xs
xsm
sm
md
lg

ถูกปลด-สังคมประณาม “อบต.” อาชญากรข่มขืนซ้ำ “เด็ก12”!?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รุมโทรมเด็กหญิง 12 ปี พบคนผิดมีเพิ่ม! ส่วนเด็กสาวอีกคนถูกมองเป็นนกต่อก็ไม่รอดถูกรุมโทรมเช่นกัน ฝั่งประธานสภา อบต.ผึ้งรวง ยันไม่ได้เสนอเงินเพื่อจบเรื่อง ล่าสุดถูกกดดันจนต้องลาออก มูลนิธิผู้หญิงชี้ อบต. ละเมิดสิทธิเด็กไม่ต่างจากการ “ข่มขืน” ด้านทนายรัชพลงัดข้อกฎหมาย ถึงไม่ได้สอดใส่ แค่นิ้วแหย่ยังไงก็มีความผิด

ยื่นใบลาออก! เพราะทนแรงกดดันไม่ไหว

กลายเป็นอีก 1 คดีสะเทือนใจที่ผู้คนในสังคมกำลังให้ความสนใจอย่างมาก กับกรณีเด็กหญิงอายุ 12 ปี ถูก 5 โจ๋เยาวชนอายุตั้งแต่ 13-17 ปี ฉุดไปรุมโทรม โดยการผลัดเปลี่ยนกันกระทำชำเรา ภายในร้านขายสินค้า 20บาทแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ก่อนจะปล่อยตัวกลับบ้านไป และเมื่อผู้เสียหายมีการตรวจภายในที่โรงพยาบาลพบว่ามีอาการติดเชื้อ และคล้ายจะเป็นโรคหนองในอีกด้วย

ขณะที่พ่อของเด็กหญิง ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ก๊อดส์ เดนด์เด้ฮ์ ร้านสัก สระบุรี” อยากจะเตือนชาวสระบุรีว่าบ้านเราอยู่ยากแล้ว พร้อมเปิดคลิปที่กำลังมีการเคลียร์กับพ่อแม่ของเด็กอีกฝ่ายอยู่ โดยหนึ่งในนั้น มีชายคนหนึ่ง เป็นญาติของเด็กทั้ง 5 อ้างว่าเป็น อบต. ทำตัวเป็นศาลเตี้ยจะยัดเงินให้เรื่องจบ ตอนแรกบอกว่าจะให้ 30,000 คุยไปคุยมาต่อรองเหลือ 10,000 ตนจึงบอกเพื่อนให้แจ้งความและจะไม่มีการรับเงินแต่อย่างใด เพราะจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

โดยคลิปวิดีโอขณะกำลังถามไถ่ถึงเหตุการณ์ว่าเป็นมาอย่างไรนั้น ชายคนดังกล่าวที่ใช้คำพูดไม่เหมาะสมก็คือ สังวาลย์ สิทธิปัญญา ประธานสภา อบต.ผึ้งรวง อ.เมืองฯ จ.สระบุรี โดยการถามเยาวชนเหล่านั้นว่า “มีใครเสร็จบ้าง” ขณะรุมโทรม พร้อมกับเรียกเด็กหญิงผู้เสียหายมานั่งคุยตรงหน้าว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่



เพื่อความชัดเจนเกี่ยวกับการเข้ามาไกล่เกลี่ยของ ประธานสภา อบต. กับคำพูดที่ไม่สมควรถาม ทีมข่าว MGR Live จึงต่อสายตรงไปยัง อุษา เลิศศรีสันทัด ผู้อำนวยการมูลนิธิผู้หญิง ซึ่งได้ให้คำตอบเรื่องดังกล่าวว่าผิดขั้นตอนอย่างมาก เพราะเด็กเป็นผู้เสียหาย ซึ่งเด็กจะต้องไม่มาเข้าสู่กระบวนการซักถามแล้วไกล่เกลี่ยในลักษณะแบบนี้

