xs
xsm
sm
md
lg

ชัยชนะที่แลกมาด้วยน้ำตา..."จีน่า" #TheFaceallstars

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ท้อ...แต่ไม่ถอย! เปิดใจ “จีน่า - วิรายา” THE FACE THAILAND SEASON 4 ALL STARS ถึงเส้นทางนางแบบที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้จะมีกระแสดรามาขนาดไหน ก็ไม่สามารถมาขวางทางการเป็น ALL STARS ของเธอได้!!

ได้ผู้ชนะเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการแข่งขัน THE FACE THAILAND SEASON 4 ALL STARS เวทีที่มอบโอกาสเป็นครั้งที่ 2 ให้แก่ผู้ที่เคยร่วมรายการมาแล้วทุกซีซันมาโชว์ความสามารถในวงการบันเทิงกันอีกครั้ง และเดอะวินเนอร์ในครั้งนี้ก็คือ “จีน่า - วิรายา ภัทรโชคชัย” เจ้าแม่ฟูลเทิร์น จากทีม “คริส - ลูกเกด” ที่ออกสเตปสุดสตรอง คว้าชัยไปอย่างสมศักดิ์ศรี
ไม่รอช้า ทีมข่าวผู้จัดการ Live จึงชวนสาวแซ่บคนนี้ มาพูดคุยถึงวินาทีที่ชื่อของตัวเองถูกประกาศว่าชนะ รวมถึงเรื่องราวการแข่งขันตลอดซีซันนี้ ที่ทีมคริส-ลูกเกดแทบจะไม่ได้ชนะแคมเปญเลย แต่สุดท้ายพลิกกลับมาคว้ารางวัลใหญ่ไปครองแทน

แลกมาด้วยน้ำตา “THE FACE ALL STARS SS4”

วินาทีที่ประกาศว่าจีน่าได้ตำแหน่ง THE FACE THAILAND SEASON 4 ALL STARS ตอนนั้นรู้สึกยังไง
ตอนนี้ก็ยังรู้สึกแบบ...เหมือนฝันอยู่เลยค่ะ ตื่นมาเหมือนลอยอยู่บนก้อนเมฆ(หัวเราะ) ยังตื่นเต้นอยู่เลยว่าเราได้จริงๆ เหรอเนี่ย เพราะทุกคนเก่งมาก(ลากเสียงยาว)

ทีมคริส - ลูกเกด ในซีซีนนี้จะเรียกได้ว่าผิดฟอร์มมั้ย เพราะแทบไม่ชนะแคมเปญเลย
ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันว่า เอ้ย...ทำไมเราชนะน้อยจัง ทำไมชนะแค่ 2 ครั้งเองนะ แต่ก็อย่างที่บอกค่ะ ทุกคนเก่งหมดเลย ผลงานของทุกคนดีทั้ง 3 ทีม แต่มันอยู่ที่ลูกค้าจะเลือกอันไหน ชอบอันไหนมากกว่ากัน แค่นั้นเองค่ะ เราอาจจะทำออกมาดี แต่ไม่ได้ถูกใจลูกค้า

ช่วงนั้นมีท้อ มีเหนื่อยบ้างมั้ย
มีค่ะ แต่หันมาทุกคน พี่ๆ ทุกคน พอเราแพ้เยอะๆ แล้วมันกำลังจะจบซีซันแล้ว เรายังแพ้อยู่ๆ โคตรท้อเลยค่ะ แบบ...มันท้อมาก(ลากเสียงยาว) แต่หันมาเรายังเจอเมนเทอร์เรา 2 คน ยิ้มให้พวกเราอยู่ ให้สู้ ต่อให้เราแพ้วันนี้ พรุ่งนี้ยังมี สู้สิ วันใหม่เราต้องชนะได้แน่ๆ คือเขาให้กำลังใจพวกหนูดีมาก ต่อให้เราร้องไห้แล้วหันมา เรารู้ว่าเขาอยากร้องมั่ง แต่เขาไม่เคยร้องให้พวกเราเห็นเลย



