โซเชียลฯ ถล่มไม่เลิก เพจ BTS อ่วม โพสต์อะไรก็ยับ โดนสวนกลับตลอด ชาวกรุงสุดเซ็ง แอดมินเพจถอดใจ โพสต์อะไรก็โดนด่า เหมือนคนไม่ใช่ ทำอะไรก็ผิด จนบางครั้งทางเพจถึงขนาดต้องลบโพสต์ทิ้ง
ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รถไฟฟ้า BTS เสียเกือบทุกวันตลอดช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ประเด็นดราม่าสุดเร่าร้อนของรถไฟฟ้า BTS เหมือนจะยังไม่จบ ล่าสุดเกิดเหตุขัดข้องอีกแล้ว เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 ก.ค. จนกลับมาเป็นกระแสของชาวกรุงอีกครั้งหนึ่ง
เนื่องจากแต่เดิมที่ผู้บริหาร BTS ได้ให้คำยืนยันว่า จะรีบแก้ไขความผิดพลาดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 2 ก.ค. จนบัดนี้ยังดำเนินการแก้ไขไม่สำเร็จ ยังคงเกิดเหตุขัดข้องมาเรื่อยๆ และไม่ว่าแอดมินเพจจะโพสต์ข้อความใด ชาวโซเชียลฯ ก็ต่างพากันไปคอมเม้นต์ด้วยถ้อยคำสุดโหด ชนิดที่ว่าแอดมินเงียบกริบกันเลยทีเดียว ทางทีมข่าวผู้จัดการ Live จึงรวบรวมแต่ละคอมเม้นต์สุดโหดในสื่อโซเชียลต่างๆ มาให้ชมกัน
แม้แต่กระแส 13 ชีวิตในถ้ำหลวง ที่แอดมินทวีตข้อความ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. เวลา 23.29 น. ว่า “ไชโย! ขณะนี้เจ้าหน้าที่พบน้องๆ ทีมหมูป่า อะคาเดมี ภายในถ้ำหลวงแล้วครับ ทั้ง 13 คนปลอดภัยดีครับ!”
ชาวเน็ตก็รีบปรี่เข้ามาคอมเม้นต์ทันที เช่น “ช้าทั้งรถไฟ ทั้งทวิต, ช้าสมเป็นบีทีเอสจริงๆ, ขอให้เจอสัญญาณไวๆนะครับ หรือ ปลอดภัยกว่าชีวิตผมบนรถไฟฟ้าอีก” จนแอดมินได้ลบข้อความที่ทวีตนั้นออกไป
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายข้อความที่แอดมินของ บริษัท รถไฟฟ้า BTS ได้โพสต์ลงในสื่อโซเชียลฯ และโดนคอมเม้นต์ถล่มมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟุตบอลโลก ที่แอดมินโพสต์ข้อความเชิญชวนดูฟุตบอลโลก และแจงตารางแข่งขัน
โพสต์ข้อความที่บอกตำแหน่งสถานีที่มีเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ AED ให้ใช้ในกรณีที่มีผู้โดยสารเกิดมีอาหารหัวใจวายฉับพลัน, เรื่อง BTS มีไลน์แล้ว เพื่อให้ติดตามอัพเดตข่าวสาร
หรือโพสต์ข้อความที่บ่งบอกทางบีทีเอสใส่ใจผู้โดยสาร ให้จับห่วงหรือราวขณะเดินทาง เนื่องจากหลังจากเปลี่ยนช่องคลื่นความถี่แล้ว ขบวนรถอาจมีกระตุก/กระชากบ้าง และขอให้โปรดช่วยเป็นกำลังใจให้บีทีเอสด้วย ที่ชาวเน็ตขัดตาขัดใจ อดทนไม่ไหวต้องเข้ามาคอมเม้นต์ด่าในใต้โพสต์ข้อความนั้นๆ
ไม่ว่าจะเป็น “ก่อนจะตามกระแสบอลโลก แก้ไขระบบก่อนไหม, ทำไมแปะตารางแข่งขันฟุตบอลโลกได้ แต่ไม่ยอมประกาศการเดินรถมีปัญหา, เครื่อง AED ควรมีทุกสถานีและบนขบวนทุกตู้ด้วย, การที่ใช้ไลน์สื่อสารเห็นได้ชัดว่าต้องการเลี่ยงคอมเม้นต์ในที่สาธารณะ เพื่อกันภาพลักษณ์แบรนด์ตนเอง, ห่วงและเสาในรถมีไม่พอให้จับ และคนโดยสารแน่นทั้งรถ เบรกทีคนล้มหลายคนมาก
ดูเหมือนว่าบีทีเอสกับคนกรุงยังต้องสู้รบปรบมือกันไปอีกนาน มีเพียงแค่เวลาเท่านั้นที่จะช่วยเยียวยาสภาพจิตใจของทั้งสองฝ่ายได้
ขอบคุณภาพ: www.ddproperty.com