นี่แหละหนา..สังคมปากว่าตาขยิบ! เว็บช็อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังขายเกลื่อนสินค้าลามก พลิกแพลงชื่อเรียก “เครื่องนวดคลายเครียด-อุปกรณ์บริหารข้อมือ-เครื่องเขย่าหรรษา-อาหารเสริมปลุกเร้าอารมณ์” ไม่สะท้านกฎหมายไทย ขอพัฒนาการขายสู่ตลาดออนไลน์ยุค 4.0 ไม่ง้อตลาดมืดอีกต่อไป นักกฎหมายชี้ ผิดหลายกระทง อ้าง ไม่รู้ก็ฟังไม่ขึ้น!
“เพิ่มลงรถเข็น-เก็บเงินปลายทาง” สนองเซ็กซ์..นักช็อปออนไลน์!
“เครื่องสั่นสะเทือนขนาดเล็ก สั่นแรงเวอร์ๆ กันน้ำ ทนทาน เสียบแน่น รุ่นนิ้วมายากล สำหรับผู้ที่ต้องการความผ่อนคลาย ปลดปล่อยความเครียด ช่วยเรื่องระบบหมุนเวียนโลหิต ขนาดเล็กพกพาได้ทุก-ที่ทุกเวลา”
นี่หรือเว็บช็อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังอันดับต้นๆ ของประเทศ! 'Lazada' ผุดสินค้าสนองความต้องการทางเพศผิดกฎหมายเพียบ ตอกย้ำภาพลักษณ์ 'สังคมปากว่า แต่ตาขยิบ' ไม่สน-ไม่แคร์แค่อยากขาย อาศัยช่องว่างเว็บออนไลน์กอบโกยเงินเข้ากระเป๋าซะเลย!
จากการตรวจสอบของทีมข่าว MGR Live พบว่า เว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์ชื่อดัง มีการวางจำหน่ายอุปกรณ์ลามกทางเพศอยู่จริง หากค้นหาชื่ออุปกรณ์ 'Sex Toys' กันแบบตรงๆ คงไม่ปรากฏผลการค้นหาเสียง่ายๆ แต่ด้วยเทคนิคอันแพรวพราวของพ่อค้าหัวใส จึงมีการตั้งชื่อสินค้าขึ้นมาใหม่
โดยมีการบิดเบือนคำที่ใช้เรียก 'Sex Toys' เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบว่าเป็น อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อ, กระป๋องนวดผ่อนคลาย, เครื่องเขย่าหรรษา, เครื่องบริหารข้อมือ, เครื่องนวดสำหรับสตรี, เครื่องนวดลูกบอล, ไข่กระโดด รวมไปถึงอาหารเสริมปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศสำหรับผู้ที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศก็มี
ซึ่งสินค้าแต่ละชนิดมีการแฝงตัวอยู่ในหมวดหมู่สุขภาพและความงาม บ้างก็อยู่ในหมวดอุปกรณ์กีฬาสำหรับผู้ชาย บ้างครั้งก็แสดงขึ้นหน้าจอของผู้ใช้งานว่าเป็นสินค้าที่ได้รับการโฆษณา (สินค้าสปอนเซอร์) กันเลยทีเดียว!
ขณะที่แหล่งข่าววงใน 'ปริน' ผู้ใช้บริการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ว่า การซื้อ-ขายสินค้าลามกทางเพศในเว็บออนไลน์มีมานานแล้ว เพียงแต่ที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมาเพราะเป็นการซื้อ-ขายกันในเว็บช็อปปิ้งออนไลน์ชื่อดัง ซึ่งตนมองว่าแม้สินค้าประเภทนี้จะเป็นสินค้าสีเทา แต่ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลหรือรสนิยมทางเพศของคนเฉพาะกลุ่ม
“จริงๆ การซื้อ-ขายเซ็กซ์ทอยในเว็บไซต์ออนไลน์มีมานานแล้ว แต่ที่มาเป็นที่จับตามองคือมันดันมาอยู่ในเว็บช็อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังนี่แหละ แต่ส่วนตัวผมมองว่าการขายของเหล่านี้ก็เป็นไปตามหลักของ Demand (อุปสงค์) และ Supply (อุปทาน) คือตราบใดที่สินค้ายังเป็นที่ต้องการอยู่ ก็ต้องมีคนผลิตออกมาขายอยู่ดี
ยิ่งปัจจุบันการซื้อ-ขายสินค้าในโลกออนไลน์มันง่ายและสะดวกมากขึ้น จากที่คนไม่กล้าไปเลือกซื้อตามตลาดนัด ด้วยความเขินอาย หรือไม่กล้าเปิดเผยตัวตน เว็บช็อปปิ้งตรงนี้ก็ตอบโจทย์ ยิ่งมีระบบตู้กลางสำหรับรับของที่ช่วยเรื่องการสั่งซื้อสินค้าแบบที่ไม่อยากให้ทางบ้านรู้ ก็ยิ่งสะดวกสบายเข้าไปกันใหญ่
ผมว่ามันเป็นรสนิยมทางเพศ สำหรับคนที่นิยมใช้อุปกรณ์ในการมีเซ็กซ์ มันเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่ทุกคนจะสนใจ ถึงเราจะจำกัดเรื่องการขายเซ็กซ์ทอย แต่คนที่ต้องการจริงๆ ก็ยังสามารถใช้อุปกรณ์อย่างอื่นมาประยุกต์ใช้ได้อยู่ดี ผมว่ามันเป็นเรื่องส่วนบุคคลและรสนิยมทางเพศมากกว่า”