“หากจะเป็นคนที่สอบปากคำเด็กจริงๆ แล้วนะคะ จะต้องมีนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยาอยู่ด้วย อบต.เนี่ยทำผิดเลย เพราะเขาไม่ได้ถูกฝึกให้มีการอบรมเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ไปละเมิดสิทธิเด็ก ไม่ได้มีความละเอียดอ่อน สมมติอบต. จะสอบถามข้อมูลเบื้องต้นก็จะต้องใช้ความระมัดระวังและไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง

ถ้าจะซักถามจริงๆ ต้องคุยกับพ่อแม่ ส่วนตัวเด็กต้องถามด้วยความระมัดระวังที่สุด ส่วนแม่ถ้าได้คุยกับเด็กมาส่วนหนึ่งแล้ว ไม่ใช่หน้าที่อบต. ที่จะเป็นคนถามข้อเท็จจริง เพราะจริงๆ แล้วการที่เด็กถูกละเมิดจะต้องมีกระบวนการที่ตามขั้นตอน โดยเฉพาะที่เป็นเด็กผู้หญิง และถึงคนที่เป็นผู้หญิงก็ตามไม่ใช่อบต. ก็ไม่ใช่หน้าที่ที่จะต้องมานั่งซักไซ้ต่อหน้าคนเยอะแยะขนาดนี้ แต่ควรจะเข้าสู่กระบวนการให้ถูกต้อง”



หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวออกไป ทำให้ประชาชนต่างไม่พอใจกับคำพูดของ สังวาลย์ ประธานสภา อบต. อย่างมากที่เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อขอให้เรื่องจบ กระทั่ง สิริชัย ประทุมมา ปลัด อบต.ผึ้งรวง ได้มีการพูดคุยกับทาง นายก อบต. และสมาชิก อบต.ผึ้งรวง มีความเห็นในที่ประชุมว่า ประธานสภาคนนี้ ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งอีกต่อไป ซึ่งจะมีการเชิญมาพูดคุยและขอให้ยื่นหนังสือลาออกภายในวันนี้ และหากไม่ยินยอม ก็จะมีทำหนังสือถึงนายอำเภอ เพื่อพิจารณาวาระเร่งด่วน ให้มีการลงคะแนนเสียง ถอดถอนออกจากตำแหน่งอีกด้วย

ล่าสุด ประธานสภา อบต.ผึ้งรวง ที่พยายามเข้าไปไกล่เกลี่ยเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้น ได้มีการยื่นหนังสือลาออกจากราชการ โดยมีผลบังคับใช้ในทันที และก่อนหน้านี้ประธานสภารายเดิมยังบอกว่า ตนเองไม่ได้ไปเคลียร์คดีในฐานะ อบต. แต่ไปสังเกตการณ์ในฐานะญาติของผู้ถูกกล่าวหาโดยพ่อของ 1 ในเยาวชนที่ก่อเหตุได้ชวนไป และยืนยันว่าตนไม่ได้พูดเรื่องเงินแต่อย่างใด

ทางด้านของกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. ก็ได้มีการสั่งการ พ.ต.ท.นริศ ผูกจิต สว.กก.2 บก.ป. พร้อมชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว และจะต้องเสร็จสิ้นโดยเร็วเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ครอบครัวของผู้เสียหายด้วย

ใช้นิ้วแหย่! ก็ถือว่ามีความผิด

ประเด็นที่เกิดขึ้นพ่อของเด็กหญิงผู้เสียหาย ก็ได้มีการอับเดตคลิปวิดีโอขณะพูดคุยกับเด็กผู้หญิงอีกรายที่ไปกับลูกสาว จึงทำให้หลายคนเกิดความสงสัยและคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นนกต่อพาลูกของตนไปโดนขมขืนหรือเปล่า แต่เรื่องกลับพลิกไปอีกอย่าง เพราะเด็กผู้หญิงที่หลายคนกำลังสงสัย ก็ถูกข่มขืนเช่นเดียวกัน

