ย้อน “10 คดีโหด” สังคมสาป #ต้องประหาร

ยังมีอีกหลายคดีที่สมควรถูกประหาร!! สังคมร่วมกันสับเละ หยิบ "คดีโหด" เคสอื่นมาเทียบ หลังผู้ร้ายคดีฆ่าชิงทรัพย์ "มิ๊ก-ธีรศักดิ์" กลายเป็นนักโทษประหารคนแรกในรอบ 9 ปีของไทย วิจารณ์ยับย้อนถามกระบวนการยุติธรรมในไทย ตั้งคำถามถึงคดีดังหลายรายที่สมควรตัดสินด้วยมาตรฐานเดียวกัน และนี่คือ 10 คดีสะเทือนขวัญที่สังคมเห็นพ้องร่วมกันว่า "ต้องประหาร"!!

---

10 คดีชวนผวา! ฆาตกรใจอำมหิตเกินคน

1. คดีฆ่า เอ็กซ์ จักรกฤษณ์



สำหรับคดีสังหาร ‘เอ็กซ์’ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ที่โดนมือปืนประกบยิงเสียชีวิตเมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ต.ค.2556 ที่มีชนวนสั่งตายจากคนใกล้ตัว โดยผู้บงการฆ่าไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น “หมอนิ่ม” พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยาของ ‘เอ็กซ์’ จักรกฤษณ์ หลังถูก 2 มือปืนให้การซัดทอด รวมถึงทนายอี๊ด ทำหน้าที่รับงาน

จนเวลาล่วงเลยมา 3 ปี สุดท้ายคดีได้บทสรุป โดยศาลสั่งประหาร หมอนิ่ม ฐานบงการฆ่า เอ็กซ์  ขณะที่สันติ พิพากษาให้ประหารชีวิตสถานเดียวเช่นกัน สำหรับ 2 มือปืนที่ลั่นไกสังหาร ให้จำคุกตลอดชีวิต

2. ฆ่าข่มขืนน้องการ์ตูน เด็กหญิงวัย 6 ขวบ



ย้อนรอยคดีสะเทือนขวัญ ผลงานของ ไอ้หนุ่ย หรือติ๊งต่าง วัย 36 ฆาตกรฆ่าข่มขืนน้องการ์ตูน เด็กหญิงวัย 6 ขวบ ที่หายตัวไปเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.56 เมื่อพลัดหลงจากพ่อแม่ขณะที่พ่อแม่พามาดูคอนเสิร์ตวงดนตรี ใกล้ซอยแบริ่ง ย่านบางนา

ก่อนพบศพทิ้ง รกร้างข้างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส แบริ่ง ด้วยการกำลังประทุษร้าย ใช้กำลังบีบคอจนเสียชีวิต ก่อนที่จะข่มขืนที่ปากซอยลาซาล ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง จากนั้นไม่นาน ก่อเหตุซ้ำต่อเนื่อง เผยเคยข่มขืนเด็กมาแล้ว 10 ราย เพราะรู้สึกสะใจขณะลงมือ ยอมรับเคยฆ่ามาแล้ว 4 ราย

สุดท้ายไอ้หนุ่ยก็ไม่โดนประหาร เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2558 ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต หนุ่ย ติ๊งต่าง ฆาตกรต่อเนื่อง สำนวนที่ 2 คดีล่วงละเมิดทางเพศและฆ่าเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ที่จังหวัดเลย แต่คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุกตลอดชีวิต

3. คดีน้องแก้มฝันร้ายในขบวนรถไฟที่174



หนึ่งในคดีสะเทือนขวัญในปี2557เป็นข่าวใหญ่ที่หลายคนต้องรู้จัก น้องแก้ม เด็กหญิงวัย13เสียชีวิตจากการถูก วันชัย แสงขาว เจ้าหน้าที่รถไฟ ข่มขืนแล้วโยนร่างของเหยื่อลงบนรางรถไฟอย่างเลือดเย็น ถือเป็นข่าวที่เศร้าสลด และสังคมต่างเรียกร้องให้คนร้ายที่ก่อคดีต้องถูกประหารชีวิตสถานเดียว

ล่าสุด ศาลจังหวัดหัวหินพิพากษาประหารชีวิต จำเลยที่1 หรือวันชัย ศาลระบุไม่ลดหย่อนโทษ เพราะจำเลยยอมรับสารภาพจำนนต่อหลักฐาน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการประหารชีวิตอดีตเจ้าหน้าที่รถไฟคนนี้เลย

