จากคดีใหญ่กรณี "สาดน้ำกรด" สะเทือนโรงพยาบาลพระราม 2 นำไปสู่การออกมาร่วมขุด "ช่องโหว่อันตราย" กันอย่างหนักหน่วง โดยเหล่าผู้ใช้บริการต่างออกมาประสานมือ ร่วมแฉเคส "ระบบปฏิบัติงานไร้มาตรฐานทำคนตาย" กระทั่งกลายมาเป็น "7 หลุมดำ" หลุมใหญ่ ที่ต้องขอโวยเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่สังคม!!
1.ยัดผู้ป่วยขึ้นแท็กซี่ในนาทีฉุกเฉิน
เริ่มตั้งแต่แรกเมื่อเฟซบุ๊ก “ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม" ออกมาเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหญิงรายหนึ่งว่า ถูกโรงพยาบาลพระราม 2 ปฏิเสธการรักษา และให้ไปรักษาโรงพยาบาลอื่น พร้อมทั้งยื่นเงิน 40 บาทให้ไปรักษาที่อื่น จนสุดท้ายหญิงคนดังกล่าวได้เสียชีวิตลง
ขณะที่ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็ได้มีการออกมาไลฟ์ผ่านเพจ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่าผู้เสียชีวิตเสียชีวิตเพราะเกิดจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว และในกรณีที่ขึ้นรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาลนั้น ผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
“ส่วนผลชันสูตรเบื้องต้นจากโรงพยาบาลศิริราช ระบุว่าระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ตรงกับโรงพยาบาลบางมด ซึ่งมีดำเนินการแจ้งความคดีอาญากับผู้บริหาร ที่ปรึกษา และหมอโรงพยาบาลพระราม 2 เพราะไม่มีแพทย์ตลอดเวลาทำการของโรงพยาบาล ทำให้ผู้บาดเจ็บไม่ได้รับการช่วยเหลือรักษาและปฏิเสธการรักษาด้วย เข้าข่ายเป็นการกระทำประมาทจนทำให้มีผู้เสียชีวิต”
2.ไร้การประสานงาน ส่งตัวไปอีกโรงพยาบาล
[พญ.วัลลภา ออกมาแถลงข่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้น]
จากกรณีเดียวกันนั้นก็คือ เกี่ยวกับเรื่องการส่งตัวผู้ป่วย มีการตั้งคำถามจากสังคมถึงการส่งตัวเห็นครั้งแรกอ้างว่ามีการประสานงานส่งตัวเรียบร้อยแล้ว แต่จากการตรวจสอบพบยังไม่มีการประสานไปยังโรงพยาบาล.บางมด
อย่างไรก็ดีพญ.วัลลภา ไชยมโนวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล พระราม 2 ออกมาแถลงข่าวว่าได้แจ้งไปยังโรงพยาบาลบางมดให้ช่วยดูแลแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้
“ทางรพ.พระราม 2 ได้โทร.แจ้งที่โรงพยาบาลบางมด แต่ไม่สามารถติดต่อผู้ตรวจการณ์ของโรงพยาบาลบางมดได้ในขณะนั้น จึงขอสายคุยกับพยาบาลห้องฉุกเฉิน และแจ้งว่าจะมีคนไข้คนดังกล่าวไปที่โรงพยาบาล”
ด้านอัจฉริยะ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมรายเดิม ออกมาชี้แจงว่าไปตรวจสอบไม่เห็นมีใครมาประสานงานที่โรงพยาบาลเลย
“จากการตรวจสอบไม่มีการประสานไปยังโรงพยาบาล.บางมด แถมตอนนั้นมีรถพยาบาลจอดอยู่ 2 คันก็ไม่ได้ไปส่ง”
3.ไม่มีแพทย์อยู่เวร ปล่อยพยาบาลวินิจฉัยพลาด
