หรือจะเป็นเคล็ดลับความอูมามิ?! สยอง “ร้านผลไม้รถเข็น” ถังแช่มะม่วงดำปี๋ แถมรียูสน้ำแข็งละลายใช้แช่ผลไม้อีกรอบ ด้านนักโภชนาการเผย ผลไม้แบบนี้เสี่ยงปนเปื้อน เลือกไม่ดีมีท้องเสีย!
กล้ากินไหม? “คราบดำ-น้ำแช่ละลายเหลือใช้”
“เคล็ดลับความอร่อย...ซื้อมาหลายครั้งแล้ว(อยากอ้วก)วันนี้มีทัวร์ลงหลายคันเลยขายดี พอหมดคนต้องรีบจัดของเพิ่ม(ตามภาพที่เห็นค่ะ) ยืนดูอยู่นานแต่คนขายก็ไม่ได้สนใจอะไร(คงเห็นเป็นเรื่องปกติที่ทำอยู่ทุกวัน) รถเข็นพ่วงข้างขายในปั๊มน้ำมัน(ไม่เกี่ยวกับทางปั๊มนะคะ)เส้นบ้านค่าย ปั๊มสุดท้ายก่อนเข้าเมือง..ไปอุดหนุนกันได้นะคะพ่อค้าจริงใจมากค่ะ”
กลายเป็นฝันร้ายสำหรับคนที่ชื่นชอบการกินผลไม้รถเข็นไปในทันที เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เล่าประสบการณ์สุดช็อกผ่านกรุ๊ป “แชร์ทุกเรื่องเมืองระยอง Rayong We Share” เป็นเหตุการณ์ขณะไปซื้อผลไม้รถเข็นเจ้าประจำ แต่ดันพบเข้ากับขั้นตอนการเตรียมผลไม้เพื่อไว้ขายที่ดูจะไม่ถูกสุขอนามัย ทั้งน้ำที่ใช้แช่ผลไม้และถังที่ใส่น้ำ จนทำให้อยากอาเจียน
พร้อมกันนี้ เจ้าของโพสต์ยังแนบหลักฐานให้เห็นเต็มตา เป็นภาพของถังน้ำพลาสติกสีเหลืองที่ใช้แช่มะม่วงปอกแล้ว แต่ทว่าด้านในของถัง กลับมีคราบสีดำเต็มไปหมด คล้ายกับว่าถังนี้ไม่เคยผ่านการล้างมาก่อน และคาดว่าน้ำที่ใช้แช่มะม่วงปอกแล้ว คือน้ำจากน้ำแข็งที่ละลายออกมาจากการแช่ผลไม้ในตู้กระจกอีกด้วย!
หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวถูกนำมาเผยแพร่บนสังคมออนไลน์ ก็มีสมาชิกเฟซบุ๊กเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก มีทั้งฝั่งคนที่ตำหนิคนขายผลไม้คนนี้ ที่มักง่ายและไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค และทำให้พ่อค้าแม่ค้าคนอื่นถูกมองอย่างเหมารวมว่าไม่สะอาดไปด้วย
“จะรอให้คนบอกคนตักเตือนก่อนหรอคะถึงจะแก้ไขและปรับปรุง สิ่งเหล่านี้ต้องมาจากจิตสำนึกมากกว่า คนเรามองไม่ต่างกันเท่าไรหรอกว่าสิ่งที่ทำอยู่มันเหมาะและสมควรรึยัง หรือใครจะมองว่าก็สะอาดดีนะถังใบนี้”
“เคยเห็นแบบนี้เหมือนกันค่ะ เลยทำให้เราไม่ค่อยกล้าซื้อของที่ขายตามข้างทาง แบบนี้ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่เค้าทำดีทำสะอาดเสียหายไปด้วย แย่จริงๆ”
“ขายของความสะอาดต้องมาอันดับแรกๆ เห็นแบบนี้แล้วจะอ้วกค่ะ”
“ขนาดต่อหน้ายังเป็นแบบนี้ พาให้คิดว่าลับหลังจะขนาดไหน ความสะอาดไม่ได้แปลว่าต้องใช้ต้นทุนที่แพงขึ้น เพียงแต่ใส่ใจ วางและเก็บรักษาในที่ที่ถูกที่ควรค่ะ”
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความคิดเห็นจำนวนไม่น้อย ที่พาดพิงเจ้าของโพสต์ว่าแทนที่จะเตือนคนขายดีๆ แต่ดันเลือกที่จะถ่ายลงมาประจานผ่านโซเชียลฯ แบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการตัดช่องทางทำมาหากินให้ร้านผลไม้ร้านนี้
“คุณเอาลงอย่างนี้ เท่ากับประจานเค้านะคะ ไม่ซื้อก็เฉยๆ ดีกว่าค่ะ สงสารคนขาย”
“ไม่น่าเอามาแชร์นะ เค้าก็ขายของเค้าปกติใครๆ กินก็ไม่เห็นตายเลย ยังเห็นแ-กกันจนหมด”