4 .คดีน้องสโนว์

เกิดขึ้นเมื่อปี58หากพูดถึงคดีที่สร้างความสะเทือนใจในช่วงปีที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นหนีไม่พ้นเหตุข่มขืนและทำร้าย น้องสโนว์ เด็กสาว วัย 18 ที่ ถูกกฤติเดช ระเวงวรรณ หรือผู้ใหญ่บ้านสีถาน ขืนใจ และทำร้ายบาดเจ็บสาหัส จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ถือเป็นงานที่ยากของตำรวจ เพราะชาวบ้านไม่กล้าออกมาให้การเป็นพยาน เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลบางอย่าง ซึ่งต้องใช้เวลาพอนานสมควรก่อนจะบุกจับผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวได้

ความเป็นธรรมที่ครอบครัวน้องสโนว์รอคอยก็มาถึง เมื่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิต และต้องชดใช้เงินจำนวน 2,390,000 บาท ให้กับครอบครัวน้องที่เสียชีวิตด้วย
ทั้งนี้การพิพากษาเป็นเพียงแค่คำพิพากจากศาลชั้นต้นแค่เท่านั้นเอง คดีน้องสโนว์จะเข้าข่ายได้รับความธรรมที่แท้จริง หรือไม่นั้น ก็ต้องติดตามกันต่อไป

5. คดีฆ่าปาดคอครูอิ๋ว



นับเป็นคดีสะเทือนขวัญที่สร้างความโกรธแค้นในสังคมอย่างมาก สำหรับกรณีฆ่าโหดที่สร้างความสลดใจให้กับเหล่าลูกศิษย์ และเหล่าวงการแม่พิมพ์ของชาติที่ต้องสูญเสียครูที่แสนดีไปอีกคน เหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อปี59 เมื่อ จุฬารัตน์ โทวรรณา หรือ “ครูอิ๋ว” อายุ 26 ปี ครูโรงเรียนแสงวิทยา อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ถูก ชาตรี ร่วมสูงเนิน อายุ 27 ปี ฆาตกรหื่นกามบุกฆ่าปาดคอเสียชีวิตภายในห้องเช่าชั้นเดียว ในอ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยฆาตกร เจาะมุ้งลวดปลดกลอนประตูแล้วบุกเข้าไปหมายข่มขืน แต่ครูสาวขัดขืนต่อสู้ถูก ฆาตกรโหดรายนี้จึงใช้มีดปาดคอครูสาวตายอนาถ

สำหรับคดีสะเทือนขวัญฆ่าปาดคอครูสาวในครั้งนี้ ทำให้คนในสังคมต่างออกมาเรียกร้อง ขอให้เล็งโทษผู้ก่อเหตุถึงขั้นประหารชีวิตมาใช้ และยังพบว่าผู้ก่อเหตุในครั้งนี้เคยต้องโทษข่มขืนเมื่อปี 56 และเพิ่งพ้นโทษมาในปี 58 ส่วนในคดีนี้ชาตรี ถูกดำเนินคดีในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"


รวม10คดีโหด

6. คดีน้องหญิง สาวทอมที่ถูกแก๊งทมิฬ อุ้มฆ่าฝังดินอย่างโหดเหี้ยม



อีกหนึ่งคดีที่อำมหิตโครตๆ ที่อยู่ในความสนใจของสังคม สำหรับคดีอุ้มฆ่า น้องหญิง สุภัคสรณ์ พลไธสง อายุ 28 ปี คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ธ.ค.59 ขณะที่ กำลังออกจากแมนชั่น ย่านเพชรเกษม 116 เธอก็ถูกชายฉกรรจ์อุ้มขึ้นรถหายตัวไป ก่อนพบเป็นศพฝังดิน สืบสาวเบื้องลึกพบเป็นปมชิงรักหักสวาท ระหว่างนายตำรวจยศพันตำรวจเอก กิ๊กสาว และสาวทอม โดย

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้แวดวงสีกากีต้องมีมลทินอีกครั้ง แม้จะเป็นเพียงปลาเน่าตัวเดียวในข้องก็ตาม

สำหรับคดีนี้ตำรวจสืบสาวเบื้องลึกพบเป็นปมชิงรักหักสวาท ระหว่าง พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ อดีต ผกก.สภ.บ้านโป่ง กิ๊กสาว และสาวทอม โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้แวดวงสีกากีต้องมีมลทินอีกครั้ง แม้จะเป็นเพียงปลาเน่าตัวเดียวในข้องก็ตาม ซึ่งคดีนี้จับผู้ต้องหาได้แล้ว 6 คน แต่ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่ยังคงหลบหนี

7. เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ



คดีอำพลางศพสุดเหี้ยมนี้ ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก จนทำให้ มี #เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ ของตัวเอง และไต่ขึ้นเป็นอันดับ1บนโลกทวิตเตอร์ ในขณะนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปลายปีที่แล้วเช่นกัน น้องแอ๋มวัย22 สาวร้านคาราโอเกะที่ถูกกระทำอย่างโหดเหี้ยม นำทีมโดย เปรี้ยว  ,เอิร์น ,แจ้ , วศิน  และเบนซ์ ได้ทำการฆ่า และหั่นอำพลางพร้อมทั้งจับยัดใส่ถุงดำฝังดินใน จ.ขอนแก่น

ทั้งนี้ศาลจ.ขอนแก่นได้พิพากษา ตัดสินเปรี้ยว และเอิน จำคุกตลอดชีวิต แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ จึงพิจารณาลดโทษเหลือ 1 ใน 3 ให้จำคุกรวม 34 ปี 6 เดือน ส่วนวศิน ถูกตัดสินจำคุก 23 ปี 4 เดือน 22 วัน ขณะที่ แจ้ จำคุก 33 ปี 9 เดือน และเบนซ์ ข้อหารับของโจร จำคุก 2 ปี ลดโทษเหลือ 1 ปี ไม่รอลงอาญา

  พร้อมให้ผู้ต้องหาทั้ง 5 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย 1,070,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ ให้กับครอบครัวผู้ตายด้วย อย่างไรก็ตามก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินนี้ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรง และมีการวางแผนมาอย่างดี ไม่ควรลดโทษให้กับผู้ต้องหา

8 . คดีฆ่าโหดสามเณรปลื้ม



ดคีสุดเหี้ยมฆ่าฝังศพสามเณรปลื้มวัย 17  พร้อมโบกปูนทับเพื่ออำพรางคดีในวัดวังตะวันตก จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งคดีนี้มีต้นตอมาจากความโลภและผลประโยชน์มหาศาลที่ยากจะปฏิเสธ จุดเริ่มต้นของคดีฆ่าฝังศพสามเณรปลื้ม เริ่มจากการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยกว่า 5 เดือนของสามเณรปลื้ม เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ทางพ่อและญาติจึงได้เข้าร้องเรียนกับตำรวจ โดยให้เบาะแสว่าสามเณรปลื้มเคยมีปากเสียงกับบิว หรือปิยฉัตร ไวยาวัจกรหญิงของวัดวังตะวันตก และผู้ต้องสงสัยอีกหนึ่งคนคือ “พระเด่นชัย”
 
การฆ่าอย่างโหดเหี้ยมที่ไม่ได้เกรงกลัวกฏหมายในครั้งนี้ เกิดขึ้นในจุดสังหารภายในหอไตรินทรสุวรรณ ในวัดหลังจากนั้น ได้นำศพมาฝังไว้ที่ลานตะเคียนหน้าหอไตร พร้อมทั้งโบกปูนทับร่างก่อนถมดินและลาดเทปูนทำทีปรับภูมิทัศน์ภายในวัดอีกชั้น จนนำไปสู่การออกหมายจับ 3 คน คือ ปิยฉัตร อรุณสกุล อายุ 40 ปี ภรรยาของ เด่นชัย ภูมินิยม ซึ่งภายหลังก่อเหตุได้มาบวชเป็นพระ และสุริยา กุศลสุข อายุ 18 ปี อดีตสามเณร

9 . คดีปาดคอชิงไอโฟน



เป็นเหตุการณ์อุกอาจที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว มะปิ่น บัณฑิตมศว. ถูกตั้ม กิตติกร และเอ๊กซ์ สุพัฒชัย บุกเข้าชิงไอโฟน พร้อมชักมีดทำร้ายจนเสียชีวิต

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตจำเลยทั้ง 2 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ซึ่งเป็นบทหนักสุด และเมื่อพิจารณาถึงพฤติการณ์แล้ว เป็นการก่อเหตร้ายแรง และทั้ง 2 มีประวัติการก่ออาชญากรรมหลายครั้ง ยากแก่การปรับปรุงแก้ไขนิสัย จึงไม่มีเหตุลดโทษ ให้ประหารสถานเดียว

