xs
xsm
sm
md
lg

"อาชญากรสองล้อ"!? เบียดคนเจ็บ - ไม่สละรางวัล สังคมทวงถาม "จิตสำนึกที่หายไป"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จากนักปั่นกลายเป็นอาชญากร?! สังคมลงทัณฑ์ “นักปั่นเสื้อเขียว” จากคลิปเบียดจักรยานล้ม ไล่ด่า ตามล่าแม่มด จนต้องปิดเฟซบุ๊กหนี โซเชียลฯ ร้อง ถ้ามีจิตสำนึกควรสละรางวัล คนใกล้ชิดเผย เจ้าตัวสภาพจิตใจย่ำแย่หนัก ด้านโค้ชจักรยานทีมชาติแนะ แบนตัวเองไม่ลงแข่ง เพื่อแสดงสปิริต!

ไม่เจตนาหรือว่าตั้งใจ สังคมตัดสินให้แล้ว!

ดูท่าทางแล้วจะไม่จบลงง่ายๆ สำหรับกรณีดรามาในวงการนักปั่นน่องเหล็ก ที่ขณะนี้ได้ลุกลามกลายเป็นดรามาระดับประเทศ หลังจากที่โลกออนไลน์พากันแชร์คลิปวิดีโอ จากเฟซบุ๊ก Pawin Pong Suwannacheep หรือ โป้ง โมเดิร์นด๊อก ในการแข่งขัน The Great Mekong Bike Ride 2018 ที่ปรากฏภาพนักปั่นสวมเสื้อสีเขียว เร่งสปีดมาเทียบนักปั่นคนอื่น ก่อนจะเอนตัวไปทางซ้ายจนชนกับนักปั่นคนข้างๆ จนล้มบาดเจ็บไปเกือบ 10 คน รวมถึงจักรยานที่ได้รับความเสียหาย ส่วนหนุ่มเสื้อเขียวก็ปั่นลิ่วแบบไม่หันมามอง คว้าที่ 2 ในรุ่นตัวเองไป

หลังจากที่คลิปดังกล่าวเป็นที่พูดถึงกันสนั่นโลกโซเชียลฯ แล้วนั้น ชาวเน็ตพากันตั้งข้อสังเกตต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ เกิดจากการเสียการควบคุมจนทำให้เสียหลักไปชนกับนักปั่นคันข้างๆ หรือว่าเกิดจากเจตนาไม่บริสุทธิ์ ที่จะทำให้นักปั่นผู้อื่นล้ม เพื่อที่ตนเองจะได้เข้าเส้นชัยอย่างฉลุยกันแน่ ?



ไม่เพียงแค่นั้น สมาชิกโลกโซเชียลฯ ที่ยังอยู่ในอารมณ์คุกรุ่น ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำหยาบคาย ว่าดูคลิปฯ กี่ครั้ง ยังไงก็ดูเป็นการจงใจกระแทก ตลอดจนชาวเน็ตบางคนกระทำการ “ล่าแม่มด” และ “แจกวาร์ป” เฟซบุ๊กของหนุ่มคนนี้เพื่อให้ผู้ที่ไม่พอใจเช่นกัน เข้าไปถล่มด่า จนเวลาต่อมาเขาต้องปิดเฟซบุ๊กส่วนตัวหนี

พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้เขาออกมาขอโทษและรับผิดชอบผู้บาดเจ็บอย่างเป็นทางการ ตลอดจนแสดงสปิริตความเป็นนักกีฬา ด้วยการคืนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ที่ได้รับทั้งหมด ให้แก่ผู้จัดงานด้วย



ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายไปมากกว่านี้ “โค้ชตั้ม - วิสุทธิ์ กสิยะพัท” อดีตนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย ที่ปัจจุบันทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนจักรยานถนนทีมชาติไทย ออกมาแสดงความคิดเห็นในอีกด้านหนึ่งผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยกล่าวว่าให้ผู้ที่ได้ดูคลิปฯ ทำใจให้เป็นกลาง พร้อมวอนให้โลกโซเชียลฯ อย่าตัดสินคนจากคลิปวิดีโอเพียงแค่ไม่กี่วินาที เพราะตอนนี้เด็กหนุ่มเสื้อเขียว ถูกสังคมตีตราจนไม่ต่างอะไรกับอาชญากรไปแล้ว!

