เชเกวารา (CheGuevara หรือชื่อจริงErnestoRafael Guevara de la Serna) นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่แห่งละตินอเมริกาเขา เกิดเมื่อวันที่ 14มิถุนายน2471เป็นลูกครึ่งไอริช-สเปนเกิดในครอบครัวชนชั้นกลางแห่งเมืองโรซาริโอ(Rosario)ประเทศอาร์เจนตินาเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยบูเอโนสไอเรส(Universityof Buenos Aires)
ตอนที่เรียนอยู่ปีสุดท้ายเขากับเพื่อนอัลเบอร์โต กรานาโด (AlbertoGranado) ได้ขี่มอร์เตอร์ไซค์(Norton1939, 500 cc.) ท่องเที่ยวไปทั่วแถบละตินอเมริกาทำให้เขาได้พบเห็นความยากลำบากของผู้คนในชนบทความยากจนการเอารัดเอาเปรียบและการกดขี่ข่มเหงที่เลวร้ายล้วนแต่มีสาเหตุมาจากความแตกต่างทางชนชั้นและรัฐบาลเผด็จการ
(บันทึกการเดินทางในครั้งนี้ได้รับการตีพิมพ์แปลเป็นภาษาอังกฤษในปี 2539และสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2547ในชื่อเดียวกันว่าTheMotorcycle Diaries)แล้วการเดินทางครั้งนี้ก็ได้เปลี่ยนชีวิตของว่าที่นายแพทย์หนุ่มอนาคตไกลให้กลายเป็นนักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา
เชตัดสินใจทิ้งเสื้อกราวน์และอนาคตในเส้นทางการเป็นแพทย์ของเขาเพื่อเข้าร่วมกับขบวนการปฏิวัติในประเทศต่างๆ จนได้พบกับ ฟิเดล คาสโตร(FidelCastro) ที่ประเทศแม็กซิโก ในปี 2498ร่วมกันก่อตั้งกลุ่ม"26thof July Movement”
หลังจากนั้นเข้าปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลเผด็จการของประเทศคิวบาได้สำเร็จในปี2502คาสโตรขึ้นเป็นประธานาธิบดี ส่วนเช ได้เป็นรัฐมนตรีดูแลนโยบายด้านการเงินการคลังโดยใช้นโยบายสังคมนิยม-มาร์กซิสม์สะสางปัญหาเศรษฐกิจของคิวบาจนเริ่มฟื้นจากวิกฤติ
เขามักใช้เวลาสุดสัปดาห์อุทิศให้กับการทำงานแบบกรรมกรเช่นการทำงานที่ท่าเรือโรงเลื่อย หรือไร่อ้อย เขาเชื่อว่าการเสียสละเช่นนั้นจำเป็นต่อการเข้าถึงความเป็นคอมมิวนิสต์ที่แท้จริงของสังคม
นอกจากนี้เกวารายังดำรงชีวิตแบบเรียบง่ายเช่นเมื่อตอนที่เขาเข้าร่วมคณะรัฐมนตรีเขาปฏิเสธที่จะรับเงินเดือนเพิ่มโดยขอรับเงินเดิอนเท่ากับที่เขาได้รับตอนที่ยังเป็นผู้บังคับการในกองทัพปฏิวัติการใช้ชีวิตสมถะอย่างเข้มงวดนี้ทำให้เขาปฏิเสธความหรูหราทุกประเภท
ในปี2508เชก็ละจากคิวบาเดินทางไปร่วมปฏิวัติในประเทศต่างๆเช่น คองโก เวเนซูเอลา เปรูเวียดนาม กัวเตมาลาและที่สุดท้ายคือประเทศโบลิเวีย ในที่สุดเชก็ถูกทหารฝ่ายรัฐบาลโบลิเวีย(ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากCIAของสหรัฐอเมริกา)จับกุมตัวได้และยิงเสียชีวิต
ข่าวการตายของเชได้สร้างความเศร้าสลดใจมาให้ชาวละตินอเมริกาอย่างมากหลังจากนั้นเขาก็ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักต่อสู้เพื่อเอกราชสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนหนุ่มสาวต่อสู้กับความอยุติธรรมมาจนถึงทุกวันนี้