ยุทธจักรสะเทือน ! เหลือไว้แต่เพียงความทรงจำ ปิดตำนานนิยายกำลังภายใน 15 เรื่อง น.นพรัตน์นักแปลชื่อดังร่วมรำลึก ชี้ไม่มีนักเขียนคนไหนสามารถประสบความสำเร็จได้เท่านี้แล้ว! เช่นเดียวกับแฟนพันธุ์แท้กิมย้งชี้หลายผลงานที่เขาสร้างส ะท้อนสังคมที่แท้จริง กลับมาอ่านทีไรสะท้อนตัวเองทุกที
17ปี 15เรื่องประสบความสำเร็จถล่มทลาย
“ไม่มีความบันเทิงสิ่งไหนสามารถทดแทนได้ สิ่งที่สอดแทรกในผลงานของกิมย้ง คือสิ่งที่เกี่ยวกับคุณธรรม เกี่ยวกับความรักชาติ เกี่ยวกับความรักในเกียรติภูมิ และคุณธรรม น้ำมิตรอีกหลากหลาย”
นี่คือคำพูดสั่นเครือของ น.นพรัตน์ นักแปลนิยายจีนชื่อดัง ผู้เป็นนักแปลนิยายทั้งหมดของกิมย้ง หรือจา เลี้ยงย้ง เจ้าของผลงานนิยายกำลังภายในระดับตำนานมากมาย โดยให้สัมภาษณ์ผ่านปลายสายว่า รู้สึกเศร้าสะเทือนใจหลังจากรับข่าวว่าเขาเสียชีวิต เพราะตนเป็นผู้ที่แปลนิยายของท่านทุกเล่ม และได้ติดตามผลงานของท่านตลอดเสมอ รู้สึกดีใจครั้งหนึ่งเคยได้เจอ และมีโอกาสได้ขอลายเซ็นด้วยตัวเอง
[น.นพรัตน์]
“เป็นธรรมดา รู้สึกเศร้าสะเทือน เพราะว่าผมก็แปลของท่านมาทั้งหมดทุกเรื่อง แล้วก็เคยมีโอกาสเคยได้สัมผัสมือกับท่าน แล้วก็ขอลายเซ็นท่านมาครั้งหนึ่งในงานบุ๊กแฟร์ที่ไต้หวัน ติดตามท่านก็ได้ทราบว่าท่านไม่ได้ปรากฏตัวในสาธารณะชนมา 2 ปีแล้ว หลังจากเสียท่านไป ไม่มีนักเขียนคนไหนที่สามารถประสบความสำเร็จเช่นท่านแล้ว”
ขณะที่สื่อจีนมีการรายงานว่ากิมย้ง ได้เสียชีวิตในวัย94ปี ซึ่งเขาได้เขียนนิยายกำลังภายในเพียง 15 เรื่อง จอมใจจอมยุทธ์ (1955) ,กระบี่เลือดเขียว (1956) ,มังกรหยก ภาค 1 ก๊วยเจ๋งยอดวีรบุรุษ (1957) ,จิ้งจอกภูเขาหิมะ (1959) ,มังกรหยก ภาค 2 เอี้ยก่วยเจ้าอินทรี (1959) ,จิ้งจอกอหังการ (1960),เทพธิดาม้าขาว (1961) ,ดาบนกเป็ดน้า (1961), มังกรหยก ภาค 3 ดาบมังกรหยก (1961),กระบี่ใจพิสุทธิ์ (1963) ,มังกรทลายฟ้า (1963) ,กระบี่เย้ยยุทธจักร (1966),แปดเทพอสูรมังกรฟ้า (1967) ,กระบี่นางพญา (1969) ,อุ้ยเสี่ยวป้อ (1970)
ในช่วง 17 ปีคือระหว่างปี 2498-2515 จากนั้นก็ไม่ได้ผลิตงานเขียนใหม่ๆอีกเลย เพียงแต่แก้ไขปรับปรุงผลงานเดิมให้สมบูรณ์ขึ้น แต่ผลงานก็ยังคงได้รับความนิยม และมักถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ เช่นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย เมียนมา รวมถึงในไทย
ทั้งนี้ กิมย้งมักเขียนนิยายโดยแฝงเนื้อหาทางการเมือง โดยเฉพาะการวิจารณ์ระบบกษัตริย์ พรรคคอมมิวนิสต์ และลัทธิเชื้อชาติฮั่นเป็นใหญ่ รวมไปถึงแฝงไปด้วยคุณธรรมที่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา คือไตรภาคชุดมังกรหยก ซึ่งผลงานของเขายังถูกดัดแปลงเป็นทั้งซีรีส์ และภาพยนตร์ มาแล้วเรื่องละหลาย ๆ รอบ
อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าท่านจะเสียชีวิตลงไป แต่ผลงานที่ได้สร้าง และเขียนก็เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อ่านและนักเขียน ที่ได้ติดตามผลงานต่อไป รวมไปถึง น.นพรัตน์ นักแปลนิยายชื่อดังที่ได้รู้สึกได้รับอิทธิพลจากกิมย้งเช่นกัน
“อย่างน้อยๆ ก็มีอิทธิพลต่อผมพอสมควร อย่างน้อยก็ตัวละครชื่อ "เล่งฮู้ชงเนี่ย” เป็นแบบอย่างที่ให้ความรู้สึกว่าไม่ต้องเสาะแสวงหา ไม่ต้องต่อสู้ดิ้นรนอะไรไปก็ปล่อยให้เป็นไปตามชะตาชีวิต คือแปล “เล่งฮู้ชง” ผมแปลตั้งแต่ปีพ.ศ.2511 เพราะฉะนั้นมันก็เป็นอิทธิพลต่อตัวเองตลอดมาครับ
เนื่องจากว่าระยะหลังที่ผมแปลเอง ก็มีความรู้สึกว่าจีนแผ่นดินใหญ่ที่เขียนอยู่ขณะนี้ ไม่สามารถบรรลุขั้นที่พูดถึงได้เลย อย่างน้อยๆ ก็คือคำว่าคุณธรรมเริ่มเลือนหายไปจากจิตใจคน ก็อาจจะเป็นเพราะว่าสภาพบ้านเมืองในปัจจุบันมันต่างจากสมัยนู้น
ในฐานะที่เป็นคนเก่า ถือเป็นคนแก่คนหนึ่ง ก็โหยหาสิ่งที่มันขาดหายไปอยู่ ถ้าครั้งไหนที่รู้สึกว่าข้างในคุณธรรมตัวเองขาดตกบกพร่องก็จะหันกลับไปอ่าน ทบทวน ผลงานของท่านเสมอครับ
เสน่ห์ปลายปากกา อ.กิมย้ง จากปากแฟนพันธุ์แท้
ไม่ต่างจาก การ์ตูน-อภิวัฒน์ สุนันท์ยืนยง แฟนพันธุ์แท้กิมย้ง เปิดเผยว่าเสน่ห์งานเขียนของกิมย้งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ที่หลายคนยกย่อง นิยายที่เขียนจะเป็นเรื่องราวที่อิงประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องราวที่เราสามารถนำไปคิดต่อ ทำต่อ และพูดต่อได้ ไม่ว่ากลับมาอ่านกี่รอบ ความรู้สึก อะไรที่ได้ มันไม่เคยเหมือนเดิมเลย
“ในส่วนผลงานโดยส่วนตัว ผมชอบเรื่อง "กระบี่เย้ยยุทธจักร”เป็นอันดับหนึ่ง เพราะตัวละครแต่ละตัวที่โผล่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นเล่งฮู้ชง ที่มีความทระนงแค่นั้นไม่พอ มีความอิสรเสรี เป็นแนวคิดแบบไม่ได้ยึดติดคำว่าสำนัก ไม่ได้ยึดติดคำว่าฝ่าย แล้วใช้ชีวิตเหมือนเป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าอำนาจหรือว่าอะไรทำอะไรเขาไม่ได้ หรืองักปุ๊กคุ้ง ที่เป็นวิญญูชนจอมปลอมเนี่ย เขาเป็นในลักษณะที่ว่าตัวเขาเองก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จไม่ว่าวิธีการจะชั่วร้าย จะไม่ดีสักขนาดไหนเขาก็ทำ
คนที่อยู่ในโลกปัจจุบันมันมีทุกรูปแบบที่เขียนออกมา หรือคนเก่งที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างยิ่มอั้วเกี้ย คนนี้เก่งมาก อัจฉริยะมากนะครับ แต่เป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองมากๆ มันทำให้รู้สึกว่านิยายเรื่องนี้มันรวบรวมคนหลากหลายรูปแบบที่มีลักษณะนิสัยแตกต่างกัน