“คงไปฟันธงไม่ได้เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่จากคลิปฯ ก็คงเลี่ยงไม่ได้ว่าผู้ที่กระทำใช้ตัวไปแท็กผู้ร่วมแข่งขันท่านอื่นจนได้รับบาดเจ็บ อยากให้มองอีกมุมว่าลงไปแข่งแล้วมีความเสี่ยง เพราะเป็นเกมปะทะและใช้ความเร็ว การปล่อยตัวรวมกันหลายๆ รุ่น แต่ละคนมีทักษะและการควบคุมรถแต่ละคนไม่เท่ากัน ในระดับโลกซัดกันยิ่งกว่านี้ แต่ยังไม่เคยเห็นนักกีฬาคนไหนตั้งใจเพื่อไปเก็บผู้เข้าแข่งขันคนอื่น แต่จากที่ได้ดูในคลิปฯ การขี่ลักษณะนี้เป็นอันตราย การจับแฮนด์ไม่มีความเสถียร พร้อมที่จะล้มได้ทุกเมื่อ นอกจากจะเซฟตัวเอง ควรจะต้องเซฟผู้เข้าแข่งขันคนอื่นด้วย



แม้เจ้าตัวแสดงความรับผิดชอบด้วยการติดต่อขอโทษผู้บาดเจ็บส่วนตัวแล้ว แต่กระแสสังคมยังโกรธอยู่ แนะนำว่าอยากให้น้องออกมาขออภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นไปได้อยากให้แสดงสปิริตแบนตัวเองไม่เข้าแข่งขันไปพักหนึ่ง แล้วค่อยขอโอกาสกลับมาใหม่ อยากให้เคสนี้เป็นกรณีศึกษาที่ไม่ให้เกิดอีก ในทีมชาติไทยคงต้องมีการพูดคุยเรื่องนี้ ต้องเซฟตัวเองและเซฟผู้อื่นด้วย

ขอร้องทุกๆ คอมเม้นต์ อย่าเม้นต์เอามันส์ แชร์เอาไลก์ ให้เกิดดรามาต่อนะครับ แค่นี้น้องมันก็ไม่มีที่ซุกตัวในเปโลตองแล้ว อ่อ.. ผมกับน้องคนนี้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ขอบอกว่านี่ไม่ใช่เป็นการออกมาปกป้องใดๆ เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ด่ามันด้วยซ้ำผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ผมแค่รู้สึกสงสารและเข้าใจในหัวอกนักจักรยานด้วยกันเพราะบางเหตุการณ์ มันไม่มีใครคาดคิดมาก่อนล่วงหน้าได้หรอกครับ” โค้ชตั้มระบุทิ้งท้าย

หากผิดจริงอาจถูกห้ามแข่ง!

เมื่อทีมข่าวผู้จัดการ Live ทำการสืบค้นข้อมูลต่อไปใน ก็พบว่า หนุ่มเสื้อเขียวหมายเลข 205 ที่ชนคันข้างๆ ล้มตามที่ปรากฏในคลิป คือ 1 ในนักปั่นจักรยานจากทีมโรงเรียนเหล่ากลางวิทยาคม จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งในรายการดังกล่าว เขาได้ลงแข่งขันชาย รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี โดยทำเวลารวม 9 ชั่วโมง 12 นาที 50.223 วินาที คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 และได้รับของรางวัล 4,000 บาท และถ้วยรางวัลเกียรติยศ

ส่วนกระแสบนสังคมออนไลน์ที่เรียกร้องให้ทางคณะผู้จัดงาน ยึดตำแหน่งและของรางวัลคืนให้หมดนั้น พงศ์เทพ ทับทิม ผู้ตัดสินชั้น 1 สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะตัวแทนสมาคมที่ได้รับมอบหมายในการดูแลจัดการแข่งขัน เปิดเผยว่า รางวัลที่รับมอบไปแล้วในการแข่งขันครั้งนี้ ไม่สามารถถอนหรือเรียกคืนได้ เพราะก่อนการตัดสินจะเปิดโอกาสให้มีการประท้วง แต่ในการมอบรางวัลไม่มีการคัดค้านหรือประท้วงเกิดขึ้น จึงต้องดำเนินการตามขั้นตอน

