อย่างเจ๋ง! นอกจากแข่งความเร็ว "ฟอร์มูล้าม้ง” ยังสานภูมิปัญญาท้องถิ่นชาวบ้าน ทั้งใส่ชุดม้งหลากหลายสีร่วมแข่งขัน พร้อมด้วยการแสดงของสาวชาวม้ง เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้าน ให้คงอยู่ โดยการ ท้าความเร็วเพื่อเอาเงินไปช่วยหมู่บ้านกับงาน “เจอร์ไฮฟอร์มูล่าม้ง 2018”
เปิดแข่งขัน “ฟอร์มูล่าม้ง” สืบสานวัฒนธรรม
“เสน่ห์ความยากจะอยู่ที่สนาม การบังคับ ถ้าขาเราไม่แข็งแรงพอก็มีโอกาสที่จะหลุดโค้ง หรือคว้ำได้ ผมเล่นมานาน หลายปีแล้วครับ ประมาณ 5-6 ปี มาแล้ว ชอบการแข่งขัน มันสนุก และมันก็ตื่นเต้นดี อยากใหัมีการจัดแข่งขันแบบนี้ทุกๆ ปีเลยครับ”
บ๊วย - มนตรี เตชะเลิศพนา วัย 27 ปี หนึ่งในผู้สมัครเข้าแข่งขัน ที่ทีมข่าวไปเห็นในขณะที่กำลังซ้อมรถเลื่อนไม้ ในงาน “เจอร์ไฮฟอร์มูล่าม้ง2018” อยู่ เขาได้เปิดใจให้ฟังก่อนที่จะไปเตรียมตัวแข่งให้ฟังว่า นี่เป็นการลงแข่งเป็นครั้งที่ 2 ของเขา ยังมีอาการตื่นเต้นเหมือนเช่นเคย รู้สึกดีใจที่มีคนเล็งเห็นความสำคัญของรถเลื่อนไม้ที่เป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่น
[บ๊วย มนตรี อดีตแชมป์เก่า]
สำหรับบรรยากาศการแข่งขันครั้งนี้ เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และสนุกสนาน ท่ามกลางเสียงเชียร์จากชาวม้งทั้ง 13 หมู่บ้าน สร้างรอยยิ้ม และความสนุกแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยนักแข่งทุกคนต่างลงมือตกแต่งรถล้อเลื่อนไม้ของตัวเองมาอย่างดี เพื่อนำมาแข่งขัน
ทั้งนี้การแข่งขัน “รถล้อเลื่อนไม้” หรือที่เรียกติดปากว่า "ฟอร์มูล่าม้ง” จัดเป็นครั้งที่ 2 ณ สนามแข่งขันม่อนแจ่ม ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 15-16 ธันวาคม 2561 จาก 13 ชุมชนมีผู้ลงการแข่งจำนวน 22 คน โดยตั้งเงินรางวัลมูลค่ารวมสูงถึง 270,000 บาท
นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนให้เกิดการสร้างรายได้ภายในชุนชน ด้วยการนำผลิตภัณฑ์จากเครือซีพีเอฟ มูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท มาจำหน่ายในงานเพื่อนำรายได้ไปพัฒนาชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย
“เราตัดสินใจเลือกฟอร์มูล่าม้ง เราพิจารณาหลายอย่าง ต้องถามตัวเองว่าเรามีวัตถุประสงค์อะไรในการจัด แต่เมื่อทุกคำถาม ตอบในตัวเราแล้วเราก็ไปศึกษาดู ก็เห็นว่าการที่มองเรื่องของวัฒนธรรม มันจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน แต่วัฒนธรรมของชนเผ่าทั้งหลายมันมีหลายแบบ แต่เราก็ต้องเลือกว่าทำไมเราต้องใช้เรื่องของการแข่งขันรถม้ง มาเป็นตัวที่สร้างให้คนเขารู้ว่าเป็นตัวตั้งต้นของตัววัฒนธรรม”
สุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหารธรกิจอาหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่จัดงานแข่งขันนี้ขึ้นมา เพราะได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการรักในถิ่นฐาน ปกป้องรักษาทรัพยากรท้องถิ่นของตนเองให้แก่รุ่นหลัง ตลอดจนการอนุรักษ์ไว้ซึ่งกีฬาการละเล่นที่เป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของท้องถิ่นเขาเผ่าม้ง
“วันหนึ่งผมได้อ่านเจอ ผมก็เลยคิดเลยว่า เราต้องเอาตัวนี้ช่วยเขาเผยแพร่ เพราะเห็นว่าอะไรทางภาคเหนือมีทิวทัศน์สวยงาม ธรรมชาติที่สวยงาม และสิ่งที่เขาถ่ายทอดจนมาถึงลูกหลาน เขาก็รักษาธรรมชาติสิ่งนี้ไว้
สิ่งเหล่านี้ทำมาตั้งแต่เริ่มต้น ครั้งแรกอาจจะรู้สึกมันจะมีความคิดว่ามันจะได้ผล หรือไม่ได้ผล แต่สุดท้ายทำแล้วความรู้สึกเราวัดผล และจากที่เขาพูดกันมาก็เห็นผล เราก็มีจิตใจอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าเราจะทำแล้วยังไม่บรรลุสิ่งที่เราตั้งเป้าหมายก็ทำต่อสิ พอครั้งที่ 2 ก็เลยทำ อย่างที่ผลเรียนมีชาวเขาเผ่าม้งทั้ง 13 หมู่บ้าน อยากจะเข้ามาร่วมแข่งขัน มันเป็นการที่ดีนะ แต่เราต้องพร้อม ซึ่งปีที่ 2 เป็นปีที่เราหาความพร้อม ซึ่งเราต้องมาคุยกัน เพื่อต่อความพร้อมต่อไป
แล้วผมมั่นใจว่า วันนี้ถ้าเราทำครั้งเดียว แล้วเราหายไป เขาก็มองว่าคุณไม่แน่จริง คุณไม่ตั้งใจจริง ผมเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นครั้งที่ 2 และเราต้องมองหาครั้งที่ 3 มนุษย์เราทำอะไรต้องมีขั้นตอน แล้วสุดท้ายคือความสำเร็จในสิ่งที่ทำ”
สู้สุดใจ เพื่อเงินพัฒนาชุมชน!!