ถือได้ว่าเป็นซีซันที่เสียน้ำตาเยอะสุด?
มากค่ะ จริงๆ เกือบทุกวีคเลยที่รู้สึกเฟล เพราะหลังๆ เราไม่ชนะเลย ทำให้แคมเปญสุดท้าย ก่อนเข้าเซ็ต หนูคุยกับดารัญ(เศรษฐิณัช ชนวราสุทธิศิริ) ว่าต้องเต็มที่ ครั้งนี้ต้องชนะให้แม่ให้ได้ ชนะสักแคมเปญนึงก็ยังดี เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเราจะชนะ THE FACE ALL STARS รึเปล่า เราก็เลยต้องชนะแคมเปญสุดท้ายให้ได้ ให้ได้ พูดแค่นี้เลย จะเต็มที่ทุกอย่าง หูหนูก็ต้องฟังว่าพี่เกดพูดอะไร พี่คริสสั่งอะไร บทเราก็ต้องพูด พยายามทำให้มันออกมาดีจริงๆ แคมเปญนั้นก็ชนะ แล้วเราก็ทำได้จริงๆ ด้วย

สำหรับจีน่าความเป็น ALL STARS มันแตกต่างจาก THE FACE แบบเดิมยังไง
จริงๆ มันแตกต่างพอสมควรนะคะในความคิดหนู เพราะว่า THE FACE ปกติ เราที่เพิ่งเข้ามา เพื่อที่จะเติมเต็มในวงการ แต่ THE FACE ALL STARS คือทุกคนเก่งมาหมดแล้ว ทุกคนมีประสบการณ์ ทุกคนรู้แล้วว่าต้องทำยังไง ซึ่งทุกคนเก่งมาก(ย้ำเสียงหนักแน่น) แล้วเก่งคนละแบบ มันเหมือนเหนือขึ้นมาจาก THE FACE แบบเดิมอีกค่ะ

แล้วคิดว่าความเป็น ALL STARS ของจีน่าคืออะไร
คืออะไรดี(หัวเราะร่วน) หนูก็ยังเชื่อมั่นอยู่ในตัวเองว่า ถ้าเรามั่นใจ ทุกอย่างจะออกมาดีค่ะ ความพยายามของเรา ความสู้ เพราะในทีมเรา เราชนะแคมเปญน้อยมาก แต่เราไม่ท้อไงคะ เราสู้ เราพยายามจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ


การแสดงสุดอลังการจากทีม คริส - ลูกเกด

การได้เดินไฟนอลวอร์กเป็นครั้งที่ 2 ความรู้สึกเป็นยังไง เปลี่ยนไปจากครั้งแรกมั้ย
เปลี่ยนไปมากๆ เพราะว่าไฟนอลวอร์กครั้งแรก มันตื่นเต้น กดดัน ทุกอย่างมันรวมกันอยู่ในนั้นหมดเลย สายตาเราก็ออกมาไม่ดีค่ะ มันก็เหมือนเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราจะต้องไม่กดดันตัวเองแล้ว พอครั้งที่ 2 ก็รู้สึกชิลขึ้น รู้แล้วว่าต้องทำยังไง รู้แล้วว่าความกดดันเป็นยังไง เหมือนเรารู้ล่วงหน้าแล้วว่ามันจะต้องเกิดอะไรขึ้น

