เทย์เลอร์ สวิฟต์ การเป็นศิลปินคันทรีและศิลปินป๊อปมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในยุค 3 อัลบั้มแรก Taylor Swift (2006), Fearless (2008) และ Speak Now (2010) เทย์เลอร์ทำเพลงสำหรับฐานแฟนคลับแค่ในสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก แต่พอเข้าอัลบั้ม Red (2012) ที่เธอเริ่มทำเพลงป๊อป เทย์เลอร์ได้พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสมรภูมิเพลงแมสที่ฟังกันทั่วทุกมุมโลก
ซึ่งตัวเม็ดเงินกับชื่อเสียงก็ถือว่าทวีคูณ แล้วอาศัยความเชี่ยวชาญในการวางหมาก จะเห็นได้ว่าตั้งแต่เธอปล่อยผลงานอัลบั้มแรก ในปี 2006 กับซิงเกิล Tim McGraw เราก็ได้เห็นวิวัฒนาการของการเป็นศิลปิน จากสาวคันทรีสุดหวานในชุดพรอมพร้อมกีตาร์ในมือ สู่การเป็นนางพญาสายป๊อป
พอเข้าสู่อัลบั้มลำดับที่ห้าในปี 2014 ที่มาสไตล์ป๊อปอย่างเต็มตัว เทย์เลอร์ กลายเป็นนักการตลาดมือทอง โดยเธอได้ออกมาพูดกับ The Wall Street Journal ว่าผลงานศิลปะไม่ควรฟรี และศิลปินควรได้รับเงินค่าลิขสิทธิ์โดยไม่ถูกเอาเปรียบ เห็นได้ชัดว่าอำนาจของเทย์เลอร์นั้นมหาศาล และมูลค่าในผลงานเธอก็มากขึ้น
ตลอดปี 2017 ก็มีกระแสเล็ดลอดออกมาเป็นระยะว่า เทย์เลอร์กำลังซุ่มทำผลงานใหม่ และถ้าเป็นไปตามเกมเดิมก็จะปล่อยในไตรมาสที่ 3 ช่วงเดือนกันยายน ซึ่งนักวิจารณ์และแฟนเพลงก็รอดูกันว่าเธอจะกลับมาพร้อมภาพลักษณ์แบบไหน จะเอาประเด็นอะไรมาพูดในบทเพลง
หลังจากที่เทย์เลอร์ปล่อยมิวสิกวิดีโอ Look What You Made Me Do เธอยังมีการสวมใส่แหวนเพชรตัวงูและให้แดนเซอร์ใส่เสื้อครอป ‘I (Heart) TS’ ซึ่งไอเท็มเหล่านี้ก็มีการขายในเว็บไซต์ taylorswift.com โดยทันที
เช่นเดียวกับคอนเซปต์ See Now, Buy Now ของวงการแฟชั่น จะเห็นได้ชัดว่าเธอวางเกมการตลาดได้แยบยล ในฉากอ่างอาบน้ำเพชรที่ได้เห็นในมิวสิกวิดีโอ ก็มีแบงก์หนึ่งเหรียญอยู่ด้านขวาของเธอ ซึ่งก็คือจำนวนเงินที่เธอชนะคดีล่วงละเมิดทางเพศ
ถ้าศึกษาดีๆ โจเซฟ ข่าน ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ได้ออกมาทวีตว่า เทย์เลอร์วางแผนเอ็มวีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคม และถ่ายทำในช่วงเดือนพฤษภาคม ตอนนี้พูดได้ว่า เทย์เลอร์ กลับมาท็อปฟอร์มและทวงบัลลังก์เพลงอีกครั้ง และเธอคงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้อัลบั้ม Reputation ถูกจารึกในวงการเพลงว่าได้พลิกวงการอีกครั้ง
