ชีวิตดียิ่งกว่าคนโอนให้! จวกยับ สาวสวยโพสต์ขอเงินคนละ 1 บาท ช่วยส่งค่างวดรถ อ้างเดือนนี้ช็อต ที่ไหนได้ ขับเบนซ์ - ใช้แบรนด์เนม - บินเฟิสต์คลาส - เช็กอินต่างประเทศ สุดท้ายสาวเจ้าทนเสียงก่นด่าไม่ไหว หงายการ์ด “รู้เท่าไม่ถึงการณ์” พร้อมขอโทษโซเชียลฯ ด้านกูรูกฎหมายแจง ใช้ข้อความน่าสงสารเพื่อให้ได้เงิน = ขอทาน!!
ไลฟ์สไตล์หรู แต่หนูขอ 1 บาท!
“เพื่อนๆ ในเฟซและผู้ติดตามอีก 30,000 กว่าคน ___มีเรื่องให้ช่วยคะ ขอคนละ 1 บาทได้มั้ยคะ ช่วย___ ผ่อนรถเดือนนี้หน่อย (โพสต์นี้พูดจริงไม่ได้เล่นค่ะ) 0251275xxx กสิกร ____ ______ #โครงการปันน้ำใจคนละ1บาท #ใครไม่ชอบปล่อยผ่านนะคะไม่ต้องคอมเมนต์ด่า ช่วยแชร์หน่อยนะคะ”
กลายเป็นประเด็นดรามาสนั่นโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ กับกรณีของหญิงสาวหน้าตาดีรายหนึ่ง เธอโพสต์ข้อความที่ปรากฏอยู่ข้างต้นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีใจความว่า ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนและผู้ติดตามในเฟซบุ๊ก ให้ช่วยโอนเงินให้เธอคนละ 1 บาท พร้อมทั้งทิ้งเลขบัญชีธนาคารไว้ให้เสร็จสรรพ แต่ในเวลาต่อมา เธอได้ทำการแก้ไขข้อความ โดยการลบประโยค “โพสต์นี้พูดจริงไม่ได้เล่นค่ะ” ทิ้งไป
ทันทีที่โพสต์ของเธอถูกส่งต่อกันไป โลกออนไลน์ถึงกับเสียงแตกออกเป็นหลายมุม บ้างก็มีทั้งผู้ที่รู้สึกสงสารและโอนเงินไปให้จริงมากกว่า 1 บาทก็มี บ้างก็มีผู้ที่คิดว่าอาจเป็นการโพสต์สร้างกระแส หวังให้ยอดผู้ติดตามในเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้น ไม่น่าจะมีเจตนาขอเงินจริงก็ได้
แต่ความคิดเห็นส่วนใหญ่ที่เข้ามา จะเป็นในเชิงต่อว่าพฤติกรรมการขอเงินของเธอเสียมากกว่า เนื่องจากมีการขุดประวัติของสาวสวยผู้นี้ พบว่ารถที่เธออ้างว่าต้องนำเงินไปผ่อนนั้น เป็นรถยนต์แบรนด์หรูราคาหลายล้าน จนสมาชิกโลกโซเชียลฯ ถึงขนาดมีการติดแฮชแท็กให้เธอว่า #ขอทาน2018
ไม่เพียงแค่รถยนต์เท่านั้นที่เป็นแบรนด์ราคาแพง แต่ยังรวมไปถึงเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ของเธอ ล้วนแล้วแต่เป็นของแบรนด์เนมทั้งตัวตั้งแต่หัวจดเท้า อีกทั้งยังมีไลฟ์สไตล์สุดแสนไฮโซ เพราะเธอเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเป็นว่าเล่น ชนิดที่ว่าก่อนหน้าที่จะมีการโพสต์ข้อความขอเงินจากเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กเพียงแค่ 1 วัน ยังปรากฏภาพเธอเริงร่า เช็กอินอยู่ที่ Hong Kong Disneyland