การประกวดครั้งนี้ ถือว่าได้เติมเต็มสิ่งที่ค้างคามาตลอด 2 ปีด้วย?
ใช่ค่ะ จริงๆ ทุกคนชอบคิดว่าซีซัน 2 หนูควรได้ แต่ไม่ค่ะ ติช่า(กันติชา ชุมมะ ผู้ชนะ THE FACE THAILAND ss2) ควรที่จะได้อยู่แล้ว ติช่าไชน์จริงๆ สมควรแล้วที่ติช่าจะได้ ไม่เคยท้วง แต่เหมือนเราเป็นคนพยายามมาก เราตั้งใจมาก มันเลยรู้สึกว่าทำไม เพราะอะไร โทษตัวเองเสมอๆ 2 ปีที่ผ่านมา ว่าทำไมเราถึงไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้น
แล้วก่อนที่จะมา ALL STARS คือทางรายการติดต่อไป รอบแรกจะไม่รับเพราะติดคิวละคร แล้วรอบที่ 2 เขาติดต่อมาอีก ก็เลยคุยกับพี่เกดว่า “พี่เกด หนูเอาไงดี” พี่เกดก็ มาเหอะ มาทำ ถ้าเรายังรู้สึกว่าเราติดค้างอยู่ มาทำให้สุด ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไร ถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว พี่เกดพูดอย่างนี้ หนูเซย์เยสเลย แล้วก็ได้เข้าไปอยู่ในทีมของแม่คนเดิม



หลังจากนี้มีอะไรที่ต้องทำอีกบ้าง
เดี๋ยวก็มีไปดู Paris Fashion Week กับ Harper's Bazaar แล้วก็ไปนิวยอร์กกับ Maybelline ค่ะ ตื่นเต้นมากเลยค่ะ ยังตื่นเต้นอยู่เลยค่ะ แต่ก็เต็มที่ค่ะ เต็มที่จริงๆ เพราะว่าเราชอบด้านแฟชันมาก แล้วก็มันเป็นอะไรที่หนูเชื่อว่านางแบบทุกคนในไทยใฝ่ฝัน ที่จะไปดูอะไรแบบนี้มากๆ อยากไปสัมผัสเอง แล้วเราได้เป็นหนึ่งในนั้น ดีใจมากและขอบคุณทาง Harper's Bazaar กับทาง Maybelline ที่ให้เราได้ไปค่ะ แล้วก็เห็นทางผู้ใหญ่คุยเรื่องละครไว้ให้ค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้เข้าไปคุยรายละเอียด รอติดตามกันได้ค่ะ


“บ้านภัทรโชคชัย” กำลังใจของจีน่า


คุณแม่และจีน่า

ที่บ้านมีพี่ชาย 1 คนค่ะ เห็นหนูห้าวๆ ใช่มั้ย(หัวเราะ) โตมากับพี่ชาย เล่นยิงปืน ใส่เสื้อผ้าต่อของพี่ชายแบบนี้เลยค่ะ คือเราไม่ชอบเล่นตุ๊กตา ตั้งแต่หนูจำความ หนูนั่งแต่งหน้าแล้วอะ(หัวเราะ) เป็นเด็กกิจกรรม กล้าแสดงออก ทั้งบ้านไม่มีใครกล้าแสดงออกเลย ไม่มีเลย(น้ำเสียงหนักแน่น) หนูยังไม่รู้เลยว่าหนูได้มาจากใคร ทุกวันนี้แม่ก็ยังสงสัยอยู่(หัวเราะ)
การมาเป็นนางแบบ ตอนแรกพี่ชายก็ไม่ได้ถึงขั้นอยากให้มาทำ พี่ชายจะหวงๆ นิดนึง เขาก็จะแบบ...เวลาเดินแบบต้องใส่ชุดอะไร ใส่แต่ชุดยาวๆ นะ เขาก็จะฟิกส์เรานิดนึง เขาก็คงอ่านข่าวเยอะ นู่นนี่นั่น เขาก็จะถามทุกวันเลยว่า เจออะไรบ้าง เป็นยังไง แต่พอเราทำให้เขาเห็นแล้วว่าเราดูแลตัวเองได้ ทุกคนก็หายห่วง
ที่บ้านจะชอบบอกเสมอว่าให้อดทน ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น ให้อดทนแล้วข้ามไป คือที่บ้านจะสอนให้ใช้ชีวิตเอง ให้เจอเอง ให้แก้ปัญหา ไม่ใช่ว่าเขาทิ้งนะคะ แต่หมายถึงว่า เขาจะถาม เจอแบบนี้จะทำยังไง หนูก็โชคดีเหมือนกันนะ ทำให้หนูแบบ...มีแนวทางในการไปต่อได้ในชีวิต