และล่าสุดเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์เพิ่งตัดสินอีกครั้ง ทั้ง2ได้ลดโทษ จากการประหาร เหลือแค่จำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากโจทก์รับสารภาพโดยละเอียด และมีประโยชน์ต่อตำรวจ

10 .คดีฆ่ายกครัว 8 ศพ จ.กระบี่



หนึ่งในคดีสะเทือนขวัญ ปี 60 สำหรับเหตุการณ์ฆ่ายกครัว 8 ศพ เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของวันที่ 10 ก.ค.60 คนร้ายคือ ซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต อายุ 41 ปี พร้อมพวกอีก 7 คน บุกเข้าไปจับตัว วรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และคนในครอบครัว รวม 11 คน ไว้ตามห้องต่างๆ ภายในบ้านพัก จากนั้นใช้อาวุธปืนของนายวรยุทธ จ่อยิงศีรษะทีละคนอย่างโหดเหี้ยม ทำให้คนในครอบครัว เสียชีวิตพร้อมกันในคืนวันที่ 11 กรกฎาคม ปี 2560 รวม 8 ศพ มีผู้รอดชีวิตแต่ได้บาดเจ็บ 3 คน

คดีสะเทือนขวัญคดีนี้ ลูกชายของผู้ใหญ่บ้าน วัย 3 เดือนรอดชีวิต ด้วยความเสียสละของผู้เป็นแม่ ที่เอาผ้าห่มคลุมซ่อนลูกและเอาตัวบังไว้ แม้สุดท้ายตนเองจะต้องเสียชีวิตก็ตาม
ศาลจังหวัดกระบี่ มีคำพิพากษาในดคี ตัดสินประหารชีวิต จำเลย 1-6 แม้จำเลยทุกคนจะรับการสารภาพว่ากระทำจริง แต่ศาลเห็นว่ามีพฤติกรรมโหดเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์ จึงลงโทษประหารชีวิตและไม่มีเหตุให้ลดโทษ ส่วนจำเลยที่ 7 ให้จำคุก 1 ปี 9 เดือน และ จำเลยที่ 8 ให้จำคุก 12 เดือน

---

คดีฆาตรกรรมโหด!นักสิทธิVSทนายความความเหินไม่ตรงกัน

ทางด้าน สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ไม่เห็นด้วยกับเรื่องโทษประหารชีวิตที่เกิดขึ้น พร้อมออกมาแสดงจุดยืนคัดค้าน และเรียกร้องให้มีการยกเลิกบทลงโทษประหารชีวิต จนกลายเป็นผู้ที่ถูกโจมตีจากสังคมเอง

“การประหารแสดงความล้าหลังของประเทศ ขอให้รัฐบาลเปลี่ยนแนวคิดว่า การประหารชีวิตจะเป็นการปกป้องสังคม เพราะการประหารชีวิตแม้กระทำโดยรัฐ ก็เป็นการฆ่าผู้อื่นโดยการทารุณโหดร้าย และละเมิดสิทธิกับทีกระทำโดยอาชญากรเช่นกัน การประหารชีวิตไม่มีผลในการยุติการก่ออาชญากรรม ในทางตรงกันข้ามกลับสร้างวงจรความเกลียดชังและความรุนแรงในสังคมอย่างไม่จบสิ้น”

ส่วนด้านทาง เกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยพูดถึงกรณีที่นักสิทธิออกมาพูดว่า การรณรงค์ ให้ยกเลิกโทษประหารชีวิต ของนักสิทธิยกเลิกแล้ว อาชญากรรมจะน้อยลง หรืออย่างไร 9 ปี ที่ไม่มีการประหาร อาชญากรรมลดลง หรือเปล่า

“เสียงวิงวอนขอชีวิตของเหยื่อ..ไม่มีใครได้ยิน แต่เสียงอาชญากร ในแดนประหาร ไม่ต้องวิงวอน ก็มีคนเรียกร้องแทน

“ผมยืนยันว่า โทษประหารควรมีไว้ ไม่ควรยกเลิกไปตามปริยาย ถ้ามองว่า การลงโทษประหารชีวิต จะทำให้สังคมป่าเถื่อน และละเมิดสิทธิมนุษยชน แล้วตอนที่นักโทษประหารทำร้าย เข่นฆ่าเหยื่อ มิป่าเถื่อนกว่าหรืออย่างไร”