ส่วนประเด็นที่หลายคนคาใจ ว่าจริงๆ แล้ว โพสต์นี้เธอขอจริงหรือแค่ขำๆ นั้น ในเวลาต่อมาเจ้าตัวได้เข้ามาคอมเมนต์ตอบเพื่อให้ความกระจ่างชัดว่า ขอเงินจริงๆ เธออ้างว่ากำลังช็อต อีกทั้งกำลังจะเรียนจบแต่ยังไม่มีงานทำ จึงไม่มีรายได้มาผ่อนค่างวดรถในเดือนนี้
นอกจากนี้ เธอได้ได้อัปเดตยอดเงินที่มีคนโอนเข้ามาในขณะนั้นว่าได้เงินเป็นจำนวนถึง 4,125 บาท ซ้ำยังตอบโต้กลับต่อผู้ที่เข้ามาต่อว่าการกระทำของเธออีกด้วยว่า “ก็ขอดีๆ ไม่ได้ขโมยนี่คะ”
สุดท้าย หลังจากที่มีกระแสตีกลับถึงการกระทำครั้งนี้เป็นจำนวนมาก สาวจอมขอจึงตัดสินใจโพสต์ข้อความขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยุติการขอรับเงิน โดยจะนำเงินที่ได้มานั้น ไปบริจาคให้มูลนิธิต่างๆ พร้อมกับทิ้งท้ายสวยๆ ไว้ว่า “รู้เท่าไม่ถึงการณ์”
“เรียนเพื่อนๆ ทุกท่าน ___ขอความกรุณาทุกท่านหยุดการโอนเงินและบริจาค และต้องขออภัยในความผิดพลาดในการสื่อสารครั้งนี้ ทั้งนี้รายได้ทั้งหมด ___จะขออนุญาตนำไปบริจาคมูลนิธิ และ หน่วยงานที่ต้องการความช่วยเหลือต่อไปนะคะ และทับทิมจะนำภาพที่ไปบริจาคมาให้เพื่อนๆได้ดูค่ะ สุดท้ายนี้ ___ต้องขอกราบขอโทษทุกท่านด้วยนะคะ สำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์”
แม้สาวสวยจะลบโพสต์ต้นเหตุที่ทำให้เป็นประเด็นไปแล้ว แต่ความคิดเห็นบนโลกโซเชียลฯ ที่มีต่อพฤติกรรมของเธอก็ยังร้อนระอุ โดยส่วนใหญ่กล่าวว่า ไม่น่าทำแบบนี้แต่แรก และเรียกร้องให้เธอเปิดเผยยอดเงินที่ได้รับในครั้งนี้ ในขณะเดียวกันก็มีความคิดเห็นบางส่วนเข้ามาให้กำลังใจด้วย
ถึงแม้เธอจะไม่ขอรับบริจาคแล้ว แต่ผลพวงที่ได้จากการตกเป็นประเด็นดรามานี้ ทำให้ยอดผู้ติดตามในเฟซบุ๊กของเธอพุ่งสูงขึ้น ทะลุ 40,000 คนไปเรียบร้อยแล้ว
ทนายชี้ ทำแบบไหนเข้าข่ายขอทาน!
ที่ไม่ใช่ครั้งแรกกับกรณีของกลุ่มคนที่ชาวโซเชียลฯ ให้สมญานามว่า “ขอทานออนไลน์” ออกมาแสดงพฤติกรรมที่มักจะใช้ข้ออ้างที่ฟังดูน่าสงสาร ออกมาขอรับบริจาคเงินบนโลกโซเชียลฯ โดยขอเงินในจำนวนครั้งละไม่มาก และสร้างเรื่องราวชีวิตที่น่าสงสารมาขอความเห็นใจ
หากยังจำกันได้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปไม่นานนี้ คือกรณีของหนุ่มรายหนึ่ง ที่ตีหน้าเศร้า อ้างตกงาน ไม่มีเงินกินข้าว และไม่มีเงินติดตัว แต่มีเงินเหลือติดบัญชีธนาคารเพียงแค่ 60 บาท วอนคนใจบุญช่วยโอนให้ 40 บาท เพื่อที่จะกดเงินออกมา โดยเขานำข้อความนี้ไปโพสต์ตามกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ จนมีคนหลงเชื่อโอนให้เป็นจำนวนมาก สุดท้ายความมาแตกตรงที่มีภาพของเขากำลังนั่งกินบุฟเฟต์สบายใจเฉิบ!