[การ์ตูน-อภิวัฒน์ สุนันท์ยืนยง]
ทั้งนี้ในการเขียนมันแฝงไปด้วยกลิ่นอายของภาพของสังคมที่แท้จริง สะท้อนสังคมที่แท้จริงผ่านกำลังภายในโดยไม่ต้องพูดอะไรมาก มันเป็นสัจนิยมที่จะอธิบายในหลายๆครั้ง ในหลายๆเรื่องเหมือนกัน ในความคิดผม ผมเลยรู้สึกว่า อ่าน 10 ครั้ง อ่าน 100 ครั้ง เรื่องนี้ยังไงก็ไม่เหมือนเดิมครับ ความรู้สึกอะไรที่ได้ มันไม่เหมือนเดิมทุกครั้งเลย
ผมว่าความคลาสสิค ความอมตะมันอยู่ตรงนี้มากกว่าว่า เราอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ถ้าอ่าน 10 รอบ อ่าน 100 รอบ เราได้อะไรเหมือนเดิมคนก็อ่านแค่รอบเดียวเท่านั้นแหละครับ แต่ว่าเรื่องไหนที่เราอ่าน 10 รอบได้อะไรใหม่ 10 อย่างตามเวลาที่เรามีชีวิต ตามเวลาที่เราอ่านอยู่ ตามอายุของเรา พัฒนาการของมันเพิ่มขึ้นไป ผมมองว่างานนั้นจะเป็นงานอมตะครับ ซึ่งของกิมย้งสำหรับเรื่องนี้ผมมองว่าชอบที่สุด และรู้สึกแบบนั้นมากที่สุด ไม่ใช่เรื่องอื่นไม่เป็นนะครับ เรื่องอื่นก็เป็นแต่รู้สึกมากที่สุดกับเรื่องนี้ครับ
จากการอ่านผมมองว่า ท่านเป็นคนที่เท่าทันโลก รู้ว่าโลกจริงๆเป็นยังไง เพราะลักษณะของท่าน แน่นอนว่างานท่านไม่ใช่ไม่มีปัญหานะครับ แต่ผมมองว่า ท่านเป็นคนที่เท่าทันโลก และรู้ว่าควรจะใช้ชีวิตในสังคมยังไง คุณธรรมเป็นสิ่งที่จำเป็นครับ แต่บางครั้งถ้าคุณธรรมมากเกินไป แล้วทำให้เราแบบรู้สึกว่าไม่ค่อยโอเค หรือว่าทำให้เราเดือดร้อนมาก แกก็บอกว่าบางทีเราก็ไม่จำเป็นที่จะทำถึงขั้นนั้น เพราะว่าถ้าการที่จะทำให้ตัวเองเดือดร้อนด้วยเนี่ย มันไม่ใช่การมีความสุขที่แท้จริง
เสน่ห์ของอาจารย์กิมย้งเอง 1. ถ้าเป็นคนจีนเขาจะชอบเรื่องราวที่มันมีอิงประวัติศาสตร์ แล้วของท่านเป็นเรื่องราวที่ทำให้เรานำไปคิดต่อ ให้นำไปพูดต่อให้อีกหลายอย่าง ได้อีกหลายเรื่องด้วยเหมือนกัน มันไม่ใช่แค่นั้นอย่างเดียว จากนั้นตัวละครเอย วิทยายุทธ์เอย ปกติยุคก่อนหน้านั้น วิทยายุทธ์ จะมี2แบบ ไม่อภินิหารเลย ก็เป็นหมัดมวยธรรมดา ไม่ได้วิจิตรพิสดาร
แต่ของกิมย้ง มีการปล่อยพลังลมปราณ ลักษณะของพลังลมปราณเป็นยังไง มีการใช้อาวุธ มีอาวุธพิเศษ มีพลังลมปราณที่อยู่ข้างในสะสมออกมาเป็นพลังเย็น พลังร้อน อะไรทำนองนี้ครับ เลยทำให้กิมย้งเป็นที่สนใจ และทุกคนรู้จัก เหมือนการแบ่งแยก4ทิศ เขาก็เหมือนกับว่าเป็นหนึ่งในต้นฉบับนิยายกำลังภายในยุคหลังๆ ว่าเขียนต้องเป็นอย่างนี้
