ยิ่งขุดยิ่งฉาว! จากงานวิ่งมาราธอนการกุศลสุดฉาว ขาดน้ำ นักวิ่งเกือบตาย จนสู่การ "อมเงิน" หึ่ง!ผู้จัด สวมชื่อคนตาย ฉ้อโกง คดีเพียบ สังคมตั้งคำถาม คดีติดตัวเยอะขนาดนี้ ให้มาเป็นแม่งานจัดการกุศลวิ่งได้ยังไง อดีตเหรัญญิกแฉ! อ.ตุ๊ก หนึ่งในผู้จัดงาน ไม่โปร่งใส พิรุธอื้อ! ยอดเงินค่าสมัครงานวิ่งได้ 8.2 ล้าน แต่แถลงว่าได้ 6.8 ล้าน ยัน อ.ตุ๊ก ยึดสมุดบัญชีธนาคาร-เอทีเอ็ม ตร.เล็งสอบเส้นทางเงินบริจาคเพิ่ม
ดรามาไม่สิ้น! อมตังค์นักวิ่ง
จากกรณีกระแสดรามา งานวิ่งมาราธอนการกุศล "Charity Chonburi marathon" ที่สุดโกลาหล จัดงานห่วย! น้ำขาดแคลนจนนักวิ่งเกือบตาย ฉี่เป็นเลือด ต้องเอามือรองน้ำดื่ม นักวิ่งบางรายไม่ได้รับเสื้อ ผ่านพ้นไปไม่ถึงสัปดาห์ กลับมีดรามาใหม่อีกรอบ...
เมื่อผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา ร้องศูนย์ดำรงธรรมว่า ได้รับเงินไม่ครบ จากที่ออกสื่อจำนวนเงิน 3,467,515.89 บาท ตามป้ายที่มอบให้กับทางโรงพยาบาลแต่เงินกลับได้เพียง 5 แสนกว่าบาท
ไม่นานนัก กิตติภัทร ชลศรานนท์ ประธานจัดงานวิ่ง ออกมายกมือไหว้ขอโทษนักวิ่ง-โรงพยาบาล ชี้แจงยอดเงินที่ปรากฏบนป้ายที่มอบให้โรงพยาบาล เป็นการเข้าใจผิด ยอดจริงที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายแล้ว คือ 549,415 บาทเท่านั้น
สำหรับงานวิ่งดังกล่าว คิดค่าสมัคร 5 กม. 400 บาท, 10 กม. 500 บาท, 21 กม. 700 บาท, และ 42 กม. 1,000 บาท สังคมตั้งข้อสงสัยค่าใช้จ่ายงานวิ่งมาราธอนเมืองชลบุรี รับยอดรวมกว่า 6.8 ล้าน แต่มอบให้โรงพยาบาลแค่ 5 แสน กลายเป็นคำถามว่าเงินที่เหลือหายไปไหน
ดรามายังไม่จบ! ประธานจัดงานวิ่งยืนยัน อาจารย์ตุ๊ก- ธงชัย เจียรนัย หรืออีกชื่อหนึ่งคือ โชคชัย ก่อการรวด อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจัดวิ่ง จัดการเองทั้งหมด แต่ให้ตนรับผิดชอบเซ็นเอกสารต่างๆ คนเดียว เงินที่ได้มาก็ไม่ได้อยู่ในบัญชีของตน ตนเองไม่ได้เป็นผู้เบิกจ่ายเงิน ทำหน้าที่เป็นเพียงประธานการจัดงานเท่านั้น
กระทั่ง ทหาร-ตำรวจ ได้เข้าปิดล้อมกดดันหน้าบ้านอาจารย์ตุ๊ก ขณะที่เขากำลังเตรียมขนของหนี โดยมีการจ้างรถมาบรรทุก 3 ล้อ มาบรรทุกของซึ่งมีตู้เสื้อผ้า กล่องลังกระดาษที่ห่อมัดไว้กว่า 10 ห่อ หลังจากที่ศาลออกหมายจับ! ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี จึงได้นำตัวอาจารย์ตุ๊ก มาสอบสวนเบื้องต้น โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพฤติการณ์หลบหนี
มีรายงานว่า จากการสอบสวนทาง อาจารย์ตุ๊ก ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดรายจ่ายทางการเงินได้และให้การปฏิเสธ พร้อมทั้งระบุว่าจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น
ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นในประเด็นร้อนนี้ด้วยว่า
" ให้การชั้นศาล" เท่ากับ ไม่พร้อมพูดความจริงตอนนี้ 555 ถ้าสุจริตต้องให้การทันที ไม่มีเหตุต้องปิดบัง”
โลกโซเชียลฯ ลุกเป็นไฟแสดงความคิดเห็นถึงการจัดงานวิ่งเพื่อการกุศล ตั้งข้อสงสัย หรืองานวิ่งเพื่อการกุศลไม่มีอยู่จริง แท้จริงคือธุรกิจแอบแฝง?