ลองมองจากมุมมองของผู้บริหารเจอร์ไฮไปแล้ว เขาเห็นถึงความสำคัญของเรื่องทรัพยากรในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก และเป็นเรื่องที่ต้องมีการจัดการให้ยั่งยืน ด้านจีรศักดิ์ เตชะเลิศพนา ผู้จัดการดูแลการแข่งขัน และเป็นผู้ดูแลจุดให้บริการรถล้อเลื่อน ม่อนแจ่ม
สำหรับเส้นทางการแข่งขันครั้งนี้ ผู้จัดการดูแลการแข่งขันเปิดเผยว่า เป็นทางลงเขา และมีความโค้งที่ลาดชัน มีระยะทางประมาณ 300 เมตร ได้รับความสนใจจากชุนชมชาวเขาเผ่าม้ง 13 หมู่บ้าน ประมาณ 22 คน จับฉลากแบ่งกลุ่มเป็น 4 กลุ่ม แข่งแบบประกบคู่แพ้คัดออก กระทั่งได้ผู้ชนะในแต่ละกลุ่มจึงมาประกบคู่แข่ง จนเหลือคู่ชิงชนะเลิศ และจากการลงพื้นที่ลงสำรวจ ตลอดเส้นทางมีชาวม้ง และประชาชนนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ มาเชียร์ และดูการแข่งขันเป็นจำนวนมาก
ขณะในปีนี้ได้ปรับพื้นที่สนามการแข่งขัน ตั้งแต่ด้านบนลงมาสู่ด้านล่าง และเตรียมอุปกรณ์ป้องกันรอบสนามเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้เข้าแข่งขัน และผู้ที่มาร่วมงาน โดยในปีนี้มีคนในท้องถิ่นให้ความสนใจเข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นจากปีก่อน และผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขันมีการเตรียมความพร้อมทั้งตัวเขาเอง และตัวรถที่ใช้การแข่งขันด้วย
ทั้งนี้หากได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขัน จะมีการเงินรางวัลไปพัฒนาเป็นอาคารเอนกประสงค์ที่ทางหมู่บ้านตั้งใจเอาไว้ว่าจะนำไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อหมู่บ้าน
“ปีที่แล้วที่ได้รับกองทุนบริษัทได้มอบเป็นรางวัลให้กับทางหมู่บ้าน เราก็ได้นำเงินตรงนี้ไปทำศาลอเนคประสงค์ ซึ่งไปให้หมู่บ้านได้ใช้ร่วมกัน เป็นศาลาป่าช้า ที่เรามีป่าช้า แต่เราไม่มีศาลา ไม่มีอาคารให้ ก็ได้นำงบตรงนี้ไปสร้างหลังคา สร้างอาหารให้ชาวบ้านได้ใช้ร่วมกัน
ถ้านักกีฬาของเราได้มีโอกาสได้งบตรงนี้ไปนะครับ ก็คงได้นำกลับไปต่อยอด เพราะว่าหมู่บ้านของเราต้องการจะพัฒนาอีกเยอะเลย ซึ่งตอนนี้ก็กำลังจัดการงบประมาณกันอยู่ ถ้านักกีฬาของเราได้มีโอกาส เราก็จะมีตัวต่อยอดหลายๆ อย่างเลย
อาคารผู้สูงอายุ เราก็ยังไม่มีนะครับ อย่างหมู่บ้านของเราผู้สูงอายุก็มีเยอะ แล้วก็เป็นอาคารที่เราจะเก็บพวกอุปกรณ์ชาวบ้าน อย่างเช่นแม่บ้านยังไม่มีที่จัดเก็บอุปกรณ์ของเขาเลย ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่เราคาดหวังว่าถ้าได้งบตัวนี้ไปเราก็จะนำไปต่อเติมตรงนี้ และไปพัฒนาชุมชนของเราให้ดี”
