ไร้จรรยาบรรณแพทย์สุดๆ แพทย์เขียนข้อความบนฉลาก “มารดาเด็กโพสต์ด่าเจ้าหน้าที่” สาวโพสต์ถามนี่ฉลากยาหรือป้ายประจาน? สังคมตั้งคำถามแม่ไปแผลงฤทธิ์ก่อนหรือเปล่า กูรูฟันธงเปิดเผยข้อมูลแบบนี้ผิดกฎหมาย!!
แฉ รพ.ดังติดฉลากยาแบบนี้ก็ได้เหรอ?
[ฉลากยา]
กลายเป็นเรื่องเมื่อแพทย์โรงพยาบาลดังใน จ.ปราจีนบุรี ใช้ฉลากยาเขียนประจานคนไข้ว่า “มารดาเด็กโพสต์ด่าเจ้าหน้าที่” ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแม่คนนี้ไปใช้บริการที่โรงพยาบาลแล้วโพสต์ด่าลงเฟซบุ๊ก แต่ล่าสุดพอมารับยาหมออีกครั้ง กลายประเด็นขึ้นมา เมื่อผู้ป่วยตั้งคำถามว่าทำไมต้องเขียนฉลากอย่างนี้ แค่เคยไปโพสต์ด่าโรงพยาบาลเอง
“ขอข้อมูล & รายละเอียดชัดเจนด้วยค่ะ ไม่ได้มีเจตนาที่จะประจาน แต่ลงประวัติแบบนี้เพื่ออะไรคะ ใครสามารถให้ข้อมูลได้บ้างคะ”
[โพสต์ของแม่ผู้ป่วย จนทำให้เป็นประเด็นร้อนขณะนี้]
ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกส่งต่อกันไปบนโลกออนไลน์ ล่าสุดทางโรงพยาบาลได้ออกมาขอโทษ โดยให้ข้อมูลว่าเป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเจ้าหน้าที่ ที่ทำลงไปเพราะหวังดีอยากให้เจ้าที่บริการให้ดีที่สุด
[คำขอโทษของทางโรงพยาบาล]
“กรณีที่ฉลากยาระบุว่า มารดาโพสต์ด่าเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำให้มารดาของผู้ป่วยเกิดความไม่พึงพอใจ และสงสัยในเจตนานั้นทางโรงพยาบาลขอชี้แจงว่า เป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเจ้าหน้าที่ หวังดีไประบุข้อความวงเล็บหลังชื่อผู้ป่วยว่ามารดาโพสต์ด่าเจ้าหน้าที่นั้น เพื่อจะเฝ้าระวังในการบริการในครั้งต่อไปเพื่อจะบริการให้ดีที่สุด ไม่มีเจตนาอื่นใด”
สอดคล้องกับ เพจ Drama-addict ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในด้านโซเชียลฯ ได้ออกมาโพสต์ถึงกรณีนี้เช่นเดียวกัน
“ไม่ทราบว่าก่อนนี้เขาดรามาหรือทะเลาะอะไรกัน แต่ตามหลักคือ บนฉลากยามีไว้เพื่อบันทึกข้อมูลยาเพื่อประโยชน์คนไข้ ไม่ได้มีไว้ทำอะไรแบบนี้ ต่อให้ไม่พอใจอะไรยังไง คนที่เป็นมืออาชีพไม่ทำแบบนี้ครับ แนะนำคุณแม่เจ้าของเรื่อง ให้ทำเรื่องร้องเรียนไปที่ผู้บริหารของโรงพยาบาลเพื่อตั้งเรื่องสอบ จนท.ที่เกี่ยวข้องกับฉลากยาชุดนี้ครับ”
[ความคิดเห็นทางด้านโซเชียลฯ]
ขณะที่ด้านโซเชียลฯ ถึงกับเสียงแตกออกเป็นหลายมุม บ้างก็รู้สึกสงสารแพทย์คนนั้น สงสัยโดนแม่คนนี้ด่ามาเยอะ แต่อีกมุมหนึ่งเห็นว่าสิ่งที่เธอทำมันผิดจรรยาของแพทย์ ควรแยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
“ลึกๆ ก็สงสารเภสัชกรประจำห้องจ่ายยา สงสัยอีแม่เด็กคงจะแผลงฤทธิ์ไว้เยอะ คงสุดจะทนแล้วล่ะที่ทำแบบนี้ แต่ถึงยังไงก็ไม่สมควร ยิ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐ เป็นหน่วยงานราชการด้วย ไม่ควรจะไปเป็นศัตรูคู่ขัดแย้งกับประชาชน
ผมเคยมีแฟนเป็นพยาบาล และผมก็เคยเป็นคนไข้ครับ ไม่ได้เข้าข้างพยาบาล หรือหมอนะ แต่คนไข้บางคนก็น่าเอาตีนเตะหน้าเหลือเกิน
แย่มากเลยค่ะ ทำไมทำกันแบบนี้คุณเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลนะต้องให้บริการคนไข้แต่ไม่ใช่บริการแบบนี้
