xs
xsm
sm
md
lg

"เอลกลาซิโก" จุดเริ่มต้นแห่งความเกลียดชัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
นอกเหนือจากนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกแล้ว เอลกลาซีโก ถือว่าเป็นนัดการแข่งขันฟุตบอลสโมสรที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก โดยมีผู้ชมในการแข่งขันแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยล้านคน

เอลกลาซีโก เป็นการดวลแข้งระหว่างสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดกับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา โดยจัดแข่งขันกันปีละ 2 ครั้งโดยจะเจอในการแข่งลาลีกา และอาจจะเจอมากกว่านั้นหากต้องเจอกันในการแข่งขันอื่น

สำหรับ เอลกลาซีโก นั้นหากจะบอกว่าเป็นการแข่งขันที่มีการเมืองมาเกี่ยวข้องด้วยก็คงไม่ผิด ทั้งสองเมืองไม่ว่าจะเป็นมาดริดหรือบาร์เซโลน่าถือว่าเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในสเปน สโมสรฟุตบอลของทั้งคู่รวยที่สุดและประสบความสำเร็จที่สุดในประเทศ โดย เรอัลมาดริดเป็นตัวแทนของชาวสเปน ส่วนบาร์เซโลนาเป็นตัวแทนของชาวกาตาลุญญา

หากใครดูบอลอย่างเป็นประจำก็จะรู้ว่าการเตะใน เอลกลาซีโก นั้นไม่เพียงจะเป็นเรื่องแพ้ชนะอย่างกีฬาทั่วไป ยังแฝงถึงศักดิ์ศรีของทั้งสองเมืองอย่างแท้จริง

เรื่องราวนั้นเกิดมาในสมัยสงครามการเมืองของสเปน นายพลฟรานซิสโก้ ฟรังโก้ เข้ามาบริหารพร้อมกับนโยบาย สเปนหนึ่งเดียว โดยหวังที่จะรวมทุกแคว้นให้เป็นสเปนเท่านั้น และให้แคว้นกาสตีย่าเป็นศูนย์กลางโดยกาสตีย่านั้นมีเมืองมาดริดเป็นเมืองหลวงอยู่ในขณะนั้น

 
นโยบายที่ฟรังโก้นำเข้ามาใช้รวมถึงวิธีการถือว่าค่อนข้างเลวร้าย มีทั้งการข่มเหงประชาชน ลดสิทธิและเสรีภาพ ห้ามพูดภาษาท้องถิ่น ทำให้ชาวกาตาลุญญาไม่พอใจและลุกขึ้นประท้วง

ปี 1936 โฆเซป ซูโยล อดีตประธานสโมสรของบาร์เซโลน่าถูกลอบสังหารโดยทีมงานของฟรังโก้ และส่งคนของตนเข้ามาบริหารสโมสรนี้จนเกือบสิ้นชื่อ สร้างความอัดอั้นตันใจให้กับชาวกาตาลุญญามาก สุดท้ายได้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินจากประเทศเม็กซิโก ทำให้สโมสรกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง

ส่วนเรอัลมาดริดก็ถูกตราหน้าว่าเป็นทีมรัฐบาลเพราะทีมได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษจากนายพลฟรังโก้ นักเตะที่ย้ายเข้าย้ายออกก็จะไม่ถูกต้อนรับ

ปัจจุบัน แม้ว่านายพลฟรังโก้จะเสียชีวิตแล้ว แต่เรื่องราวการเมืองอันเข้มข้นนี้ยังไม่จบลง แคว้นกาตาลุญญาก็ยังคงเกลียดสเปนและยังทำเรื่องขอแยกประเทศอยู่ ทำให้ทั้งสองทีมเวลาลงเตะกัน เล่นกันอย่างรุนแรงตลอดมา แต่ถ้ามองในมุมของคนเชียร์ฟุตบอล เอลกลาซิโกเป็นการแข่งขันที่สนุกมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น