ถึงแม้จะมีการออกมาแจงว่าเป็นอุบัติเหตุ ก็ต้องดูจากพยานหลักฐานทั้งหมด ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ได้รับทราบข้อมูลแล้ว อยู่ระหว่างการประสานหารือกับฝ่ายเทคนิคนำหลักฐานมาตรวจสอบเพื่อสรุปข้อเท็จจริง จะต้องมีการเรียกนักกีฬา รวมถึงผู้เสียหายมาสอบ หากพบว่ามีเจตนาเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบการแข่งขัน จะมีบทลงโทษตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน ลดลำดับการแข่งขัน หรือหนักสุดอาจถึงขั้นห้ามแข่งในรายการที่สมาคมกีฬาจักรยานดูแล



อีกมุมที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือมุมของนักปั่นเสื้อเขียว โดยก่อนหน้าที่ก่อนจะปิดเฟซบุ๊กไปนั้น เขาได้ออกมาโพสต์ข้อความ พร้อมกับวอนสังคมอย่าตัดสินใจคนอื่นโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง โดยได้ยอมรับในความผิดที่ตนเองเสียหลักและไม่สามารถประคองตัวได้ในเวลานั้น ทำให้ร่างเซไปถูกนักปั่นคนอื่นๆ กลายเป็นอุบัติเหตุและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความไม่เจตนา เพราะรุ่นการแข่งขันมีการปล่อยตัวคนหลายรุ่นในกลุ่ม

“บางท่านมองว่าผมเจตนา ผมก็ต้องขออภัยมา ณ ทีนี้ครับ ขอบคุณและขอโทษทุกๆ ท่านด้วยครับ และใครที่ล้มในเหตุการณ์ ก็อยากจะทราบชื่อด้วยนะครับ ผมจะไปขอโทษพวกเขาเองครับ” หนุ่มเสื้อเขียวทิ้งท้าย ก่อนจะปิดเฟซบุ๊ก



ทางด้านผู้ใกล้ชิดอย่าง ภัทร คำจุมพล โฆษกทีมจักรยานโรงเรียนเหล่ากลางวิทยาคม ทีมจักรยานที่นักปั่นหมายเลข 205 สังกัดอยู่ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ทุบโต๊ะข่าว” ว่า คนที่เป็นนักกีฬามืออาชีพก็มองว่าเป็นเรื่องปกติ ตอนนี้สภาพจิตใจของน้องค่อนข้างแย่และรู้สึกเสียใจมาก พร้อมกับย้ำว่าไม่ได้ตั้งใจ ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บก็ได้พูดคุยกันแล้ว และได้ข้อยุติว่าต่างฝ่ายต่างไม่เอาความ

ขณะเดียวกัน “โป้ง โมเดิร์นด๊อก” เจ้าของคลิปต้นเรื่อง ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความเพิ่มเติมหลังจากที่คลิปของตนเองกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ใจความว่า แม้จะเข้ามาในวงการนักปั่นได้ไม่นาน แต่ก็พอรู้ถึงความเสี่ยงในการแข่งขัน ในฐานะของคนที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วยโดยตรง ไม่ได้มีเจตนาในการทำลายล้างหรือสร้างความแตกแยกใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ตนเองแค่อยากเห็นทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดีขึ้น และติดแฮชแท็ก #‎จักรยานไม่ได้เคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเกลียดชัง



จากคลิปวิดีโอเพียงไม่กี่วินาที กลายเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับนักปั่นหน้าใหม่ที่อาจไม่ได้มีความระมัดระวังมากพอในการลงสนาม จนนำไปสู่อุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ส่วนผลการตรวจสอบจะออกมาในทิศทางใด คงเป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตัดสินซึ่งก็คงจะได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้

นอกเหนือจากผู้บาดเจ็บแล้ว คนที่เจ็บหนักไม่แพ้กันก็คงจะหนีไม่พ้นตัวหนุ่มเสื้อเขียว ที่ถึงแม้จะยืนยันว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจชนจนเกิดเป็นอุบัติเหตุ แต่สังคมออนไลน์ก็ได้พิพากษาว่าเขาผิดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ...


กำลังโหลดความคิดเห็น