“บอกพี่เขาก็ได้ครับ อย่าประจานเลย คนทำมาหากิน”
แน่นอนว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น หลายคนย่อมอยากรู้ถึงความอันตรายหากกินผลไม้รถเข็นที่ไม่สะอาดเข้าไป เกี่ยวกับเรื่องนี้ อ.นพ.จักรพงษ์ บรูมินเหนทร์ สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ก็เคยให้ความรู้ผ่านเพจ “รามา แชนแนล Rama Channel” ไว้ว่า เมื่อกินเข้าไปอาจมีโอกาสติดเชื้อ “สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus)” จากการสัมผัสผลไม้ด้วยมือที่ไม่สะอาดของผู้ขายและความสกปรกของอุปกรณ์ที่หั่นผลไม้
เชื้อดังกล่าวเป็นเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ตามผิวหนัง หากไม่ได้ทำความสะอาดแล้วไปหยิบจับผลไม้ ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อตัวนี้ไปได้ โดยปกติแล้วเชื้อนี้จะไม่เป็นอันตรายกับทางเดินอาหาร แต่มันสามารถสร้างสารพิษเอนเทอโรทอกซิน (Enterotoxin) ที่ทนความร้อนได้ดี จึงทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ถ่ายเหลว หรืออุจจาระร่วงเฉียบพลัน ส่งผลในร่างกายเกิดอาการขาดน้ำ และจะยิ่งเป็นอันตรายในผู้สูงอายุ เพราะอาจทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำหรือช็อกได้
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดของเหตุการณ์นี้ ดูเหมือนกระแสความแรงบนโลกโซเชียลฯ จะใช้ได้ผล เนื่องจากมีคนเดินทางไปที่ร้านขายผลไม้แห่งนี้ แล้วพบว่าได้มีการเปลี่ยนจากถังที่มีคราบดำ เป็นถังสีดำล้วนใบใหม่แทนเป็นที่เรียบร้อย
สะดวกแต่อันตราย ภัยแฝงที่ไม่ควรมองข้าม!!
ผลไม้รถเข็น แม้จะเป็นเมนูโปรดของใครหลายๆ คน เพราะมีให้เลือกหลากหลายและสะดวกในการกินเพราะคนขายปอกมาให้เรียบร้อย แต่รู้หรือไม่ว่าภัยเงียบของมันไม่ได้มีเพียงแค่เชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส เพียงอย่างเดียวเท่านั้น?!
เพื่อหาคำตอบของเรื่องนี้ ทีมข่าว MGR Live ได้ติดต่อไปยัง อ.สง่า ดามาพงษ์ นักโภชนาการเชี่ยวชาญอิสระ ที่ปรึกษากรมอนามัย และผู้ทรงวุฒิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) มาให้ความรู้และตีแผ่พิษภัยของผลไม้รถเข็นที่ไม่ถูกสุขอนามัยว่ามีอะไรบ้าง
แฟ้มภาพ
“สุขลักษณะของรถเข็นผลไม้ที่ถูกหลัก มันเริ่มมาตั้งแต่การวางถัง คุณเอาถังใส่ผลไม้แล้วไปวางอยู่กับพื้น อันนั้นไม่เหมาะสมแน่นอน เพราะหลักการของสุขาภิบาลอาหาร ว่าอาหารที่วางขายอยู่ริมฟุตปาธหรือริมถนน จะต้องสูงกว่าพื้นประมาณ 60 เซนติเมตร เวลาวางกับพื้น โอกาสที่เราเปิดมาหรือเปิดฝาไว้ แล้วพวกฝุ่นละอองเข้ามาสัมผัสมันก็มีสูง
ต่อมา ภาชนะที่ใส่ผลไม้แล้ว ต้องสะอาด ปราศจากเชื้อรา น้ำแข็งที่เอามาแช่ก็ต้องสะอาด หลายครั้งเชื้อโรคมันจะมากับน้ำแข็ง มันก็เลยติดปนเปื้อนไปกับผลไม้ได้ ส่วนผลไม้ที่เอามาวางขาย เมื่อปอกแล้วต้องล้าง อย่างมะม่วง โดยปกติแล้วปอกกันแล้วก็เฉาะๆ ไม่ล้างหรอก โอกาสที่จะติดเชื้อจากมีด จากมือของคนปอกมันก็มีสูง เพราะฉะนั้นต้องเอามาล้าง แล้วพอล้างเสร็จเรียบร้อยก็เอาไปไว้ในสถานที่ที่มันป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปปนเปื้อนได้”