เอาเรื่องให้ถึงที่สุดค่ะ อย่ายอม ไม่มีจรรยาบรรณ เสียมารยาท”
กูรูชี้ผิด พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ
หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าแพทย์เปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยบนฉลากยาผิดกฎหมายหรือไม่เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนทาง ทีมข่าวผู้จัดการ Live จึงได้ติดต่อสัมภาษณ์ไปยัง ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ซึ่งได้เปิดเผยข้อมูลแนวทางกฎหมายว่า เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 หรือ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของผู้ป่วยได้ไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม สามารถเรียกร้องได้หากทำให้เสียหาย
[ทนายเกิดผล แก้วเกิด]
“ผิดตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาตินะครับ จริงๆ ข้อมูลทางฉลากยานั้นต้องบ่งบอกข้อมูลทางยา มันต้องบอกว่าเป็นยาอะไร ยานั้นต้องบ่งบอกว่ารักษาอะไร ทางกฎหมายมีข้อห้าม คือ การเปิดเผยข้อมูลผู้ป่วย มันมีโทษจำคุกสำหรับผู้ที่เปิดเผยข้อมูลของผู้ป่วยนะครับ ในส่วนของความเสียหายมันขึ้นอยู่กับว่าในทางเด็ก, ผู้ป่วย หรือผู้ปกครอง ได้รับความเสียหายอะไร ถ้าไม่ได้เสียหายอะไร หรือ เสียหายแต่ไม่สามารถคำนวณเป็นเงินได้ก็พูดยาก ก็อาจจะพูดมาว่าให้รับผิดชอบอย่างไรมากกว่า ต้องการให้รับผิดชอบอะไรมากกว่า บุคลากรโรงพยาบาลทำผิดพลาดแบบนี้ นอกจากถูกลงโทษทางวินัยในฐานะที่เป็นข้าราชการที่ละเลย หรือประมาทเลินเล่อ ก็อาจจะต้องรับผิดทางอาญา ทางอาญาคือ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ หรือฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการละเว้นปฏิบัติการโดยมิชอบ”
เมื่อถามถึงกรณีโดนรุกล้ำ หรือมีเหตุทะเลาะวิวาทมีกฎหมายคุ้มครองทั้งแพทย์และผู้ปกครองหรือไม่ แหล่งข่าวคนเดิมได้บอกว่า มันต้องแยกกัน มันคือคนละส่วน ส่วนทะเลาะก็คือส่วนทะเลาะ
“มันต้องแยกกันเนอะ ส่วน พ.ร.บ.สุขภาพคือส่วนหนึ่ง ส่วนที่เป็นปัญหาทะเลาะวิวาทก็ส่วนหนึ่ง ก็ไปว่าทางกฎหมายแพ่งครับ เรียกร้องความเสียหายกันไป ไม่ต้องแยกทีละส่วน ทั้งหมดมันเป็นการคาดการณ์ มันยังไม่เกิดความเสียหายเลยในส่วนตรงนั้น เลยพูดยาก แต่ถ้าเป็นส่วนที่เสียหายล่ะ ก็ไปว่าทีละเรื่องๆ ครับ เสียหายอะไร เสียหายทางชื่อเสียง สภาพจิตใจ หรือร่างกาย บาดเจ็บตรงไหน ต้องให้ความรับผิดชอบอย่างไร หมอจัดยามาผิด หรือจงใจจัดยา อันนั้นมันก็ต้องมาว่าทีละเรื่องครับ”
เพื่อให้ข้อมูลหลายด้านทีมข่าวจึงได้ติดต่อสัมภาษณ์ไปยัง แพทยสภา ว่ามองถึงเรื่องนี้อย่างไร และผิดจรรยาบรรณทางการแพทย์หรือไม่นั้น ซึ่งแพทย์คนดังกล่าวได้บอกกับทีมข่าวว่า ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เพราะไม่ทราบว่าข้อมูลที่แชร์กันในโซเชียลฯ เป็นความจริงหรือเปล่า
“ไม่สามารถออกความคิดเห็นอะไรได้ ตอบยากอะครับ ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ใครๆ ก็สามารถเขียนได้ ตัดต่อได้ ไม่ทราบว่าข้อมูลที่แชร์กันเป็นความจริงหรือเปล่า"