“หายแน่สมาธิสั้น-บำรุงสมอง-แก้อารมณ์ซึมเศร้า” อาหารเสริมยุค 4.0 สรรพคุณดีเลิศครอบจักรวาล! พ่อ-แม่ยุคใหม่หลงเชื่อ หวังแก้อาการสมาธิสั้นให้ลูกติดจรวดทันใจ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เตือน! ระวังส่งผลเสียกับเด็ก ย้ำ ไม่มีงานวิจัยยืนยัน..อาหารเสริมรักษาโรคสมาธิสั้นได้!
อเมซิ่ง “อาหารเสริม” สรรพคุณครอบจักรวาล!!
“มาแล้ว!! ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสมองและระบบประสาท เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการสมาธิสั้น จำยาก ลืมง่าย, ผู้ที่อยู่ในวัยศึกษา ผลการเรียนไม่ดี, ผู้ป่วยความจำเสื่อม-อัลไซเมอร์, ช่วยขจัดสารพิษในตับ, ช่วยแก้ไขอารมณ์ซึมเศร้า แถมช่วยเรื่องสมาธิสั้นในเด็ก...”
สโลแกนอาหารเสริมสุดอเมซิ่ง! สรรพคุณรักษาครอบจักรวาล ตั้งแต่บำรุงสมอง-ระบบประสาท ไปจนถึงแก้โรคสมาธิสั้นในเด็ก งานนี้สังคมออนไลน์ตั้งข้อสงสัยอาหารเสริมยี่ห้อดังกล่าวช่วยรักษาโรคสมาธิสั้นได้จริงหรือ!? ห่วงพ่อ-แม่ยุคใหม่แห่ซื้อให้ลูกกิน หวังรักษาสมาธิสั้นในเด็ก แก้ปัญหาผิดจุด
“อาหารเสริมตัวนี้ที่ ครูสลา คุณวุฒิ เป็นพรีเซ็นเตอร์ มีคนถามมาเยอะว่าลูกเป็นสมาธิสั้นจะซื้อมากินดีไหม ตอบว่า อาหารเสริมไม่มีสรรพคุณในการรักษาหรือบรรเทาโรคสมาธิสั้นใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ พาไปหาจิตแพทย์เด็กดีสุด โรคนี้ถ้าไม่รักษาแต่เนิ่นๆ เอาแต่ไปหาอาหารเสริมนู่นนี่มากินหวังให้ลูกหายโดยไม่ต้องกินยา
อาจจะทำให้ปัญหามันหนักขึ้นจนเกินจะรักษาก็ได้นะ จำไว้ อย่าไปหลงเชื่อพรีเซ็นเตอร์อะไรเทือกนี้เด็ดขาด ไม่ว่ามันจะเอาดาราหรือศิลปินคนดังคนไหนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ตาม”
เพจดัง Drama-addict โพสต์ภาพและข้อความเกี่ยวกับประเด็นอาหารเสริมช่วยรักษาโรคสมาธิสั้นในเด็ก หลังจากที่มีพ่อ-แม่จำนวนมากสอบถามเกี่ยวกับอาหารเสริมรักษาโรคสมาธิสั้นในเด็กว่า มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้อย่างที่โฆษณาจริงๆ หรือไม่
แต่ที่น่าสนใจคือผลิตภัณฑ์ที่ว่ามีนักแต่งเพลงชื่อดังอย่าง 'สลา คุณวุฒิ' เป็นพรีเซ็นเตอร์ ทำให้หลายเสียงวิจารณ์ว่า การที่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมีนักแต่งเพลงชื่อดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ อาจทำให้พ่อ-แม่หลายคนตัดสินใจเลือกซื้ออาหารเสริม โดยที่ไม่ได้มีการตรวจสอบให้ดีเสียก่อน
ขณะที่สังคมออนไลน์ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดูแลเด็กสมาธิสั้นของพ่อ-แม่ยุคใหม่ด้วยว่า ไม่ควรหลงเชื่อคำโฆษณาของอาหารเสริมมากเกินไป เพราะอาการสมาธิสั้นในเด็กสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ซึ่งแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุดคือการปรึกษาจิตแพทย์มากกว่าซื้ออาหารเสริมมาให้ลูกรับประทานเอง
“วิธีแก้คือต้องพบแพทย์เฉพาะทางค่ะ หมอเขาจะแนะนำวิธีขั้นตอนการรักษาและการกินยา หลานชายก็เป็น พบหมอแล้วก็ดีขึ้นตามลำดับ อย่าไปเชื่ออะไรแบบนี้ให้เสียเงินเปล่าเลยค่ะ คนเดี๋ยวนี้หากินกันง่าย”
“ลูกชายเป็นเด็กสมาธิสั้น หาหมอกินยาปรับพฤติกรรมตั้งแต่สามขวบเคยปรึกษาหมอเรื่องอาหารเสริม หมอเองยังไม่แนะนำเลยค่ะ อาหารเสริมพวกนี้โฆษณาเกินจริง ขนาดยาของเด็กสมาธิสั้น ยังหาซื้อข้างนอกไม่ได้เลยนอกจากแพทย์สั่งจ่ายที่ รพ.เท่านั้น”