ด้านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องตามป้ายโฆษณา ที่ทางผู้จัดได้ติดโฆษณาไว้ มาสอบ ในส่วนของสมาคมกีฬาได้แจงว่าทางชมรมเดินวิ่ง ได้มาขอใช้สัญลักษณ์จึงอนุญาต ส่วนสโมสรไลออนส์ แจงว่า เนื่องจากสโมสรไลออนส์ เป็นองค์กร เพื่อการกุศล เมื่อมีการประสานมาทางสโมสร จึงได้ร่วมบริจาค ช่วยหาสปอนเซอร์ และสนับสนุนในด้านต่างๆ แต่ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินบริจาคทั้งหมด
ซึ่งในส่วนของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา นายแพทย์สุริยา โปร่งน้ำใจ ผู้อำนวยการ ได้ออกมาแถลงกับสื่อมวลชน โดยยืนยันว่า โรงพยาบาลได้รับเงินจำนวน 549,414.89 บาท และเงินที่ประชาชนบริจาคจากการประชาสัมพันธ์ อีกเป็นจำนวน 456,100 บาท รวมเงินที่โรงพยาบาลได้รับทั้งหมดแค่ 1,005,514.89 บาท
สวมชื่อคนตาย ฉ้อโกง คดีเพียบ
แฉ! สองผัวเมียอมเงินวิ่งมาราธอน สามีเป็นบุคคลล้มละลาย ส่วนภรรยายังหลบหนีหมายจับหลายท้องที่ ตั้งข้อหา “ฉ้อโกง” ค้านประกัน เนื่องจากมีพฤติกรรมหลบหนี สืบสวนเพิ่ม หากบุคคลใดมีเอี่ยวไม่ปล่อยไว้แน่
อึ้ง! จากการตรวจสอบ เลขบัตรประชาชน 13 หลัก ยังพบว่าอาจารย์ตุ๊ก หรือในชื่อธงชัย เจียรนัย ยังเป็นชื่อของบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว หรือเป็นการสวมชื่อคนตายนั้นเอง ทั้งนี้ ยังไม่ทราบว่า ที่แท้จริง”อาจารย์ตุ๊ก” เป็นใครกันแน่
จากการตรวจสอบประวัติ ธงชัย พบว่าถูกศาลฟ้องล้มละลาย ขณะที่ทางภรรยาของธงชัยเอง ก็มีหมายจับค้างเก่าตั้งแต่ปี 2555 ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะทำการสืบเส้นทางการเงินของเงินบริจาควิ่งการกุศลครั้งนี้ทั้งหมด หากไปเกี่ยวข้องกับใครก็จะถูกดำเนินคดีทั้งหมด
"ผมจะเอาเรื่องถึงที่สุด และขอให้ผู้ที่ร่วมวิ่งการกุศลออกมาแจ้งความทุกคน ใกล้ที่ไหนก็ไปแจ้งที่นั้น จากการที่ตำรวจตรวจสอบชื่อ-นามสกุลอาจารย์ตุ๊ก ทราบว่าไม่มีในสารบบของทะเบียนราษฎร" วินัย พ้นภัยพาล กำนันตำบลเสม็ด หนึ่งในผู้เสียหายเนื่องจากได้บริจาคเงินช่วยการกุศลจำนวน 50,000 บาท ร้านอาหารฟรี 10,000 บาท รวม 60,000 บาท และได้ไปร่วมเปิดงานด้วย กล่าว