ในส่วนของกรณีนี้อยู่ในการตรวจสอบของทางคณะอนุกรรมการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)ว่าขณะที่ผู้ป่วยเดินทางไปรักษา มีแพทย์เวรประจำอยู่จริงๆ หรือไม่ ถ้าหากมีจริงจะหาข้อสรุปประเด็นรอบด้านต่อไป
ขณะที่อัจฉริยะ ก็ได้ออกมายืนยันว่าขณะเกิดเหตุมีแพทย์อยู่แน่นอน และก่อนหน้านี้ทางโรงพยาบาลเองก็ออกมาให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกันด้วย
4.อาคารไร้สปริงเกอร์ ทำผู้ป่วยไฟคลอกตาย
หลังจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมรายเดิม ออกโรงแฉ เมื่อวันที่23 มี.ค.57 โรงพยาบาลพระราม 2 ได้เกิดเหตุไหม้ และมีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบในครั้งนั้นทำให้รู้ว่า ไม่มีการติดตั้งสปริงเกอร์
ซึ่งไม่ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาคารดังกล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแล้วหรือยัง
5.แปลงอาคารจอดรถ เป็นอาคารฉุกเฉิน โดยพลการ
สบส.ตรวจสอบพบ มีการต่อเติมอาคารที่ผิดไปจากแบบที่วางไว้ จึงสั่งปิดอาคารผู้ป่วยนอก โดยไม่ขออนุญาต จึงทำให้ทางโรงพยาบาลมีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และสั่งลงโทษปรับ ฐานทำความผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาล แต่เป็นฐานความผิดที่ไม่ร้ายแรง รวมทั้งยังมีคำสั่งให้ปรับปรุงในส่วนที่ไม่ตรงมาตรฐาน พ.ร.บ.สถานพยาบาล โดยได้ให้ระยะเวลาในการปรับปรุง 15 วัน และหากไม่ปรับปรุงใน 15 วัน จ่อเพิกถอนใบอนุญาต
6.ฉีดฟอร์มาลีนให้ศพ โดยไม่รอผลนิติเวช
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "อภิสิทธิ์ ยิ้มจันทร์” ออกมาโพสต์ถึงเรื่องราวการใช้บริการของญาติ ที่โรงพยาบาลแห่งนี้เช่นกัน โดยมีใจความที่ตั้งข้อสงสัยในการรักษาของแพทย์ที่ไม่เป็นมืออาชีพ
ทั้งนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายเดิมอ้างว่า ทางโรงพยาบาลสั่งฉีดยารักษาศพทันที โดยไม่ได้มีการถามความคิดเห็นของญาติ และไม่ได้ส่งนิติเวช เพื่อหาสาเหตุของการตายก่อน
“ทำไมผมถึงโวยวายผมมีเหตุ และผลครับ ไว้เป็นญาติพวกมึ_แล้วพวกมึ_จะเข้าใจ คุณหมอ รพ.นี้เก่งมาก...เรื่องการวินิฉัยโรค..."อุบัติเหตุรถชน"รักษาตัวต่อเนื่องย้ายมาตามสิทธิ์ สุดท้ายลุงต้องตายเพราะหัวใจล้มเหลวหรา (ลุงยังแข็งแรงดีครับ)...พยาบาลสั่งฉีดยารักษาศพทันที งงไหมครับ ทำไมถึงไม่ส่งนิติเวชเพื่อหาสาเหตุก่อน ทำไม่แจ้งตามระบบ ทำไมหมอถึงสรุปการตายง่ายๆ ทำไมไม่แจ้งญาติถามญาติ แล้วทำไม่ถึงต้องฉีดยารักษาศพโดยไม่แจ้งญาติ แล้วทำไมในบิลไม่ลงค่าบริการฉีดยา ”
7.เก็บค่าฝากศพ โดยไม่บอกญาติล่วงหน้า
สอดคล้องกับกรณีเดียวกับฉีดฟอร์มาลีนให้ศพ โดยไม่รอผลนิติเวช กรณีนี้เช่นเดียวกันที่ยังคงไม่มีบทสรุป และทำให้ผู้โพสต์ยังคงข้องใจ หาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมผู้ป่วยต้องเสียค่าฝากศพนี้ด้วย