xs
xsm
sm
md
lg

เลือดอาบ-แออัด-ทารุณคากรง “ป้ามหาภัย” สังคมรอจัดหนัก!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สังคมตั้งข้อสงสัยทำไม “ป้ามหาภัย” ไม่เข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ ทั้งที่เลี้ยงดูสุนัขไม่ถูกสุขลักษณะ ไม่มีความพร้อมในการเลี้ยง และไม่มีการรักษาอนามัย บ้านพื้นที่เพียง 16 ตารางวา แต่เคยเลี้ยงสุนัขถึง105 ตัว จากผลการตรวจค้นยังไม่ฟันธงว่า เป็นการทารุณกรรมสัตว์หรือเลี้ยงดูผิดสวัสดิภาพสัตว์หรือไม่ ด้าน Watchdog แฉภาพสุดเวทนาหมาของป้ามหาภัยพบบาดแผลเหวอะหวะเลือดนองหลายจุด รีบพาแอดมิต รพ.สัตว์! ป้าอ้างตกใจ ตร.เลยใช้กรรไกรตัดขนพลาดเลือดอาบ

เปิดบ้านป้ามหาภัย! อยู่ได้ไง 30 ตัว

กลุ่ม Watchdog ไทยแลนด์ หรือองค์กรต่อต้านการกระทำผิดต่อสัตว์ นำโดย ชนน์ชนก ตั้งแแตงศิริ พร้อมประชาชนอีก 6 คน เข้ายื่นหลักฐานภาพถ่าย เข้าแจ้งความร้องทุกข์จากกรณีที่ชาวบ้านหลังได้รับความเดือดร้อนจากบ้านพักของ แสงระวี กันใจรุ่งโรจน์ วัย 69 ปี หรือที่หลายคนเรียกว่า ป้ามหาภัย ฐานกักขังสุนัขกว่า 30 ตัว ไว้ในพื้นที่จำกัดทำให้ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ภายในซอยอโศก-ดินแดง 21 หรือซอยโพธิ์ปั้น แยก 10 เขตห้วยขวาง

โดยบ้านหลังดังกล่าว สภาพหน้าบ้านมีต้นไม้ขึ้นรก ไม่สามารถมองเห็นภายในบ้านได้ มีกลิ่นมูลสุนัขส่งกลิ่นเหม็นทั่วบริเวณ นอกจากนี้ ยังมีกรงไก่ กรงนกพิราบ วางไว้อยู่เรียงราย ทั่วบริเวณหน้าบ้าน ส่วนชั้น 2 เป็นเหมือนชั้นที่ไว้สำหรับเลี้ยงสุนัข พบอยู่ 4-5 ตัว สภาพมอมแมม สกปรก

ด้าน น.สพ.ธีระวุฒิ สุวัธนะเชาว์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ กรมปศุสัตว์ เผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีสุนัขตัวใดป่วยหรือมีโรค และจากการตรวจสอบร่องรอยบนตัวสุนัข ไม่พบร่องรอยแผลที่เกิดจากการทารุณกรรม โดยมีสุนัขที่มีบาดแผล 2 ตัว เกิดจากการตัดขนของป้าแสงระวี เจ้าหน้าที่ Watchdog นำไปทำแผลแล้ว

สุนัขมีเห็บหมัดบ้าง แต่ด้านร่างกายอยู่ในระดับ 3 คือไม่อ้วนหรือผอมเกินไป แต่ความเป็นอยู่ค่อนข้าง แออัด เนื่องจากมีจำนวนมาก และบางตัวถูกเลี้ยงในกรงเดียวกัน สำหรับอาหารที่ให้สุนัขกินก็อยู่ในระดับที่กินได้ ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนป้าแสงระวี ยอมรับว่าเป็นผู้ฉีดให้เอง แต่ไม่มีเอกสารยืนยัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคพิษสุนัขบ้า

นอกจากนี้ อาฤทธิ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดินแดง ยืนยันจะยังไม่ย้ายสุนัขออกจากบ้าน แต่แจ้งให้ลดจำนวนสุนัขลง และทำความสะอาดบริเวณบ้าน เพราะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข หากยังไม่ดำเนินการแก้ไขภายในสัปดาห์หน้า สำนักงานเขตดินแดงจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการหาที่พักพิงให้กับสุนัขเหล่านี้

