ทุกครั้งที่มี "ศึกแดงเดือด" การถากถาง การแซะ จะเกิดขึ้นควบคู่กันไปด้วยจนบางครั้งเกินความพอดี ทำให้สร้างความบาดหมางระหว่างแฟนคลับของทั้งสองทีม
หลายคนอาจสงสัยว่าสองทีมนี้ไม่คิดจะดีกันบ้างเหรอ แค้นฝังหุ่นอะไรขนาดนั้น ซึ่่งความบาดหมางกันนั้นจริงๆแล้ว ไม่เป็นแค่เรื่องของแฟนคลับปากกล้าเท่านั้น ไม่ใช่แค่เรื่องผิดใจของผู้บริหารสโมสร แต่มันมีประวัติศาสตร์มาจากในอดีต
ถ้าย้อนกลับไปหนึ่งร้อยกว่าปีที่แล้ว ในตอนแรกเมืองทั้งสองก็ยังกลมเกลียวกันอยู่ จนมาวันหนึ่งเศรษฐกิจตกต่ำ ทั้งสองเมืองต่างก็หาวิธีเอาตัวรอดให้กับเมืองของตนเองไม่ว่าจะเป็นเมืองลิเวอร์พูล หรือเมืองแมนเชสเตอร์
จากเดิมที่แมนเชสเตอร์ผลิตฝ้ายดิบ แล้วขนส่งผ่านเมืองท่าลิเวอร์พูลเพื่อนำไปส่งขายที่ประเทศอเมริกา ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ทั้งคู่จึงเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน
ทีนี้พอเศรษฐกิจแย่ลงอย่างที่บอก จากค่าส่วยผ่านทางราคาปกติของลิเวอร์พูล ทางเมืองแมนเชสเตอร์กลับรู้สึกว่า ราคามันช่างโหดร้ายเหลือเกิน ทำไมไม่ช่วยเหลือหรือลดราคาให้กันบ้าง ประชาชนชาวแมนเชสเตอร์ถึงขั้นเดือดร้อนอย่างหนัก เงินที่พยายามหามานั้นกลับไปพอใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ทางเมืองแมนเชสเตอร์จึงต้องหาวิธีจัดการกับปัญหาดังกล่าว โดยระดมเงินทุนเพื่อขุดคลองจากแม่นำเมอร์ซี่ย์เข้ามาในเมือง มีการสร้างท่าเรือสำหรับขนส่งสินค้า ทางเมืองแมนเชสเตอร์ก็ได้กู้วิกฤติครั้งนั้นของตนได้
แต่พอเมืองแมนเชสเตอร์ไม่ต้องจ่ายค่าส่วย ทำให้เมืองลิเวอร์พูลกระทบกระเทือนอย่างหนักมาก สูญเสียรายได้ชนิดที่ทำให้คนตกงานจำนวนมาก เพราะนายจ้างไม่สามารถจ้างต่อได้ เรียกได้ว่าสองเมืองก็เขม่นกันมาตั้งแต่ตอนนั้น
หลังจากนั้นทั้งสองเมืองที่มีการก่อตั้งสโมสรฟุตบอลอยู่แล้ว ทุกครั้งที่มีการแข่งขันด้วยศักดิ์ศรีและความแค้นของชาวเมืองทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่ยอมกัน ทั้งนักฟุตบอลและกองเชียร์ ในช่วงหลายปีแรกหงส์แดงทำทีมได้ดีกว่าจนเรียกว่ากดขี่ผีแดงลงหลุมแล้วลงหลุมอีก จนปัจจุบันทั้งสองทีมผลัดกันชนะและแพ้ ฟาดแข้งกันอย่างมันเพื่อความเป็นแชมป์
แต่หลังจากถอดเสื้อทีมแล้ว ในปัจจุบันนี้นักบอลเหล่านี้ก็เป็นเพื่อนกันทำงานด้วยกัน สลับกันมาเที่ยวในเมืองของต่างทีม เพราะพวกเค้าเข้าใจแล้วว่า ฟุตบอล เป็นแค่เกมเท่านั้น