แต่ถ้าเป็นผลไม้แช่อิ่ม หรือแม้กระทั่งผลไม้สดอย่างฝรั่งและมะม่วง บางร้านพอปอกแล้วก็เอาไปชุบน้ำสี มือคนขายก็เขียวปี๋เลย ถ้าเขาใช้สีผสมอาหารก็แล้วไป แต่ถามว่าทำไมเราไม่กินผลไม้แบบธรรมดาล่ะ แล้วก็อีกอันนึงคือเอาไปแช่พวกขัณฑสกร เพื่อให้มันหวาน ให้มันกรอบ สารพวกนี้มันเป็นสารที่กินเข้าไปแล้วมากมันก็อันตราย อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับคนซื้อที่ต้องพิจารณาตัวเองว่าจะกินผลไม้สด หรือผลไม้แช่อิ่มที่แช่พวกน้ำบ๊วยหรือแช่อะไรต่อมิอะไร”
แฟ้มภาพ
ไม่เพียงแค่ผลไม้และอุปกรณ์ที่ใช้ปอกเท่านั้น ปัจจัยถัดมาก็คือคนขาย อ.สง่า กล่าวว่า มือของคนขายต้องไม่มีแผล ในกรณีของคนขายที่ไม่ได้ล้างมือก่อนมาปอกผลไม้ แน่นอนว่าย่อมเสี่ยงติดเชื้อ ในขณะเดียวกับ แม้บางเจ้าจะสวมถุงมือ แต่พอถึงตอนทอนเงินก็ไม่ได้ล้างหรือถอดถุงมืออยู่ดี ตรงนี้เลยมีโอกาสที่จะปนเปื้อนได้
และอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเครื่องจิ้มต่างๆ ทั้งพริกเกลือ กะปิหวาน ซึ่งบางเจ้าก็ใส่ผงชูรสเยอะมาก การกินผลไม้ไม่ควรจะใช้พริกเกลือมากจนเกินไป หรือไม่ใช้เลยจะดีที่สุด ผลไม้ที่มันหวานอยู่แล้ว เช่น ฝรั่ง มันมีความหวานกรอบอยู่ในตัว ยกเว้นผลไม้รสเปรี้ยวก็อาจจะจิ้มเกลือได้
“ผมไม่ส่งเสริมและไม่แนะนำให้จิ้มเกลือด้วยเหตุผลอยู่ 2-3 ข้อ คือ 1.เกลือที่เอาไปจิ้ม เท่ากับเราได้โซเดียมเพิ่มขึ้นเพราะมันเค็ม ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง โรคไต ไตทำงานหนัก การจิ้มเกลือแต่ละครั้งถือว่ามันเค็มปี๋เลยนะ 2.การจิ้มเกลือนั้น บางทีเขาก็ใส่ผงชูรสด้วย 3.ได้น้ำตาลโดยใช้เหตุ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปจิ้มก็ได้ หรือถ้าจะจิ้มก็จิ้มแต่พอดี ตัวผมเองผมไม่เคยจิ้มเลย เวลากินผลไม้กินสดๆ ครับ”
สุดท้ายนี้ ที่ปรึกษากรมอนามัย ได้ฝากคำแนะนำถึงการเลือกกินผลไม้รถเข็น ที่ต้องดูให้ถี่ถ้วนในเรื่องของความสะอาด ตั้งแต่คนขายไปจนถึงสินค้า และฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาส่งเสริมอาชีพนี้ให้ถูกสุขลักษณะเสียที เพราะปัจจุบันคนไทยกินผลไม้กันน้อยลง ส่งผลให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำและเกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ง่ายขึ้น
“ผมมองเรื่องนี้ 2 มุม ใจนึงผมอยากจะให้มีรถเข็นผลไม้เยอะๆ เพื่อที่จะทำให้คนเข้าถึงผลไม้ง่ายขึ้น ทุกวันนี้คนกินผักและผลไม้น้อยมาก เมื่อกินไม่พอ ภูมิคุ้มกันต่ำ โอกาสที่จะได้ใยอาหารมันน้อย แต่ ณ วันนี้จุดอ่อนคือ รถเข็นผลไม้ที่มีอยู่ก็ไม่ค่อยเห็นมีหน่วยงานไหนเข้ามาควบคุมแล้วดูแลให้มันสะอาด ปลอดภัย เหมือนกรณีที่ออกข่าวมา ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องส่งเสริม
ส่วนวิธีการเลือกซื้อ ให้สังเกตอันดับแรก ต้องดูร้านที่ดูดี สังเกตด้วยสายตาได้ สำหรับผม ผมสังเกตคนขายก่อน อันที่สองผมจะสังเกตดูรถเข็น แล้วก็ถังที่บรรจุผลไม้ แล้วอันที่สามผมจะสังเกตเขียงที่เขาเฉาะ ถ้าดูดีแล้วผมก็จะซื้อเลย”