ภายใต้ความคิดที่ว่าอนุรักษ์ - จัดการน้ำให้มีใช้ จะมีสักกี่แบรนด์น้ำดื่มไทยที่จะเล็งเห็นความสำคัญของการดูแลทรัพยากรน้ำ จนได้รับรองมาตรฐาน AWS มาตรฐานระดับโลก “เนสท์เล่ เพียวไลฟ์” คือผู้ผลิตหนึ่งในนั้นที่หันมาสนใจเรื่องการดูแลทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน
เชิดชูความสำเร็จได้รับรองมาตรฐานระดับโลก!!
ใครจะรู้บ้างว่า ผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม "เนสท์เล่ เพียวไลฟ์” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก AWS เพราะมีการจัดการเรื่องระบบน้ำอย่างยั่งยืน และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตามเจตนารมณ์ของทางองค์กร เลยได้รับรองมาตรฐานจาก AWS (Alliance for Water Stewardship) มาตรฐานเดียวในโลกที่ดูแลเรื่องการจัดการดูแลทรัพยากรน้ำ
โดย AWS คือองค์กรที่มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา การจัดการและดูแลทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนในพื้นที่ ด้วยการนำมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับมาตรฐานสากลมาใช้ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ช่วยขับเคลื่อน รับรอง และเชิดชู การจัดการและดูแลทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนในองค์กรต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ
สำหรับมาตรฐาน AWS นั้น เป็นระบบการจัดการและดูแลทรัพยากรน้ำที่ใช้กันทั่วโลก ซึ่งเป็นมาตรฐานที่จะช่วยให้ผู้ใช้น้ำเข้าใจถึงคุณค่า หลักการใช้ และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น โดยมีเกณฑ์การพิจารณา 4 ปัจจัย คือ 1. การรักษาสมดุลของทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน 2. การดำรงรักษาสภาพที่ดีของทรัพยากรน้ำ 3. การจัดการทรัพยากรน้ำที่ดี 4. การอนุรักษ์ไว้ซึ่งความสมบูรณ์ของพื้นที่แหล่งน้ำ
ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์สินค้าตัวนี้ เป็นผลิตภัณ์ฑ์ที่ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะผู้อำนวยการบริหารธุรกิจน้ำดื่ม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด อย่าง ลูก้า คิโอด้า เขามีเจตนารมณ์ และได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรแหล่งน้ำ เนื่องจากน้ำเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีจำกัดที่ใช้ได้แค่เพียง 1% ทั้งยังวางเป้าหมายเอาไว้ว่าจะทำให้ทุกโรงงานของน้ำดื่มเนสท์เล่ได้รับรองมาตรฐาน AWS ภายในปีค.ศ.2025
[ลูก้า คิโอด้า ผู้บริหารจากเนสท์เล่]
“ตอนนี้เราก็ภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในโรงงานจ.พระนครศรีอยุธยา เราให้ความมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน เราให้ความสำคัญโดยการจัดการบริหารน้ำเพื่อวันนี้ และอนาคตด้วย เนสท์เล่ เพียงไลฟ์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้เนสท์เล่ วอเตอร์ ที่เราบอกว่าเราให้ความสำคัญในการอนุรักษ์น้ำอย่างยั่งยืน เพราะว่ามีเจตนารมณ์ เพื่อที่เราจะมุ่งมั่นที่จะให้มีทรัพยากรน้ำ ให้ใช้ถึงคนรุ่นหลังด้วย
น้ำก็เป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด แล้วก็ปริมาณในโลก น้ำที่ใช้อุปโภค บริโภคเนี่ยมีแค่ 1% เราในฐานะที่เป็นผู้ผลิตน้ำอันดับ1 เราก็ต้องการแสดงการรับผิดชอบในการที่เป็นคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการที่จะอนุรักษ์น้ำ
เป้าหมายที่จะทำให้ทุกโรงงานของกลุ่มธุรกิจน้ำดื่มเนสท์เล่ทั่วโลกได้รับรองมาตรฐาน AWS ให้สำเร็จภายในค.ศ. 2025 และจากการที่โรงงานของกลุ่มธุรกิจน้ำดื่มเนสท์เล่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ให้ความสำคัญที่สุดในการจัดการและดูแลทรัพยากรน้ำอย่างต่อเนื่อง เราจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนทางทรัพยากรน้ำของเราสามารถผ่านการรับรองตามเกณฑ์ของ AWS ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลก”
แก้ปัญหาชุนชน สร้างการเรียนรู้