สอดคล้องกับ 'ภูวณัฐ สุภาพกุล' ผู้คลุกคลีและใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมากว่า 5 ปี เจ้าของแฟนเพจ 'สุโก้ยโฉะ ฮอกไกโด - Sugoisho Hokkaido' เปิดใจกับทีมข่าวถึงเรื่องเซ็กซ์ทอยในสังคมญี่ปุ่น โดยตนมองว่าเซ็กซ์ทอยเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสุขให้กับคนโสดและคนมีคู่ได้ สำหรับสังคมญี่ปุ่นถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดความเครียดและเยียวยาหัวใจอย่างหนึ่ง
“ที่ประเทศญี่ปุ่นเขาทำงานกันหนักมากครับ เขามองว่าเซ็กซ์เป็นเครื่องมือในการช่วยลดความเครียด และเยียวยาหัวใจได้ ผมว่ามันอยู่นอกเหนือการตีกรอบทางด้านศาสนาแบบประเทศไทย ไม่มีศีลธรรมหรือความเชื่อมาเป็นตัวตัดสินเกี่ยวกับแนวคิดเรื่องเพศศึกษาด้วย
ส่วนเรื่องข้อจำกัดในการซื้อ-ขายเซ็กซ์ทอยของประเทศญี่ปุ่น จะต้องถ่ายบัตรประชาชนส่งให้เขาตรวจสอบว่าอายุถึง 18 ปีแล้วจริงหรือเปล่า ไม่ได้มีข้อจำกัดอย่างอื่นมากมายนัก จึงไม่น่าห่วงว่าเด็กที่มีอายุน้อยจะซื้อสินค้าไปทดลองใช้ก่อนวัยอันควร
ซึ่งสำหรับประเทศไทย ผมอยากให้ถูกกฎหมายนะ แต่คิดว่ามันยังขัดกับแนวคิดคนไทยอยู่ ถ้าเกิดทำให้ถูกต้องขึ้นมาได้จริงๆ อาจมีคนบางส่วนที่ยังไม่เห็นด้วย ผมว่าควรเปลี่ยนแนวคิดคนไทยให้เปิดรับเรื่องแบบนี้ให้มากขึ้นก่อน น่าจะนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายในทางที่ดีได้ในอนาคต”
“เจ้าของเว็บ-ร้านค้า” โดนแน่ คดีอาญา-พ.ร.บ คอมพ์
“ต่อให้คุณจะใช้คำเรียกว่าอะไรก็ตาม แต่กฎหมายเมืองไทยใช้คำว่า 'วัตถุลามก' ในเมื่อมันเข้าข่ายเป็นวัตถุลามก หรือส่อไปในทางเพศ ก็ถือว่าเป็นวัตถุลามกทั้งนั้น”
ทนายความชื่อดัง 'รณรงค์ แก้วเพ็ชร์' เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live หลังต่อสายตรงสอบถามถึงประเด็นเจ้าของเว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์รายใหญ่ มีการวางจำหน่ายอุปกรณ์ลามกอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งเจ้าตัวเผยว่ากรณีข้างต้น ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา นอกจากนี้ยังจ่อถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพ์ ด้วยเช่นกัน
“กรณีนี้ถือว่าผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 เกี่ยวกับเรื่องการค้าวัตถุลามกอนาจาร ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งการที่เว็บไซต์ลาซาด้าเป็นคนขาย ถือว่าเป็นผู้ร่วมในการค้าวัตถุลามกอนาจารด้วยเช่นกัน
ด้าน เจ้าของเว็บไซต์หรือแอดมิน ก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วย ส่วนผู้ที่นำไปฝากขายก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วย จะมาอาศัยช่องว่างทางกฎหมายกรณีไม่รับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะตามกฎหมายระบุชัดเจนว่าผู้ใดเอื้อประโยชน์การค้า ทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องในการค้าก็ดี ซึ่งเซ็กซ์ทอยถือเป็นอุปกรณ์ลามกตามกฎหมายเมืองไทย
ฉะนั้น ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาการค้าวัตถุลามกอนาจารนั่นเอง นอกจากนี้ การนำเซ็กซ์ทอยมาขายทางออนไลน์ ก็ต้องถูกดำเนินคดีในเรื่อง พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (4) ผู้ใดนำเข้าข้อมูลลามกอนาจารในระบบคอมพิวเตอร์ โดยประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท”