ส่วนปัญหาเรื่องกลิ่นและเสียงจะต้องพิจารณาว่า ร้ายแรงแก่สุขภาพหรือเป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้ชาวบ้านละแวกมากน้อยแค่ไหน

ลุ้น! จนท.ส่งฟ้อง ผิดหรือไม่

สังคมตั้งข้อสงสัยกับกับการไม่สามารถเอาผิดป้ามหาภัยได้ ทั้งที่พบบาดแผลถูกกรรไกรตัดเนื้อหลายจุด หมาตัวเมีย มีแผล 4 ตำแหน่ง หมาตัวผู้ มีบาดแผล ขนาดใหม่ 3 ตำแหน่ง มีเลือด และหนองไหลตามขา โดยทางกลุ่ม Watchdog ได้นำสุนัขเหล่านี้ไปเย็บแผลเรียบร้อย

ด้านป้าแสงระวี อ้างว่าในขณะที่กำลังตัดขนสุนัขอยู่ด้านบน และที่ตนตัดขนพลาดไปโดนผิวของสุนัขจนเป็นแผล เป็นเพราะว่าเจ้าหน้าที่บุกขึ้นมาโวยวายบนบ้านตน

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก WATCHDOG THAILAND ได้โพสต์ข้อความ เรียกร้องเจ้าหน้าที่ส่งฟ้อง ป้ามหาภัยผิดจริงตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์

“ผลการตรวจค้นยังไม่ฟันธงว่า เป็นการทารุณกรรมหรือผิดสวัสดิภาพสัตว์หรือไม่ ระบบยุติธรรมของไทย ใช้ระบบกล่าวหาและประชาชนผู้เสียหายก็ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษไว้เรียบร้อยแล้ว

เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป และ ประชาชนชาวซอยโพธิ์ปั้น ก็ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันรวบรวมพยานหลักฐานและความเห็นของสัตวแพทย์ และความเห็นของวิญญูชนของคนในสังคมมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

เพื่อความหวังต่อความเห็นของพนักงานสอบสวนตำรวจในอันที่จะเชื่อได้ว่ามีการทารุณกรรมสัตว์หรือกระทำผิดสวัสดิภาพสัตว์จริง !

เพราะตำรวจเท่านั้นที่จะมีความเห็นส่งฟ้อง ซึ่งเป็นลำดับแรกของกระบวนการยุติธรรม (รวมถึงความเห็นในการอายัดด้วย)

ขั้นต่อไปก็คืออัยการ ที่จะทำสำนวนเสนอส่งฟ้องศาล ศาลแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ที่จะเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจตัดสินว่ามีความผิดตามฟ้องหรือไม่”

ฝันร้ายของเพื่อนบ้าน! สาดฉี่หมา ปาผ้าอนามัย!

เพื่อนบ้านเอือมพฤติกรรม นิสัยส่วนตัวขี้โวยวายเสียงดัง เคยสาดฉี่หมาใส่เพื่อนบ้าน ผ้าอนามัยใช้แล้วปาเข้าบ้านคนอื่น ปาขวดแก้ว สตัฟฟ์ศพหมากลิ่นเหม็นเน่า ขู่เผาบ้าน ป้าตีมึน! ทนไม่ไหวก็ย้ายไปซะ เพื่อนบ้านเอือม 30 ปี นิสัยไม่เคยเปลี่ยน!

ตัวแทนเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในซอยดังกล่าว เล่าว่า บ้านตนอยู่ห่างจากบ้านป้าแสงระวี เพียง 2 หลัง เท่าที่ทราบบ้านหลังดังกล่าวมีการเลี้ยงสุนัขมานานกว่า 30 ปี ก่อนหน้านี้มีการเลี้ยงสุนัขสูงสุดถึง 105 ตัวไว้ในบ้านซึ่งมีพื้นที่เพียง 16 ตารางวา ทำให้ต้องทุบผนังและกำแพงบ้านชั้นที่ 2 ออกเพื่อระบายความร้อนและใช้พัดลมเป่าเพื่อระบายกลิ่นเหม็นเน่า และเมื่อ 2-3 ปีก่อน

