ดรามาแฟนคลับโอปป้าแห่วางของ - แปะกระดาษ จับจองพื้นที่ในสนามบินสุวรรณภูมิล่วงหน้าเป็นวัน รอส่งศิลปินคนโปรดกลับเกาหลีใต้ สังคมตั้งคำถาม แบบนี้ก็ได้เหรอ? จองที่ ในสนามบินนานาชาติ ความสะอาด ระเบียบเรียบร้อย อยุ่ตรงไหน? จวกพฤติกรรมสุดแย่ รบกวนผู้โดยสาร โซเชียลฯตั้งคำถาม จนท.ปล่อยให้ทำอย่างนั้นได้อย่างไร
ตัวไม่อยู่ วางของจองแทน
โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลหลังพบว่า มีแฟนคลับของนักร้องประเทศเกาหลีใต้ได้มารับศิลปินคนโปรดที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ได้ทำการจองพื้นที่ในการยืนรอรับ โดยจากภาพพบว่าเหมือนกับแม่ค้าจองแผงขายของตามข้างถนนไม่มีผิด มีการเอาสกอตเทปมาแปะตามพื้น พร้อมกับกระดาษโน้ตเขียนระบุว่าพื้นที่ว่าตรงนี้ทำการจองแล้ว โดยมีเนื้อหามีใจความว่า
“นึกว่ามีงานตลาดนัดในอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิ สกปรกเหลือเกิน การท่าฯ ทำไม่ทำอะไรแม้แต่อย่างเดียว”
นอกจากนี้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกรายได้โพสต์ภาพที่มีการวางหมอนรองคอ จับจองพื้นที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อต้อนรับศิลปินเกาหลี พร้อมข้อความว่า "อยากมีโมเมนต์กับผู้ จนลืมมารยาทไปเลยหรือ สนามบินเอาไว้ให้ผู้โดยสาร ไม่ใช่ติ่งเกาหลี..."
ทั้งนี้ จากการหาข้อมูลพบว่าเป็นการทำการจองต่อๆ กัน หากคนแรกเริ่มทำก็ต้องจองต่อๆ กันไปเพราะกลัวจะได้พื้นที่ไม่ดีในการมองเห็นศิลปินนักร้องคนโปรด
อย่างไรก็ตาม หลากหลายความคิดเห็นตั้งคำถามไปในทิศทางเดียวกันว่า แล้วเจ้าหน้าสนามบินปล่อยให้ทำอย่างนั้นได้อย่างไร จี้ให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในส่วนนี้ควรลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อย และไม่ควรปล่อยให้มีการทำพฤติกรรมแบบนี้ เพราะเป็นพื้นที่สาธารณะ
“เรื่องจองที่ในสนามบิน นอนค้างเอาผ้าห่มมาวางในอาคารนี่เลิกเถอะ สนามบินคือสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด เป็นเขตประตูน่านน้ำน่านฟ้าของประเทศเพื่อรับแขกจากนานาชาติ นี่งงตรงที่เจ้าหน้าที่ปล่อย มันควรกวาดทิ้งและสั่งห้ามไปเลยมั้ย”
"ทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาตรวจสอบ ทำไมถึงปล่อยให้วางของทิ้งไว้แบบนี้ ถ้าเกิดในถุงนั้นมีอุปกรณ์ที่สามารถทำให้เกิดอันตรายได้ คุณจะปล่อยไว้อย่างนี้หรือคะ อย่างนั้นถ้ามีคนไม่มีประสงค์ดีมาแอบอ้างว่ามาดูศิลปินแล้ว ก็จะวางทิ้งไว้ก็ได้สินะคะ"
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก AOT OFFICIAL ของ ทอท. (บริษัท ท่าอากาศยานไทย) รับทราบเรื่องดังกล่าวและได้ตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “จะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและแก้ไขโดยเร็วค่ะ ขออภัยเป็นอย่างสูงในความไม่สะดวกด้วยนะคะ"