ขณะที่ช่องว่างทางกฎหมาย อาจเป็นช่องทางให้เจ้าของเว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์ใช้เหตุผลว่าไม่สามารถตรวจสอบสินค้า จากร้านค้าที่นำสินค้ามาลงขายได้ ถือเป็นเหตุผลที่สมควรในการหลีกเลี่ยงความผิดที่เกิดขึ้นหรือไม่นั้น
ด้านนักกฎหมายตอบข้อสงสัยนี้ว่า ไม่สามารถใช้ข้ออ้างดังกล่าวได้ เนื่องจากเจ้าของแพลตฟอร์มต้องมีหน้าที่หลักในการตรวจสอบสินค้าที่วางขายอย่างไม่มีข้อยกเว้น เพราะตนย่อมมีรายได้จากการขายสินค้าจากร้านค้าด้วยเช่นกัน
“หากมีการใช้ข้ออ้างว่าไม่รู้ว่ามีคนนำมาลงขาย ผมว่ามันฟังไม่ขึ้น เพราะตัวเว็บไซต์เองมีหน้าที่ในการกำกับดูแลสินค้าทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นถ้ามีการนำยาเสพติดมาขาย จะอ้างว่าไม่รู้แล้วไม่ผิดก็คงไม่ได้ เพราะคุณได้กำไร ได้ส่วนแบ่งรายได้จากการขายสินค้าตรงนี้ คุณก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าทางเว็บไซต์ลาซาด้า ยังแข็งขันว่าจะขายวัตถุลามกอนาจารต่อไป ตามกฎหมายไทย รวมถึง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ย่อมมีอำนาจในการสั่งปิดยูเซอร์หรือแอปพลิเคชั่นนั้นๆ ได้
ผมว่ามันเป็นวิธีการที่จะหลบเลี่ยงกฎหมาย ไม่ให้ผู้ซื้อกับผู้ขายรู้ว่าใครเป็นใคร โดยใช้พ่อค้าคนกลางก็คือเว็บลาซาด้าเอง เมื่อไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ซื้อ-ผู้ขายเป็นใคร มันก็ทำให้ตำรวจตามรอยได้ยากขึ้น ถ้าลาซาด้าจะอ้างว่าตนได้ทำการค้าอยู่ที่ต่างประเทศ ไม่ขอให้ข้อมูล ทางเราก็ทำอะไรไม่ได้
เพราะไม่รู้ว่าใครส่งสินค้าให้ ยกเว้นแต่ว่าจะมีการล่อซื้อ ขยายผลว่าสินค้าส่งมาจาก นาย ก. นาย ข. และตามไปหาที่ส่งสินค้าต่อไป ขณะที่ตัวเว็บไซต์ก็ยังลอยนวลอยู่เหมือนเดิม”
แม้สินค้าเซ็กซ์ทอยในสังคมไทยจะยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ก็ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าสินค้าลักษณะนี้ก็ยังเป็นที่ต้องการของบุคคลเฉพาะกลุ่มอยู่ดี สอดคล้องกับแนวคิดของนักกฎหมายที่มองว่า เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพของบุคคล หากไม่ได้ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
“จริงๆ ที่ผมเห็น เว็บไซต์ที่เป็นการขายพวกเซ็กซ์ทอยหรือยาปลุกเซ็กซ์ มันก็ผิดกฎหมายด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันเป็นผู้ค้ารายใหญ่ในโลกออนไลน์มาขายซะเอง มันก็เลยเป็นประเด็น จริงอยู่ที่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะกล้าสั่งปิดหรือไม่ เราคงต้องจริงจังกับเรื่องนี้
ขณะที่มีคนเรียกร้องให้การซื้อ-ขายเซ็กซ์ทอยเป็นเรื่องถูกต้อง ก็ต้องรอให้มีการแก้ไขกฎหมายก่อน ซึ่งตอนนี้สินค้าเหล่านี้ยังผิดกฎหมายอยู่ ส่วนตัวผมว่ามันเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพของคนที่จะเลือกใช้ มันเป็นการนำไปใช้กับร่างกายตัวเอง ไม่ได้ใช้กับร่างกายคนอื่น ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และไม่ได้เป็นของที่เป็นวัตถุอันตรายที่จะครอบครองไม่ได้
เพียงแต่ว่าคนในสังคมจะรับได้หรือเปล่า หากถามว่าในอนาคตการขายสินค้าเหล่านี้ในโลกออนไลน์จะมากขึ้นหรือไม่ ผมมองว่าสินค้าเหล่านี้เป็นหนึ่งในความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ มันก็คงมีต่อไปเรื่อยๆ
ถ้าเราเอาขึ้นมาบนดินและเก็บภาษีให้มันถูกต้องซะ มันอาจจะดีกว่าก็ได้ แต่ถ้าจะไม่ให้ขายก็ต้องไม่ให้ขายกันทั้งหมด ไม่ใช่แค่เฉพาะผู้ค้าออนไลน์รายใหญ่แล้วขายได้ แบบนี้มันเป็นการเอาเปรียบผู้ค้าคนอื่น ด้วยการอาศัยช่องว่างทางกฎหมายมาขาย มันไม่ถูกต้อง”
ข่าวโดย ทีมข่าว MGR Live