร์ไซค์ของคุณ ไม่ว่าจะกี่ปี อายุเท่าไหร่ ซีซีเท่าไหร่ คุณแค่เช็คสภาพ บำรุงรักษาให้ดีๆ คุณก็สามารถขี่ไปได้ทั่วโลกเลยนะ

ไม่เกี่ยวว่าจะต้องไปซื้อมอเตอร์ไซค์ราคาแพงๆ เป็นแสน เป็นล้าน ไม่จำเป็นเลย อย่างรถเราก็ยังเป็นมือสอง 5 ปี ก็ยังไปได้ คือไม่ว่าจะอะไรก็ตามมันอยู่ที่ “ใจ” บางคนบอกว่า เราไปไม่ได้เพราะเราไม่มีรถที่ดีพอ อะไรคือรถที่ดีพอ เราไปไม่ได้เพราะเราไม่มีรถใหม่ แล้วรถเก่าที่เรามีล่ะ ไปไม่ได้เหรอ

“คือถ้าเราทำได้ คนอื่นก็ต้องทำได้ เพียงแค่มีความกล้าในการจะออกเดินทางเท่านั้นเอง”

เธอหวังว่าทริปของเราจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลาย ๆ คนในการเริ่มต้นทำอะไรซักอย่างที่อยากทำ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว ให้มีความกล้าที่จะลงมือทำ เพราะความพร้อมมันไม่มีอยู่จริง
ออกเดินทางไปเมืองตูลูน ประเทศรัสเซีย
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเดินทางนั้น เธอเล่าว่า อยากจะเปิดช่องทางการท่องเที่ยวแบบใหม่ การเที่ยวโดยการขี่มอเตอร์ไซค์ จะลดข้อจำกัดในเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะปกติการขี่มอเตอร์ไซค์จะสะดวก คล่องตัว และประหยัดกว่าการเดินทางโดยเครื่องบิน หรือโดยรถไฟจากเมืองหนึ่งสู่เมืองหนึ่ง

และหวังว่าเป็นแรงบันดาลใจ รวมถึงแชร์ประสบการณ์ และนำร่องเกี่ยวกับการเดินทางโดยมอเตอร์ไซค์ รวมถึงการจัดการทางด้านเอกสารต่าง ๆ ในการเข้าออกด่านชายแดนในแต่ละประเทศ เพื่อในอนาคตจะมีคนไทยขี่รถออกไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น

โดยหลังจากที่รู้เรื่องขั้นตอนและเอกสารต่างๆ รวมถึงค่าธรรมเนียมในการผ่านข้ามแดนของแต่ละประเทศ ต่อไปคนไทยจะสามารถออกเดินทางตามลำพังหรือเดินทางเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาทัวร์หรือเอเจนซี่ ที่มีค่าใช้จ่ายสูงและมีความคล่องตัวต่ำ

และหวังจะเผยแพร่วัฒนธรรมและความเป็นไทยไปสู่กลุ่มผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้รับรู้อีกด้วย ย้ำรถมอเตอร์ไซค์ไม่จำเป็นต้องแพงก็เที่ยวรอบโลกได้

“แค่คุณกล้าออกไปมันก็เท่มากแล้ว รถราคาไม่สูงก็วิ่งได้เพียงแค่รู้จักการดูแลบำรุงรักษา”

รักความท้าทาย วิ่งมาราธอน ปีนเขา

นอกจากจะชอบเดินทางแล้ว เธอยังเป็นนักวิ่งมาราธอน โดยวิ่งมากว่าสิบรายการแล้ว

และ 1 ใน Bucket list โปรเจ็กซ์ในฝัน ตั้งเป้าว่าต้องทำให้ได้ก่อนตายของเธอนอกจากการขี่มอเตอร์ไซค์รอบโลก และการเป็นบุคคลผู้เป็นแรงบันดาลใจแล้ว เธอยังตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะขึ้นไปโบกธงชาติไทยบนยอดเขาเอเวอเรสต์ โดยเธอเล่าว่า ต้องมีเวลาสำหรับเตรียมตัวหนึ่งปีเต็ม กับเตรียมเงินอีกสามล้าน

“ปกติก็จะวิ่งมาราธอน และปีนเขาอยู่แล้ว อยากเป็นคนไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศในต่างแดน
ปีนเขาที่มาเลเซีย

สาเหตุที่ชื่นชอบการออกกำลังกายเพราะจะทำให้เราแข็งแรง ไม่ป่วย อย่างตอนพักอยู่โรงแรมก็จะทำโยคะ เหยียดยืดเส้นบ่า เส้นหลัง เพื่อลดอาการปวด เพราะเราอยู่บนมอเตอร์ไซค์นานในแต่ละวัน โยคะก็ช่วยเราได้ เพราะใช้พื้นที่น้อย ทำบนเตียงในห้องพักก็ได้

สุดท้ายหลังจากจบทริปที่ตุรกี อนาคตตั้งเป้าจะขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามประเทศอีกครั้ง โดยเล็งเส้นทางออสเตรเลีย หรือไม่ก็เซาท์แอฟริกา เพราะ “ใจ” ของเธอพร้อมลุยตลอดเวลา

อยากทำลุยเลย อย่ารอ

แม้เธอเป็นสัตวแพทย์ที่ทำงานในเชิงของธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์ โดยทำงานในบริษัทยาของฝรั่งเศส ประจำอยู่อินเดีย โดยเธอเป็นผู้ดูแลธุรกิจในเซาท์อีสต์เอเชียประมาณ 8 ประเทศ
ข้ามแดนประเทศลัตเวียสู่โซนยุโรป
แต่เธอกลับใช้เวลาคิดไม่นานในการ “ลาออก” จากงานแม้จะเงินเดือนสูง เพราะคิดว่า ไม่ควรมีข้อแม้ให้กับตัวเองในการเริ่มต้นทำอะไร

“คนเรามักจะติดห่วงนั่นห่วงนี่ตลอดเวลา ถ้าอายุมากกว่านี้อาจจะไปยาก จึงตัดสินใจเบรกการทำงานสักพักไปเที่ยวก่อน แล้วค่อยกลับมาว่ากัน อาจจะไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดในช่วงฤดูกาล เพราะเราเจอหิมะตลอด

มีคนถามหลายคนเลยว่า ทำไมถึงออกเดินทางตามลำพังในหน้าหนาวแบบนี้ ถ้าตามกันมาตั้งแต่ต้น จะรู้ว่าเราไม่ได้มีแพลนที่จะเดินทางตอนที่มันหนาวอย่างนี้นะ เพราะมันมีความขลุกขลักเกี่ยวกับทริป เลยทำให้มันล่าช้าไปหลายอาทิตย์ เพราะความล่าช้าจึงมาเจอหน้าหนาวอย่างเลี่ยงไม่ได้

โลกมันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอก อย่าไปคิดอะไรให้เยอะ เกิดมาต้องใช้ชีวิตให้สนุก"


โดย MGR Live

เรื่อง : สวิชญา ชมพูพัชร

ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก On My Bike


 
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **



กำลังโหลดความคิดเห็น