ตนและเพื่อนบ้านได้มีการร้องเรียนไปยังเขตดินแดง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาพูดคุยให้ลดจำนวนสุนัขลงจนเหลือ 50 ตัว และลดลงเรื่อยๆจนเหลือเพียง 10 ตัว แต่ตนเองไม่ทราบว่ามีการลดจำนวนสุนัขลงด้วยวิธีใด นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการขังสุนัขไว้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่เคยปล่อยให้เดินเล่น และเมื่อเจ็บป่วยก็ไม่ได้มีการนำไปรักษา รวมถึงมีการนำสุนัขที่เสียชีวิตมาสตัฟฟ์ตั้งโชว์ไว้หน้าบ้าน

ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีเพื่อนบ้านได้เข้าไปพูดคุยเพื่อปรับทัศนคติและเสนอมุมมองเพื่อหาทางแก้ไข แต่ป้าแสงระวีไม่รับฟัง กลับสาดน้ำไล่ รวมถึงยังมีพฤติกรรมอื่นๆกับผู้ที่พยายามจะเข้าไปคุยอีกด้วย อยากให้ป้าเปลี่ยนพฤติกรรม และทำตามกฎและมารยาทของสังคม ซึ่งถ้ามีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้านก็ยินดีที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขต่อไป

ไม่มีใครเลี้ยงหมาดีกว่าป้า!?

สำหรับในมุมมองของป้าแสงระวีกับข้อกล่าวหาไม่รักสัตว์นั้น เธอยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่ตนเองจะทารุณกรรมสัตว์ เพราะขนาดอาหารยังให้กินไก่จากห้างบิ๊กซี

"มื้อหนึ่งซื้อพันกว่าบาท ไม่มีใครจะมาเลี้ยงหมาได้ดีกว่าแม่หรอก เราอาบน้ำมัน เราเปลี่ยนเสื้อผ้ามัน คนไหนใส่ร้ายแม่ มันจะต้องตกนรกหมกไหม้อเวจี ไม่ให้ค้นหรอกหรอกลูก เพราะแม่ไม่ได้เป็นบุคคลต้องห้าม ใครที่มันคิดการร้ายต่อแม่ มันจะต้องฉิบหายวายวอดหมด"

ส่วนประเด็นที่ว่า ทำไมคุณป้าต้องสตัฟฟ์สุนัขไว้หน้าบ้านนั้น คุณป้าบอกว่า "เพื่อทำบุญให้มัน เพราะเป็นหมาตัวเเรก"

สำหรับกรณีที่กลุ่ม WDT จะนำสุนัขของคุณป้าไปเลี้ยงนั้น คุณป้ายืนยันว่า “ไม่ให้”

“ไม่ให้หรอกค่ะ แม้แต่ขนมันก็ไม่ให้ เพราะว่ามันไม่มีเงินเท่าแม่หรอก วัคซีนก็ฉีดให้เอง ไม่ย้ายบ้านหรอก นี่มันบ้านของแม่ค่ะ ซื้อมาไม่ได้มีหนี้ ใครที่ยังมีหนี้อยู่ก็ให้มันย้ายไปเถอะ หรือไม่งั้นก็โดนแบงก์ยึดไปซะ เพราะมันคิดจะทำร้ายคุณแม่ เพราะคุณแม่เป็นอภิมหาเศรษฐีแล้ว ไม่ได้ไปขอมันกิน
สตัฟฟ์หมาไว้หน้าบ้าน
หนูรู้มั้ย ว่าแม่มีที่เท่าไหร่ มีเป็นพันๆ หมื่นๆไร่ หนูยังไม่รู้ว่าแม่คือใคร อาจารย์แม่ แสงระวี ใครๆก็รู้จัก”

อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นในโลกโซเชียลฯ ต่างบอกไปในทิศทางเดียวกันว่า อาจจะมีความผิดปกติทางจิตใจ

สำหรับสาเหตุที่ป้าแสงระวีต้องเลี้ยงสุนัขไว้มากมายขนาดนั้น เพราะเป็นการ “โปรดสัตว์” เพราะป้าแสงระวีอ้างว่าตนเองเป็นร่างทรง

คำถามที่หลายคนสงสัยคือ “โปรดสัตว์” หรือ “ทรมานสัตว์” จากการกักขังด้วยความรัก กันแน่!?
 
ข่าวโดยผู้จัดการ Live 


กำลังโหลดความคิดเห็น