วันที่ 30 กันยายนปี 2016 Myrna Nilsson วัย 57 ปี หญิงชราชาวออสเตรเลียเชื้อสายฟิลิปปินส์ ถูกพบว่านอนเสียชีวิตภายในห้องซักผ้าที่บ้านของเธอในย่าน Valley View เขต City of Salisbury
นาฬิกาที่เราใส่นอกจากที่ปกติจะใช้ดูเวลาแล้ว บางคนอาจจะใช้เป็นเครื่องประดับ บางคนอาจจะใช้เป็นของสะสม แต่ผู้ใช้รายนี้คงไม่ได้คิดว่ามันจะช่วยไขคดีปริศนาฆาตกรรมของตัวเธอเองได้
เพื่อนบ้านได้โทรเรียกตำรวจมายังบ้าน ในเวลาประมาณ 22.10 น. หลังจากพบ Caroline Dela Rose Nilsson ลูกสะใภ้วัย 26 ปีอยู่ในสภาพถูกมัดมือและอยู่ในอาการตื่นตระหนก
หลังจากตำรวจช่วยเหลือ Caroline Nilsson ก็ให้ปากคำว่าในคืนเกิดเหตุ Myrna Nilsson ถูกติดตามโดยชายสองคนที่มากับรถกระบะ Holden สีขาว และผู้ตายได้มีปากเสียงกับชายทั้งสองที่นอกบ้านเป็นเวลาประมาณ 20 นาที ขณะนั้นเธอได้อยู่ในครัวไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไปจากนั้น เธอมารู้ทีหลังว่าชายสองคนนั้น ฆ่าแม่สามีของเธอแล้วจึงเข้ามาจับเธอมัดไว้ก่อนที่จะหลบหนีไป
ตำรวจได้ฟังนาง Caroline Nilsson ก็สงสัยว่าเป็นผู้สังหารแม่สามีมาตั้งแต่วันแรกที่พบศพ แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน จนในที่สุดหลังจากรวบรวมหลักฐานจึงทำการจับกุมและตั้งข้อหาเจตนาฆ่าเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมา
โดยพยานที่เป็นเพื่อนบ้านบอกว่าเขาไม่เห็นรถกระบะสีขาวจอดที่บริเวณหน้าบ้านแต่อย่างใด และผลการตรวจ DNA ก็ไม่พบหลักฐานชายสองคนหรือบุคคลอื่นๆ อยู่หรือบุกรุกเข้ามาในบ้าน
หลักฐานสำคัญที่สุดในการมัดตัวจำเลยที่ Carmen Matteo อัยการใช้ยื่นต่อศาลก็คือนาฬิกา Apple iWatch ที่ Myrna Nilsson ผู้ตายสวมใส่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าข้อมูลที่จำเลยให้ไว้กับตำรวจ ไม่ตรงกันกับผลการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของผู้ตาย
นาฬิกา Apple iWatch นั้นมีคุณสมบัติบอกถึงอัตราการการเคลื่อนไหวของผู้ตายและจังหวะการเต้นของหัวใจของผู้สวมใส่จากข้อมูลติดตามการเคลื่อนไหวที่ถูกบันทึกในนาฬิกา พบว่าMyrna Nilsson ถูกทำร้ายเพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่เธอกลับจากทำงานและกำลังเดินเข้าบ้านในเวลา 18.30 น. ถูกทำร้ายร่างกายในเวลา 18.38 น. และเสียชีวิตภายในเวลา 18.45 น. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวขัดแย้งต่อคำแจ้งความของ Caroline Nilsson ที่ว่ามีการทะเลาะที่หน้าบ้านประมาณ 20 นาที
การปรากฏตัวของเธอที่ขอให้เพื่อนบ้านช่วย เกิดขึ้นเวลา 22.00 น. ซึ่งแปลว่าถ้าหลักฐาน Apple iWatch ได้รับการยอมรับ นั่นหมายถึงเธอมีเวลาสร้างหลักฐานเท็จและทำลายหลักฐานเดิมถึง 3 ชั่วโมง
นี่แหละในที่สุดคนร้ายก็จนมุม ปริศนาทั้งหมดถูกไขกระจ่างแล้ว ด้วย Apple iWatch ยอดนักสืบ