ย้อนกลับไปหลายปีในสมัยศตวรรษที่ 19 ก่อนช่วงสงครามโลกครั้งที่สองในประเทศอังกฤษ กลุ่มนักเชียร์บอลหลายกลุ่มได้มีความขัดแย้งกันในสนามเนื่องจากเชียร์ทีมตรงข้ามกัน และทั้งสองฝ่ายแก้ปัญหาด้วยการต่อยตีกัน ซึ่งบางครั้งนอกจากจะขัดใจกันเพราะเชียร์ต่างทีม การเชียร์ฝั่งเดียวกัน หรือปัญหาระหว่างกรรมการกับนักเตะก็ก่อให้เกิดความรุนแรงในสนามได้
กลุ่มคนเหล่านี้ถูกเรียกว่าฮูลิแกน แฟนบอลอันธพาล ในปี1960 เป็นยุคที่ฮูลิแกนของชาวอังกฤษแผลงฤทธิ์มากที่สุด ชนชั้นแรงงานรวมตัวกันมาเชียร์ฟุตบอล และพร้อมที่จะมีเรื่องกับทีมฝั่งตรงข้าม ทำให้ตอนนั้นสนามบอลเปรียบเหมือนสนามต่อสู้ มีการชกกันแทบทุกครั้งที่มีการแข่ง และเป็นเช่นนั้นมาตลอด
จนถึงในปี 2532 ฮูลิแกนก่อความวุ่นวายกันในสนามฮิลส์โบโรว์ ทำให้มีคนตายมากกว่า 100 คน และทำให้อังกฤษยกเลิกตั๋วยืนในสนาม ทำให้ฮุลิแกนย้ายมายกพวกตีกันด้านนอกแทน
เมื่อฮูลิแกนไม่ได้เป็นแค่หนุ่มๆ ในอังกฤษเท่านั้น แต่วัฒนธรรมแฟนบอลอันธพาลยังแพร่หลายไปในทุกประเทศที่คลั่งไคล้ฟุตบอล เช่นในอียิปต์ แฟนบอลสโมสรทีมอัล อาห์ลี และอัล มาสรี ตีกันกลางสนาม ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึงเกือบ 100 ราย
ปัจจุบันรัสเซียเป็นอีกชาติที่มีการรวมตัวของฮูลิแกน แต่ฮุลิแกนของรัสเซียไม่ใช่เพียงการรวมตัวของแก๊งค์ แต่มีระบบจัดการที่คล้ายองค์กร สมาชิกเข้ายิมเพื่อฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ เตรียมพร้อมลุยกับแก๊งคู่อริอย่างอังกฤษ
ฮูลิแกนรัสเซียเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นจากวีรกรรมล่าสุดที่ฝรั่งเศส โดยฮูลิแกนจากรัสเซีย ไล่อัดฮูลิแกนจากอังกฤษจนได้รับบาดเจ็บไปหลายราย ถือว่าเป็นศึกใหญ่ศึกหนึ่งเลยทีเดียว เพราะยกทัพกันไปหลายร้อยคนเลยทีเดียว
บอลโลก 2018 ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพนี้ กลุ่มฮูลิแกนรัสเซียก็มีความพร้อมเช่นกัน มีการเกณฑ์เด็กหนุ่มหน้าใหม่ เพื่อมาฝึกซ้อมฝึกฝนในป่าเพื่อแสดงศักยภาพว่าเหนือกว่าฮูลิแกนอังกฤษแค่ไหน ประเทศต่างๆ ล้วนหวาดผวา เพราะขนาดตอนอยู่ฝรั่งเศสฮูลิแกนรัสเซียยังโหดขนาดนั้น บอลโลกที่กำลังจะมีขึ้นในรัสเซียพวกเขาจะโหดขนาดไหน
ตอนนี้รัสเซียถึงกับตั้งกฎขึ้นมาลงโทษฮูลิแกนที่จะก่อความวุ่นวายในบอลโลก โดยหากใครตั้งตัวเป็นกลุ่มฮูลิแกน จะมีโทษจำคุก 5 ปีขึ้นไป และหากใครก่อความโกลาหล มีโทษจำคุก 8 ถึง 15 ปี