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแกะกระดาษดังกล่าวออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ดี หนึ่งในแฟนคลับของศิลปินเค-ป็อป ยังได้แนะนำด้วยว่า อยากให้แฟนคลับทุกคนเคารพกฎของ ทอท.และเคารพความเป็นส่วนตัวของศิลปิน เพื่อที่ว่าเขาได้มองเห็นว่าแฟนคลับคนไทยน่ารัก และพวกเขาจะได้อยากกลับมาอีกครั้ง
“คลั่ง”มาก จนเจอ “คุก”
เรื่องราวของแฟนคลับไทยที่คลั่งไคล้ศิลปินชาวเกาหลีใต้นั้นเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว หากยังจำเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ กรณี 2 สาวใช้เส้นเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพียงเพื่อจับมือ “อีจงซอก”
เป็นเรื่อง! เมื่อสาวแฟนคลับศิลปินเกาหลี โพสต์ในอินสตาแกรมว่า ปลอมตัวเป็น เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้าไปรอรับ “อีจงซอก” นักแสดงหนุ่มชาวเกาหลี ในพื้นที่หวงห้ามของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนถูกแจ้งความดำเนินคดี
โดยวิธีการคือ เจ้าหน้าที่ผู้ชายใช้บัตรพาหญิงสาว 2 ราย ผ่านช่องทางเข้าผู้ติดบัตรอนุญาตคนละจุด ในเวลาไล่เลี่ยกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณจุดผ่าน จากนั้นจึงพาไปรอที่สะพานรอรับกระเป๋าหลังตรวจคนเข้าเมือง โดยสวมใส่ชุดปกติ ไม่ได้เปลี่ยนเป็นชุดศุลกากร แต่ไม่สามารถเข้าไปถึงบริเวณพื้นที่สินค้าหลังจุดตรวจคนเข้าเมืองได้ เพราะจะต้องติดบัตรที่ได้รับอนุญาตและผ่านเครื่องสแกน
กิตติพงศ์ กิตติขจร รอง ผอ.การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ฝากเตือนไปยังผู้ที่ชื่นชอบดารา ศิลปิน ทั้งไทย และต่างประเทศ ควรอยู่รอพบศิลปินในจุดที่ทางท่าอากาศยานจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อความปลอดภัย เพราะหากฝ่าฝืนลักลอบเข้ามาก็จะถูกดำเนินคดีเหมือนกรณีนี้
ทั้งนี้ ทอท.ได้แจ้งความดำเนินคดีหญิงทั้งสองคน ฐานบุกรุกพื้นที่ควบคุมในยามวิกาล ซึ่งเป็นคดีอาญา มีโทษสูง จำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังมีความผิดฐานฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (พ.ร.บ.) พ.ศ.2497 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทอท.พร้อมเอาผิดเจ้าหน้าที่ศุลกากร 2 คน ที่เป็นผู้นำพา 2 แฟนคลับสาวเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม และเจ้าหน้าที่สาวที่ถูกนำบัตรไปใช้ ขณะที่การท่าฯสั่งย้าย จนท.รปภ.ประจำจุดที่ไม่ตรวจสอบ
ทนฟ้า ทนฝน อดทนได้ทุกสถานการณ์