“ทุกวันนี้นะ ทุกอย่างเป็นอาหารเสริมหมดเลย แล้วคนเชื่อง่ายเพราะอะไร ดารา-นักร้อง-นักแสดงเป็น พรีเซ็นเตอร์ ยิ่งตามต่างจังหวัดคนแห่ซื้อเต็ม เพราะเขาไม่ได้มาศึกษาข้อมูลแบบจริงจัง และไม่สะดวกเดินทางไปพบเเพทย์ พ่อแม่ก็หวังพึ่งสินค้าพวกนี้ละ บทสรุปเสียเงินฟรี และไม่จบไม่สิ้นหรอก เรื่องแบบนี้”
พ่อ-แม่ ยุค 4G “ใครว่าดี..เราก็ว่าดี”
“หมอคิดว่าเป็นหน้าที่ของตัวเองอีกเช่นกันที่ต้องเขียนเรื่องนี้ ที่ผ่านมามีพ่อ-แม่หลายคนที่ซื้ออาหารเสริมที่บอกว่าช่วยเรื่องสมาธิให้ลูกๆ รับประทาน เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี”
'พญ.เบญจพร ตันตสูติ' จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เจ้าของเพจดัง 'เข็นเด็กขึ้นภูเขา' อธิบายถึงประเด็นการเลือกซื้ออาหารเสริมของพ่อ-แม่ยุคใหม่ เพื่อหวังช่วยเพิ่มสมาธิให้กับลูก แถมยกตัวอย่างเคสของเด็กชายวัย8ขวบที่คุณแม่รายหนึ่งเคยพามาปรึกษากับตน
เนื่องจากเข้าใจว่าลูกชายมีสมาธิสั้น สืบเนื่องมาจากครูประจำชั้นบอกว่าลูกชายของตนชอบเหม่อลอย-คุยในห้องเรียน และเรียนตามเพื่อนไม่ทัน คุณแม่รายนี้ได้ซื้ออาหารเสริมรักษาอาการสมาธิสั้นชนิดหนึ่งที่มีการโฆษณาขายผ่านทางเฟซบุ๊ก
โดยให้ลูกชายรับประทานอาหารเสริมร่วมหลายเดือน แต่ผลที่ได้หลังจากรับประทานอาหารเสริมไม่ได้ดีขึ้น จึงตัดสินใจพาลูกชายเข้าพบจิตแพทย์ ซึ่งได้มีการซักประวัติและประเมินอาการ จึงพบว่าลูกชายของตนไม่ได้มีสมาธิสั้น
เพียงแต่มีความเครียดที่เกิดขึ้นจากการเรียนและการใช้สมาร์ทโฟนที่มากเกินไป รวมถึงพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงทำให้มีอาการคล้ายสมาธิสั้นนั่นเอง
อย่างที่เห็นว่าที่ผ่านมา อาหารเสริมเกี่ยวกับเด็กมีขายกันตามตลาดออนไลน์หลายประเภท เช่น อาหารเสริมเพิ่มส่วนสูงให้ลูกน้อย รวมถึงอาหารเสริมช่วยเรื่องสมาธิสั้นในเด็ก จากประเด็นที่ว่าได้สะท้อนให้เห็นว่าวงจรอาหารเสริมในโลกออนไลน์ที่ว่านี้จะเติบโตต่อไปไม่ได้ หากว่าพ่อแม่ยุคใหม่ไม่หวังให้ลูกเติบโตทางลัด
“หมอเข้าใจดีว่าพ่อแม่ทุกคนรักลูก อะไรที่เขาว่าดีก็อยากซื้อหามาให้ลูก อย่างพ่อแม่หลายคน เห็นโฆษณาในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับอาหารเสริมที่บอกว่าช่วยสมาธิในเด็กที่สมาธิสั้นได้ พ่อแม่บางคนบอกว่าก็ไม่อยากให้ทานยา เลยขอลองอาหารเสริมก่อนเผื่อจะช่วย แต่จริงๆ อาจจะเป็นทำอันตรายลูกๆ โดยไม่รู้ตัว
อย่างน้อยๆ ก็ควรไปพบจิตแพทย์เด็ก หรือกุมารแพทย์พัฒนาการเด็ก เพื่อหาสาเหตุของปัญหาการเรียนหรือไม่มีสมาธิในเด็กก่อน เพราะการที่เด็กมีปัญหาการเรียน ใช่ว่าเกิดจากโรคสมาธิสั้นอย่างเดียว อาจเป็นจากสาเหตุอื่นๆ เช่น แอลดี หรือภาวะอื่นๆ ที่ต้องการการดูแลรักษาที่เฉพาะเจาะจง
บางครั้งเด็กที่ไม่ตั้งใจเรียนอาจเกิดจากปัญหา เช่น ความเครียดจากโรงเรียน การเรียนวิชาการที่หนักเกินไป หรือการที่สมาธิไม่ดี อาจเป็นเพราะการดูสื่อพวกทีวี โทรศัพท์ แทบเล็ตที่มากเกินไป หรือการเลี้ยงดูที่ตามใจและขาดแรงจูงใจ”
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ยังฝากเตือนถึงพ่อ-แม่ยุคใหม่ด้วยว่าการพึ่งอาหารเสริม อาจทำให้การวินิจฉัยเกิดความล่าช้าได้ แถมยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอว่าอาหารเสริมลักษณะดังกล่าว สามารถช่วยรักษาอาการสมาธิสั้นในเด็กได้จริง
“เมื่อสาเหตุมันมากมายแบบนี้ ดังนั้นการที่อยู่ดีๆ ไปซื้ออาหารเสริมให้ลูกหลานรับประทาน อาจทำให้การวินิจฉัยที่ถูกต้องล่าช้า เป็นผลเสียกับเด็ก และถึงแม้เด็กจะเป็นสมาธิสั้น หรือปัญหาการเรียนรู้ ก็ไม่มีงานวิจัยที่มีหลักฐานเพียงพอว่าอาหารเสริมจะรักษาภาวะดังกล่าวได้ด้วย”
ข่าวโดย ทีมข่าวผู้จัดการ Live