2. เวลาท่านทำในลักษณะพล็อตเรื่องย่อย ท่านทำได้ดี เช่นเรื่องของพวก 4ทิศ ทุกคนมีพื้นหลัง ซึ่งพื้นหลังแต่ละคนจริงๆสามารถเอามาทำนิยายของทุกคนจริงๆ สามารถเอามาทำนิยายเรื่องหนึ่งได้เลย แล้วท่านก็เอามาต่อเนื่องได้อย่างภูษาฟ้าไร้ตะเข็บอะครับ ถ้าเป็นเสน่ห์ของท่านผมมองว่า การรวมสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นความตะวันตก ความเป็นสมัยใหม่ แล้วก็ความคลาสสิก แล้วก็มีแนวคิดของสัจนิยมมาด้วยครับ”
เมื่อทราบข่าวเกี่ยวกับเรื่องของการเสียชีวิต เพื่อความชัวร์ตนได้เช็กข่าวหลายทาง ทั้งถามเพื่อนที่อยู่ประเทศจีน และฮ่องกง เมื่อรู้ว่าข่าวเป็นเรื่องจริง รู้สึกว่าแรงบันดาลใจมันหายไป เพราะกิมย้งเองเป็นแรงบันดาลใจหลายๆ อย่าง หล่อหลอมให้เป็นเขาทุกวันนี้ ทั้งการเริ่มเขียนหนังสือ และการใช้ชีวิต
“พอเช็กแล้วชัวร์แล้ว เราก็ตกใจครับ จริงๆแล้วด้วยความที่ว่า ผมอ่านนิยายกิมย้งตั้งแต่เด็กๆเลย ทีนี้หลายสิ่งหลายๆ อย่างก็ได้หล่อหลอมตัวผมขึ้นมาเหมือนกัน มันเลยทำให้รู้สึกว่า มันเหมือนแรงบันดาลใจหลายๆ อย่างมันหายไป แรงบันดาลใจหลายๆ อย่างมันทำให้รู้สึกว่า เฮ้ย! inspiration ของเราเนี่ยจะติดขัดหลายๆอย่างในทำนองนั้นมากกว่า
นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ต และเพจต่างๆได้ออกมาแสดงความเสียใจ และร่วมระลึกถึงความสามารถที่กิมย้งได้เป็นคนเขียนจำนวนมาก
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Wit Sittivaekin" ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจ ที่นักเขียนคนที่เขาชื่นชอบได้เสียชีวิต โดยมีข้อความว่า กิมย้งไม่เพียงแต่เป็นนักแต่งหนังสือชาวฮ่องกง แต่ยังเป็นนักประวัติศาสตร์อินเตอร์ที่เคยพูดถึงความเกี่ยวพันของประวัติศาสตร์ จีนและยุโรป ที่เน้นไปที่ปี1844 ผลงานของเขายังคงอยู่ไม่เพียงทศวรรษ แต่อาจจะเป็นหลายทศวรรษ หรือแม้แต่เป็นศตวรรษ ก็ได้
สอดคล้องกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Kornkit Disthan” ก็ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งชาวโซเชียลฯ ต่างให้ความสนใจ จนมีคนแชร์ถึง4,394คน โดยได้โพสต์ว่านิยายของกิมย้งสะท้อนถึงวิญญูชนจอมปลอมเอาไว้ไม่น้อย เพื่อตักเตือนผู้อ่านให้คอยระแวดระวัง เพราะในขณะที่สังคมยกย่องความดีงาม ความชั่วช้าก็อำพรางตัวอย่างแนบเนียนอยู่ในนั้น
ทั้งนี้เจ้าของโพสต์เพิ่งคุยกับเพื่อนในงานมหกรรมหนังสือเรื่องของเขา และงานของเขา และพูดกับเพื่อนในวงการนักเขียนว่า กิมย้งแกเป็นอมตะ เพราะเขาอายุยืนมาก ไม่กี่วันต่อมาเขาจากโลกนี้ไปเสียได้ ในวัย 94 ปี จำได้ว่า ตอนที่เกิดสึนามิบ้านเรา กิมย้งมาเที่ยวภูเก็ต ตอนนั้นก็สูงวัยมากแล้ว แต่ยังเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติมาได้ และมีชีวิตยืนยาวนาน นับว่าเป็นแมวเก้าชีวิตคนหนึ่ง