กรณีของ "ขอทานออนไลน์" ที่ตกเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้
ก่อนที่โลกโซเชียลฯ จะมีคนหัวใสยึดการกระทำลักษณะนี้เป็นอาชีพ ทีมข่าวผู้จัดการ Live จึงได้ต่อสายตรงไปยัง รัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดังแห่งเพจ “สายตรงกฎหมาย” เพื่อมาให้คำตอบว่า การขอทาน โดยเฉพาะการขอทานผ่านโลกออนไลน์นั้นมีความผิดหรือไม่
“การขอทานเป็นเรื่องผิดครับ พอดีมันมีกฎหมายออกมาใหม่ เป็น พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน 2559 ในมาตรา 13 ห้ามบุคคลใดทำการขอทานเลย การขอทานหมายความว่า ขอเงินหรือทรัพย์สินจากผู้อื่นเพื่อเลี้ยงชีพ ไม่ว่าจะเป็นการขอด้วยวาจา ข้อความหรือกิริยาอาการใดๆ เพื่อให้ผู้อื่นเกิดความสงสาร และส่งมอบเงินหรือทรัพย์สินให้
ซึ่งการขอทานนี้มีโทษตามกฎหมายมาตรา 19 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 13 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าทำตามขอทานตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดก็เป็นความผิดเพราะกฎหมายได้บัญญัติโทษไว้แล้ว การที่หญิงสาวคนนี้โพสต์ข้อความขอเงินผ่านเฟซบุ๊ก ก็ถือว่าเป็นการขอทานผ่านข้อความ เป็นการใช้ข้อความเพื่อขอเงินหรือทรัพย์สินจากผู้อื่น ก็เข้าข่ายเป็นการขอทานแล้ว ยิ่งกรณีขอรับบริจาคอื่นๆ โลกโซเชียลฯ ยิ่งต้องระวังครับ เพราะมีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาเยอะ”
อีกทั้ง วีรพล สวรรค์พิทักษ์' นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ก็เคยวิเคราะห์พฤติกรรมเรี่ยไรเงินผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของขอทานออนไลน์ กับทีมข่าวผู้จัดการ Live ไว้ด้วยว่า คนกลุ่มนี้มักใช้คำพูดในเชิงจิตวิทยา เนื่องจากเป็นการขอรับบริจาคจำนวนน้อย จากกลุ่มคนจำนวนมาก เพื่อหวังยอดรวมของเงินทั้งหมดให้กลายเป็นจำนวนมาก และด้วยพื้นฐานนิสัยของคนไทยที่ชอบทำบุญ ชอบช่วยเหลือคน มันเลยกลายเป็นช่องโหว่ให้คนกลุ่มนี้ได้เงินอย่างง่ายๆ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทั้งหมดนี้ ถือได้ว่าเป็นอุทาหรณ์ ให้กับใครก็ตามที่คิดอยากรวยทางลัด สร้างสตอรี่ให้ชีวิตรันทดเพื่อหวังจะให้คนสงสารและบริจาคเงินให้ จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม คงต้องคิดใหม่ เพราะอาชีพ “ขอทานออนไลน์” นอกจากจะเสี่ยงโดนชาวโซเชียลฯ ขุดประวัติแล้ว ยังเสี่ยงเข้าคุกอีกด้วย!