สรุปแล้วเหตุการณ์ที่เป็นประเด็นว่ามี 5 โจ๋ทรชนรุมโทรมเด็ก 12ปีนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ 5 คนอย่างที่เข้าใจกัน ทว่ายังมีเด็กผู้ชายที่รู้เห็น และรุมโทรมรวม 9คน แต่มี 7คน ที่รุมโทรม ส่วนเจ้าของร้านก็นั่งเล่นเกมสอยู่ระหว่างที่ 7คนนั้น กำลังกระทำชำเราเด็กผู้หญิงอยู่



ขณะที่สังคมโซเชียลฯ ก็ได้แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ ว่าการจงใจก่อเหตุควรจะต้องได้รับโทษเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ด้วย และควรมีการเช็กประวัติของเยาวชนกลุ่มนี้ด้วยว่าเคยมีคดีมาก่อนบ้างไหม

“สถานที่เกิดเหตุน่าสงสัย ว่าเคยมีการกระทำในลักษณะนี้มาหลายครั้ง และกลุ่มวัยรุ่นนี้น่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง”



“ตำรวจในพื้นที่กับตัว อบต. ช่วยกันปกป้อง เด็กกลุ่มนี้ขนาดนี้ไม่น่าจะเป็นคดีแรกละครับ น่าจะเช็กประวัติคนกลุ่มนี้ย้อนหลังด้วยนะครับ ว่าเด็กพวกนี้เคยมีประวัติก่อคดีอื่น แล้วเรื่องเงียบหรือเปล่า คนกลุ่มเดียวกันเข้ามาช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ก่อเรื่องหรือเปล่า ถ้ามีสมควรดำเนินคดีย้อนหลัง และแก้กฎหมายสิทธิของอาชญกรเด็กได้แล้ว”



จากเหตุการณ์ข้างต้น ทนายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เจ้าของเพจสายตรงกฎหมาย ได้ชี้แจ้งผ่านเฟซบุ๊กถึงประเด็นนี้ว่า สำหรับคนที่กระทำชำเราเหยื่อแค่เอานิ้วแหย่เข้าไปก็ถือว่ามีความผิด

“เรื่องการข่มขืน เดี๋ยวนี้เป็นความผิดง่ายมาก แค่ใช้อวัยวะเพศของผู้ข่มขืนกระทำกับอวัยวะเพศของผู้ถูกข่มขืนก็เป็นความผิดแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำจนเสร็จ”

นอกจากนั้นยังเคยมีคำพิพากษาศาลฎีกา 1133/2509 พิพากษาว่า ชายใช้อวัยวเพศแหย่ไปแค่ 1 ข้อนิ้วก็เป็นความผิดฐานข่มขืนแล้ว ดังนั้น การเอาไม่เสร็จ คงเอามาอ้างให้พ้นผิดหรือให้รับโทษเบาลงไม่ได้



ส่วนความผิดของเยาวชนที่รุมข่มขืน ทนายรัชพล ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมข่าว MGR Liveว่าเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 277 ประมวลกฎหมายอาญาวรรค4 คือเป็นการกระทำชำเราเด็กไม่เกิน 13 ปี ในลักษณะโทรมหญิง โทษสูงสุด จำคุกตลอดชีวิต

“เสร็จหรือไม่เสร็จ ไม่ใช่ประเด็นข้ออ้างให้ไม่เป็นความผิดหรือลดโทษ ส่วนพ่อผู้เสียหาย ที่ไปทำร้ายพ่อฝ่ายชาย มีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย . คดีนี้เป็นคดีเด็ก ผู้กระทำความผิดไม่ต้องเข้าคุกผู้ใหญ่ แต่อาจเข้าคุกเด็ก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าโรงเรียนดัดสันดาน หรือบ้านเมตตา ซึ่งต้องรับโทษหนักแค่ไหนก็อยู่ที่ศาลกำหนดครับ”

ข่าวโดย MGR Live


กำลังโหลดความคิดเห็น