ลองมองจากมุมมองของผู้อำนวยการดูแล้ว เขาเห็นว่าเรื่องของการอนุรักษ์น้ำเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก และเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันดูแลให้ยั่งยืน สอดคล้องกับทวีศักดิ์ รุจิรพิสิฐ ผู้จัดการโรงงาน อีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่คอยดูแลควบคุมมาตรฐานต่อเนื่อง จนโรงงานที่จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับรองจาก AWS เขาได้ยอมรับกับทีมข่าวว่าสิ่งที่เขา และบริษัททำนั้น ไม่ใช่เพียงเพราะด้านธุรกิจ และมันไม่ง่ายเลยที่จะควบคุมดูแลในส่วนของโรงงาน และชุมชนให้ร่วมมือกันได้
“การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ระดับแรกเลยเริ่มจาก ภายในโรงงานก่อน เรามีเทคโนโลยีอยู่มากมาย เรานึกอยู่เสมอนะครับ เวลาจะใช้แหล่งน้ำ น้ำหนึ่งขวบ สมมุติว่าเท่ากับน้ำ 1 ลิตร เราก็ควรที่จะดึงน้ำทรัพยากรธรรมชาติใส่มา 1 ลิตร แน่นอนว่าเวลาจะทำงานเราก็ต้องมีน้ำหนึ่งส่วนที่จะต้องใช้ในการด้านอื่นๆ
โรงงานจะมีเครื่องมือที่ทันสมัยในการควบคุมเรื่องของการควบคุมการใช้น้ำ เราดึงน้ำขึ้นมา ทางโรงงานจะมีมอนิเตอร์ถึงเรื่องของปริมาณน้ำขึ้นมาว่าจะต้องใช้ให้เกิดประโยชน์เท่าไหร่ มีการดูแลเรื่องของระบบน้ำ ว่าน้ำที่เราเอาขึ้นมาเพื่อจะสามารถรักษาระดับให้คงที่ เพื่อเป็นการวัดว่า ไม่ได้ใช้น้ำเกินกว่าธรรมชาติของแหล่งน้ำที่จะรองรับได้ เรามีเป้าหมายทุกปีที่จะลดอัตราการใช้น้ำ ซึ่งตอนนี้เราอยู่ในระดับมาตรฐานTop3 เพราะเราใช้เพียงแค่ 1.2 ลิตรเท่านั้นเอง
ในส่วนเรื่องของการควบคุมคุณภาพของตัวบ่อ สามารถที่จะบอกได้เลยว่าตัวคุณภาพในการควบคุมมาตรฐานน้ำที่เราเอาขึ้นมาจากแหล่งน้ำ มันจะเป็นมาตรฐานที่เราลงทุนในเรื่องของโครงสร้างในการที่จะดูแลบ่อตรงนี้ เพื่อให้มีมาตรฐานในเรื่องของคุณภาพ และเรื่องของตัวการควบคุมการใช้น้ำอย่างยั่งยื่น”
นอกจากระบบจัดการภายในโรงงานแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในเรื่องของการมาตรฐานตัวนี้ก็คือชุมชนซึ่งจะต้องสร้างความเข้าใจ เรื่องของบริบท และความต้องการของชุมชนที่อยู่รายลอบโรงงาน รวมทั้งอนาคตจะทำยังไงให้มีการปลูกฝัง จิตสำนึกในการจัดการน้ำให้ใช้ไปถึงอนาคต
“สิ่งที่เราทำความเข้าใจกับชุมชน คือว่าทรัพยากรน้ำที่เขาใช้ และเราใช้ แต่สิ่งที่ชาวบ้านกังวลก็คือ เรื่องของประปาของหมู่บ้าน เรื่องของคุณภาพ การดูแลรักษาบ่อ ว่าน้ำที่เขาดึงมานั้นจะมีความสะอาด มีมาตรฐานพอเพียงไหม เรื่องปริมาณน้ำที่ดึงขึ้นมาจะใช้ได้ไปถึงไหน เราก็เข้าไปทำการสนับสนุนเรื่องของความรู้ เรามีการเก็บตัวอย่างน้ำมาวิเคราะห์ เพื่อดูมาตรฐาน ค่าต่างๆทั้งเรื่องของสารเคมี สารปนเปื้อนต่างๆ ซึ่งเราก็บริการส่งตัวอย่างไปถึงประเทศฝรั่งเศสเพื่อจะวิเคราะห์ แล้วก็ให้คำแนะนำให้กับทางชุมชนในเรื่องของการใช้น้ำให้ยั่งยืน อย่างเช่นว่าให้ความรู้เขาเกี่ยวกับการ ประหยัดน้ำ เรื่องของการรักษาคุณภาพ รักษาความสะอาดระบบปะปาของเขา และเรื่องสนับสนุนเพื่อที่จะให้ชุมชนมีการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนต่อไป”
หันกลับมามองผ่านสายตาผู้บริหารชายอีกครั้ง สำหรับลูก้า แล้วเขายังคงเชื่อว่าไม่ใช่แค่ความพยายามในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำแล้ว แต่ยังรวมถึงการเข้าใจชุมชนรอบบริเวณโรงงานผลิตเกี่ยวกับความต้องการการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การตรวจสอบคุณภาพน้ำเพื่อปกป้องแหล่งน้ำบริเวณโดยรอบอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการดำเนินโครงการที่สร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
“ทางเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถพัฒนาศักยภาพในการจัดการ และดูแลทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนในบริเวณชุมชนรอบโรงงานผลิตของเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนอกจากการลดการใช้ทรัพยากรน้ำในโรงงานผลิตแล้ว เราเชื่อถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันอย่างเปิดเผยระหว่างผู้เกี่ยวข้องจากภาคส่วนต่างๆ ในชุมชนรอบโรงงานผลิต ซึ่งเป็นวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างรับผิดชอบและยั่งยืนร่วมกัน”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **