สั่นสะเทือนวงการหมอสูติฯ! หลังผู้เสียหาย แฉ หมอดัง จ.นครสวรรค์ “ข่มขืน-กระทำอนาจาร” ขณะตรวจภายใน ล่าสุด ทนายนิด้า เผยตัวเลขน่าตกใจ เหยื่อกามพุ่ง 50 ราย! ผู้เสียหายเล่าวินาทีหมอฉาว เชื่อมีผู้เสียหายอีกเพียบไม่กล้าเผยตัว!
แฉวีรกรรมหมอฉาว! สะเทือนวงการสูติฯ
“ตอนนั้นก็ยอมรับว่าไม่ได้เอะใจ เพราะไม่เคยฝากครรภ์มาก่อน ไม่รู้ว่าเขาตรวจกันแบบไหน หมอจับหน้าอกเรา มีการนำนิ้วมาคลึงที่หน้าอก แล้วพูดว่าหน้าอกสวยนะ แฟนคงหลง และถามต่อว่ามีอะไรกันบ่อยไหม แฟนมีเซ็กซ์เก่งไหม แต่เราก็ไม่ได้ตอบอะไรและก็ขอออกมา”
“ฟ้า” (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live หลังเกิดกรณีฉาว หมอสูตินรีชื่อดังใน จ.นครสวรรค์ ข่มขืนคนไข้ขณะตรวจภายใน จนกลายข่าวครึกโครมบนพื้นที่สื่อหลายสำนักท่ามกลางกระแสความสนใจของประชาชนเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น
โดยเรื่องราวสุดฉาวนี้จุดประเด็นมาจากคนไข้รายหนึ่ง เปิดภาพแชตระหว่างตนกับหมอสูติฯ คนดังกล่าว พูดคุยเกี่ยวกับการรักษาที่ได้มีการใช้อุปกรณ์แปลกปลอมในการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศให้กับคนไข้ แถมยังมีเรื่องของการเสนอเงินเยียวยาให้อีกด้วย
ความฉาวสะเทือนวงการสูตินรีแพทย์ ถูกส่งต่อมายัง “องค์กรทำดี” ภายใต้การดูแลของ “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ก่อนร่วมมือกันรวบรวมหลักฐานพยานทั้งหมด ผ่านการดูแลคดีของทนายสาวชื่อดัง “นิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ” ล่าสุด พบว่ามีผู้เสียหายที่ติดต่อเข้ามาแล้วมากกว่า 50 ราย!
ขณะที่เหยื่อแต่ละรายต่างออกมา แฉ เป็นเสียงเดียวกันว่าโดนกระทำอนาจารทั้งทางคำพูดและการกระทำ ผ่านการสัมผัสภายนอก เช่น บริเวณหน้าอก การเป่าที่หู หรือที่อวัยวะเพศ รวมถึงทำท่าทางร่วมเพศด้วย ขณะที่ทีมข่าว MGR Live เองได้มีโอกาสพูดคุยกับหนึ่งในผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายรายนี้ย้อนเหตุการณ์ให้ทีมข่าวฟังว่า ตนได้เข้ารับการฝากครรภ์ที่คลินิกแห่งนี้เมื่อ 3 ปีก่อน เนื่องจากเห็นว่าแพทย์รายนี้มีชื่อเสียงด้านการรักษา จึงตัดสินใจเข้าฝากครรภ์โดยมีญาติสนิทไปด้วย แต่หมอให้ญาติของตนรอนอกห้อง ไม่คิดมาก่อนว่าจะเจอกับเหตุการณ์ลักษณะนี้กับตัวเอง
“ตอนนั้นไปฝากครรภ์ โดยมีพี่สะใภ้พาไป ตอนนั้นท้องได้เดือนกว่าค่ะ เราก็ไปเจอหมอคนนี้ เขาก็ให้เราเข้าไปตรวจในห้อง ตอนแรกพี่สะใภ้เราขอเข้าไปด้วย แต่หมอบอกว่าให้รอข้างนอก จากนั้นก็ปิดประตู เราอยู่กับหมอแค่สองคน เขาบอกให้เราถกเสื้อขึ้นจะขอตรวจหน้าอกหน่อย
เขาก็จับหน้าอกเรา มีการนำนิ้วมาคลึงที่หน้าอก แล้วพูดว่าหน้าอกสวยนะ แฟนคงหลง ถามต่อว่ามีอะไรกันบ่อยไหม แฟนมีเซ็กซ์เก่งไหม แต่เราก็ไม่ได้ตอบอะไรและก็ขอออกมา พอกลับมาถึงบ้านได้เล่าให้คนที่บ้านฟังว่าเขาตรวจแบบนี้ แม่ก็บอกว่ามันไม่ใช่แล้ว ก็เลยย้ายคลินิก ไม่ไปที่นี่อีกเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็มีพูดคุยกับพี่ที่รู้จักที่เคยไปตรวจกับคลินิกแห่งนี้ ก็บอกว่าเจอแบบนี้เหมือนกัน โดนจับหน้าอกเหมือนกัน ตอนนั้นยังไม่มีใครออกมาพูดเยอะเท่าตอนนี้ แต่เราคิดว่าน่าจะมีคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้หลายคน ส่วนใหญ่ก็คงไม่กล้าพูดแบบเรา ได้แต่บอกคนในบ้านเท่านั้นเอง เราไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้กับตัวเราเองเหมือนกัน”
จากการตรวจสอบย้อนหลังของทีมข่าว พบว่าคลินิกแห่งนี้มีเรื่องอื้อฉาวมานานแล้ว ทั้งจากคนในพื้นที่เองที่ให้ข้อมูลว่าได้มีคนไข้รายหนึ่งโพสต์แฉพฤติกรรมหมอรายดังกล่าวเมื่อ 1 ปีก่อน เกี่ยวกับคำพูดที่ล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงมีการใช้นิ้วสอดใส่ที่อวัยวะเพศอยู่หลายนาที
เกิดเป็นเรื่องฉาวใน จ.นครสวรรค์เมื่อปีก่อน จนคลินิกดังกล่าวต้องปิดคลินิกหนีชั่วคราว ก่อนกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งราวกับว่าไม่มีเหตุการณ์ฉาวเกิดขึ้น
รวบรวมหลักฐาน-ประจักษ์พยาน “ทนายนิด้า” สู้ล้านเปอร์เซ็นต์!
จากประสบการณ์การเป็นทนายกว่า 10 ปี “นิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ” เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ว่าเรื่องนี้จะสู้ให้ถึงที่สุด! พร้อมอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดว่ากำลังรวบรวมหลักฐานพยาน พบผู้เสียหายติดต่อมาแล้วกว่า 50 ราย! แถมเผยว่าความยากของคดีนี้อยู่ที่ประจักษ์พยาน เนื่องจากว่ากรณีการถูกข่มขืนมักมีแค่ผู้กระทำกับผู้เสียหาย
“ความคืบหน้าล่าสุดก็ยังเหมือนเดิมค่ะ ยังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน ยังพูดคุยกับพยานทุกคนอยู่ถึงรายละเอียดว่าเหตุเกิดที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร และให้ช่วยหาพยานหลักฐานประกอบเพิ่มเติม
ผู้เสียหายที่ติดต่อเข้ามาผ่านทางนิด้าเอง หรือจากคุณบุ๋ม ปนัดดา รวมๆ แล้วก็มีไม่น้อยกว่า 50 คน แต่ไม่ใช่ว่าทั้งหมดใน 50 คนโดนข่มขืนนะ บางส่วนที่โดนในลักษณะอนาจาร ส่วนใหญ่เจอแค่อนาจาร แต่กรณีข่มขืนที่นิด้ามีข้อมูลอยู่ในตอนนี้ ไม่ถึง 10 ราย ซึ่งไม่เคยไปแจ้งความร้องทุกข์เลย
ตอนนี้เรากำลังติดต่อ-ติดตามคนที่ถึงขั้นโดนข่มขืนกระทำชำเรา แต่ว่าได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยหรือรับเงินแล้วยอมความกันไปแล้ว ตอนนี้เรากำลังติดต่อส่วนตรงนี้อยู่ แต่อาจยังสรุปให้ไม่ได้ว่าจะได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร ซึ่งแทบทั้งหมดมีอายุความเกินไปแล้ว
แต่ไม่ได้หมายความว่าอายุความเกินไปแล้วจะไม่เป็นประโยชน์กับคดีเรา จะเกินหรือไม่เกิน ทุกคนมีประโยชน์หมด เพราะสุดท้ายเราจะนำคนเหล่านี้มาเป็นพยานบุคคลในศาลว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้เกิดขึ้นจริงๆ เพื่อที่จะทำให้คดีที่ไม่ขาดอายุความมีน้ำหนักมากขึ้น”
ขณะที่สังคมตั้งคำถามถึงพฤติการณ์การทำอนาจารว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่เหยื่อส่วนใหญ่มักมีรูปร่างหน้าตาดี ซึ่งทนายนิด้าเองเผยว่าผู้เสียหายทั้งหมดที่ติดต่อเข้ามามีรูปร่างหน้าตาหรือสรีระปะปนกันไป จึงอาจยังสรุปไม่ได้ชี้ชัดว่าผู้เสียหายส่วนใหญ่ที่ถูกกระทำอนาจารจะต้องมีลักษณะแบบไหน
“ด้วยพฤติการณ์ ทุกคนจะคล้ายคลึงกันหมดเลย ไม่ค่อยมีใครผิดแผกกันนัก ส่วนเหตุจูงใจยังสรุปไม่ได้ เพราะทุกคนที่โดนกระทำไม่ใช่ว่าจะเป็นเหยื่อที่หน้าตา-รูปร่างแบบนี้เหมือนกันหมด มีคละผสมปนเปกันไป อายุใกล้ๆ 40 ปีก็ยังมีเลย หรืออายุ 20 ปีต้นๆ ก็ยังมี ตอนนี้เลยยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่ามีรสนิยมเป็นอย่างไร
จริงๆ แล้ว แม้เราจะมีพยานหลักฐาน แต่ความยากของคดีนี้อยู่ที่ประจักษ์พยาน หมายถึงคนที่เห็นเหตุการณ์ในคดีข่มขืนแทบจะตัดไปเลย อย่าว่าแต่คดีนี้ คดีอื่นๆ ก็เช่นกัน รวมไปถึงตั้งแต่เกิดเรื่อง น้องไม่ได้ไปตรวจร่างกายในทันที นอกนั้นก็เป็นพยานแวดล้อมที่เราพยายามรวบรวมมาประกอบ”
อย่างไรก็ดี ในแง่กฎหมายการข่มขืนกระทำชำเรา ทนายนิด้าอธิบายโดยยกหลักกฎหมายในอดีตที่มีการพูดถึงการถูกข่มขืนว่าจะต้องมีการสอดใส่ของอวัยวะเพศชายกับเพศหญิงเพียงอย่างเดียว ทว่า กฎหมายที่มีการแก้ไขล่าสุดมีการครอบคลุมตั้งแต่การใช้สิ่งแปลกปลอม การใช้นิ้ว หรือแม้แต่การออรัลเซ็กซ์
สมัยก่อนเลยจะต้องเป็นอวัยวะเพศเท่านั้นและจะต้องเป็นชายกระทำกับหญิงเท่านั้น ภายหลังได้มีการแก้ไขกฎหมายว่า บางทีผู้ชายก็ถูกข่มขืนได้นะ จึงมีการแก้ไขว่าไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หากถูกข่มขืนถือว่าเป็นความผิดหมด และในการสอดใส่ในอวัยวะเพศของกันและกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นของชายใส่ในของหญิงเท่านั้น
บางคนอาจใช้วิธีออรัลเซ็กซ์ ก็ถือเป็นการข่มขืนกระทำชำเรานะคะ หรือแม้แต่การใช้นิ้วสอดใส่เข้าไปก็ถือเป็นการกระทำชำเราเช่นกัน แต่ทีนี้ในทางการแพทย์ต้องแยกว่าเวลาเราไปตรวจสูติฯ หมอมีการนำนิ้วแหย่เข้าไปก็จะต้องมองที่เจตนาของหมอว่าเป็นการทำเพื่อรักษา ไม่ใช่การข่มขืนกระทำชำเรา
แต่ถ้ากระทำโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นทางเพศจะมาอ้างความเป็นหมอไม่ได้ ลักษณะเช่นนี้ถือว่าเป็นการข่มขืนกระทำชำเราเหมือนกัน ซึ่งต้องไปพิสูจน์เจตนากันในศาลเท่านั้น”
สุดท้าย ทนายนิด้ายังกล่าวทิ้งท้ายถึงประเด็นที่เกิดขึ้นด้วยว่า อยากฝากสารไปถึงผู้เสียหายที่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้กับคลินิกดังกล่าววอนติดต่อเข้ามาเพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการต่อสู้คดี เพื่อที่เสียงเรียกร้องของผู้หญิงที่ถูกกระทำจะได้ไม่สูญเปล่า
“อยากฝากให้คนที่ดูข่าวที่เป็นผู้เสียหาย อย่าอาย อยากให้ติดต่อเข้ามาที่องค์กรทำดีของบุ๋ม ปนัดดา หรือเพจทนายนิด้า อย่างที่เรียนให้ทราบไปว่าสิ่งใดคืออุปสรรคของคดีนี้ นั่นคือประจักษ์พยาน นิด้าจึงฝากถึงผู้ที่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ให้ติดต่อเข้ามา เพราะสิ่งนี้สำคัญมาก
หากเราอายและไม่มาช่วยยืนยันกับศาลว่าสิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นจริงนะ สุดท้ายถ้าพยานหลักฐานเราไปไม่ถึง แล้วศาลยกฟ้อง นอกจากเหยื่อจะโดนข่มขืนแล้ว เหยื่อยังจะโดนตราหน้าอีกว่าอุปโลกน์ กุเรื่องขึ้นมา หรือแม้แต่คำว่า สมยอม เขาต้องอยู่กับคำพูดเหล่านี้ไปตลอด”
ข่าวโดย ทีมข่าว MGR Live