อย่างไรก็ตาม เหตุที่หลายคนมักเรียกว่า อาจารย์ตุ๊ก เป็นแค่สรรพนามที่กลุ่มนักวิ่งในชมรมเดินวิ่งสวนหลวง ร.9 ชลบุรี ให้เกียรติจนมีการเรียกติดปากมาหลายปีเท่านั้น โดยที่เขามิได้เป็นครูบาอาจารย์แต่อย่างใด
นอกจากนี้ อดีตเหรัญญิกได้ออกมา แฉ! ยอดเงินค่าสมัครงานวิ่งฉาวได้ 8.2 ล้านบาท แต่ออกสื่อว่าได้ 6.8 ล้านบาท! จับพิรุธ ใช้เงินไม่โปร่งใส
จารึก สุขปรอด อดีตเหรัญญิก ชมรมเดิน-วิ่ง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ อาจารย์ตุ๊ก และภรรยา ได้มาขอให้ตนเปิดบัญชีธนาคารเพื่อให้คนโอนเงินค่าสมัครวิ่งเข้ามา พร้อมอ้างว่า เปิดบัญชีในนามชมรมไม่ได้เพราะยังไม่ได้ทำการจดทะเบียนชมรม ตนเห็นว่าเป็นงานบุญ ไม่น่ามีปัญหาจึงยอมเปิดบัญชี พร้อมทำบัตรเอทีเอ็ม
จากนั้น อาจารย์ตุ๊ก ก็เก็บสมุดบัญชี พร้อมบัตรเอทีเอ็มไป โดยที่ตนยังไม่เคยรู้เห็นยอดเงินเข้าออกบัญชีเลย กระทั่งต่อมาตนเห็นความไม่ชอบมาพากล ไม่โปร่งใสในการใช้เงิน ตนจึงขอถอนตัวออกจากการทำงาน พร้อมเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวิ่งครั้งนี้
พร้อมทั้งเห็นว่ามีกระแสข่าวเรื่องเงินมากมาย จึงลองไปเช็คยอดเงินรายได้จากสเตตเมนต์ธนาคาร พบว่ามียอดเงินเข้าอยู่ประมาณ 8.2 ล้านบาท ซึ่งไม่ตรงกับที่มีการแถลงชี้แจงไปก่อนหน้านี้ ว่ามีรายได้ประมาณ 6.8 ล้าน ซึ่งตนก็ได้มอบเอกสารหลักฐานดังกล่าวให้กับผู้ใหญ่ของจังหวัดท่านหนึ่งไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไพบูลย์ แย้มเอม ประธานสภาทนายความจังหวัดชลบุรี ในฐานะคณะกรรมการผู้ไกล่เกลี่ย ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี เผยว่า ขณะนี้ยังตัดสินใครผิดใครถูกไม่ได้ และตนก็ไม่ว่าใครผิด เพียงแต่บอกว่า หากมีผู้ร้องทุกข์ไปแจ้งความ ก็จะมีความผิดฉ้อโกงประชาชน และผู้ที่จะแจ้งความได้ ก็คือผู้ที่เข้าร่วมวิ่งการกุศล หรือผู้เสียหาย โดยสามารถไปแจ้งความได้ที่ สภ.พื้นที่เกิดเหตุ เช่น สภ.แสนสุข สภ.เสม็ด และ สภ.เมืองชลบุรี
งานนี้คงต้องดูกันต่อไป ว่าจะเป็นการกระทำของคนเพียงคนเดียว หรือส่งต่อกันเป็นขบวนการอย่างที่หลายคนตั้งข้อสงสัย?
โดย ทีมข่าว MGR Live