"พวกหนูก็คิดว่าพวกเราผิดอะไร พวกเราไม่ใช่คนเลือกสถานที่ เรามานั่งรอ ยืนรอกันเป็นระเบียบ ใครมายืนออกันอยู่พื้นที่ตรงไหนที่เขาห้ามยืน เราก็ช่วยๆ กันบอกว่าตรงไหนยืนได้ยืนไม่ได้ บอกให้เขานั่งให้เรียบร้อย คือส่วนมากกลุ่มแฟนคลับก็จะรู้ว่าเราต้องอยู่ตรงไหน ทำอะไรบ้าง"
หนึ่งในสาวกแฟนคลับศิลปินเกาหลี แสดงความคิดเห็นในช่วงปรากฏการณ์ห้างแตก! ในวันที่ 8 มีนาคม 2559 ท่ามกลางอากาศร้อน แดดจัด คนเป็นลม นอนรอคิวข้ามคืน เหล่าแฟนคลับศิลปินเกาหลีวง EXO กางร่มสู้แดด รอต้อนรับศิลปิน
งานนี้ที่เป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียลฯ เป็นอย่างมาก เนื่องจาก จส.100 แจ้งให้ชาวกทม.หลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ในวันดังกล่าวตั้งแต่เวลา 15.00 น. ถึง 18.00 น.โดยบรรยากาศขณะที่เหล่าศิลปินวง EXO เดินทางมาโดยรถตู้ก่อนถึงเวทีกิจกรรม ซึ่งระหว่างทางทั้งสองฝั่งตามแนวรั้วที่ทางเจ้าหน้าที่นำมาวางกั้นไว้ มีเหล่าแฟนคลับ พากันส่งเสียงกรี๊ด โบกมือ ก่อนจะเกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย เมื่อแฟนคลับพยายามฝ่าแนวกั้นออกมา เพื่อวิ่งตามรถของศิลปินวง EXO ไปที่เวที กระทั่งบางรายถึงกับหกล้ม
ทว่า หากย้อนไปในปี 2557 ทีม MGR Live เคยลงพื้นที่เก็บความรู้สึกของเหล่าแฟนคลับเมื่อครั้งศิลปิน EXO แถลงข่าวก่อนแสดงคอนเสิร์ต ฟรุ๊ก(ขอสงวนชื่อและนามสกุล) แฟนคลับผู้แอบเขินอายที่ใช้ชื่อกลุ่มตัวเองว่า กลุ่มรักสามี นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เผยว่า ช่วงเช้าตนเองได้ไปที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อดักพบศิลปินเหมือนอย่างเช่นแฟนคลับหลายคนทำ แต่ตัดสินใจกลับมาก่อนเพราะเห็นว่าตรงนั้นมีคนอยู่เยอะเกินไป และคงเข้าไม่ถึงศิลปินที่ตนเองชอบอย่างแน่นอน
“ตื่นเต้นที่จะได้เจอเขา ตื่นเต้นมากที่จะได้ดูการแสดงในวันพรุ่งนี้ด้วย หนูมาที่นี่ก็ตั้งแต่เที่ยง ว่าจะอยู่รอไปเรื่อยๆ โชคดีที่วันนี้โรงเรียนหนูหยุดพอดีเป็นวันกิจกรรมสานสัมพันธ์ก็เลยมาได้ พวกเขามาครั้งนี้หนูก็ซื้อบัตรสำหรับทั้ง 2 รอบเลย ราคา 6,000 บาททั้ง 2 วัน”
นอกจากนี้ ยังมีปากคำจากหัวอกพ่อที่พาลูกสาวเข้ากรุงเทพฯ เพื่อดูวงเกาหลีดังกล่าว ซึ่งนี่คือการเข้ากรุงเทพฯ ครั้งแรก!
คุณพ่อซึ่งเป็นทหารประจำพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ยิ้มขำๆ ก่อนส่ายหน้าพร้อมบอก ตนไม่รู้จักศิลปินทั้ง 12 คนนี้เลย แต่ลูกสาวชอบมาก เขามาที่นี่ก็เพื่อลูกสาว
“พูดไปคนก็อาจจะไม่เข้าใจนะ ถ้าผมไปบอกใครว่าซื้อตั๋วคอนเสิร์ตให้ลูก 4,500 บาท ผมมีรายได้แค่นี้จะกินอะไรยังไม่ได้เลย แต่กลับมาใช้เงินแบบนี้คนอื่นคงไม่เข้าใจ แต่ลูกผมเรียนหนักมาก วันหยุดเสาร์-อาทิตย์เขาไม่เคยได้หยุด เรียนพิเศษตลอด ชั่วโมงพักต่อชั่วโมงเรียน เขารักษาผลการเรียนได้อย่างดีไม่เคยตก แล้วเราเป็นพ่อจะไม่ตอบแทนเขาหน่อยเหรอ”