สู้สุดฤทธิ์ “ทีมคริส - ลูกเกด”

ย้อนกลับไปตอนซีซัน 2 ทำไมถึงตัดสินใจเลือกอยู่ทีมเมนเทอร์ลูกเกด
ตอนนั้นยกแฟ้มกัน 2 คนค่ะ พี่บี(น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) กับพี่เกด ตอนแรกคือเรารู้จักกับพี่บี เพราะเราเดินแบบด้วยกันบ่อย แต่ว่าพี่เกดหนูกลัวมาก แต่ทำไมไม่รู้ ไม่รู้เพราะอะไร ตามองพี่บีนะคะ แต่ในใจเรามีแต่คำว่าพี่เกด หนูก็เลยเลือกพี่เกด เพราะรู้สึกว่า เราน่าจะผลักเราไปได้ไกลสุดทางพอสมควร ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่รู้สึกว่ามองหน้าแล้ว เหมือนเห็นตัวเองอยู่ตรงนั้น

ได้ร่วมงานกับเมนเทอร์เกดมาแล้ว 2 ครั้ง แตกต่างมั้ยระหว่างครั้งแรกกับครั้งนี้
แตกต่างค่ะ เหมือนเรารู้หมดแล้วว่าเขาคิดอะไร แต่ตอนซีซัน 2 กลัวมาก เขาจะคิดอะไรนะ เขาจะไม่ชอบเรามั้ยถ้าเราหัวเราะดัง แต่พอเรียนรู้กันไปซักพัก รู้เลยว่าเรานิสัยคล้ายกันมาก พี่เกดชอบบอกเสมอว่าหนูคือเมทินีตอนเด็ก(หัวเราะ) เขาชอบพูดแบบนี้ค่ะ หนูก็จริงเหรอ ตอนเด็กๆ พี่เกดเป็นแบบนี้เหรอ
แล้วพอมาครั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่เราไปทำงาน 2 ปีที่ผ่านมา เราโทรศัพท์คุยกันบ่อยมาก เรานัดกินข้าวกัน เพราะถ้ามีปัญหาอะไร หนูจะโทร.หาพี่เกดคนแรกเลย ร้องไห้กับพี่เกดเยอะมาก(ลากเสียงยาว) ก็เลยจะสนิทกันมาก พอมาครั้งนี้เรารู้แล้วว่า คือแม่ไม่ต้องอ้าปากพูดเลย รู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาไม่ชอบอันนี้แน่ๆ เราก็จะพยายามช่วยแก้ เพราะเราไม่อยากให้เขาอารมณ์เสีย เราก็พยายามบอกเพื่อนในทีมว่าอย่างนี้นะ อย่างนั้นนะ


จีน่าและเมนเทอร์ทั้งสอง

แล้วได้ร่วมงานกับเมนเทอร์คริสครั้งแรก เป็นยังไงบ้าง
เปิดประตูมาเราก็ไม่รู้ว่าเขาจับได้คู่กัน พอเห็นว่าคู่กัน เราก็ เฮ้ย...สวรรค์อะ เพราะหนูคิดไว้ว่าถ้าพี่เกดไม่ยกเลือกหนู หนูจะเลือกพี่คริส แล้วเขาได้อยู่ด้วยกัน แล้วพอได้พูดคุยกับเขา หนูรู้สึกว่าเขาเป็นคนน่ารักมาก เขาเหมือนเป็นพี่สาวคนโตในทีม เขาคอยบอกว่าอันนี้ผิดนะ อันนี้ถูกนะ เราต้องทำอย่างนี้ เราน้องแก้ปัญหาตรงนี้ ไม่ใช่หันหลัง เราต้องแก้ปัญหา คือคอยบอกว่าชีวิตจะต้องดำเนินไปยังไงในวงการนี้ เขาจะบอกทุกอย่าง หนูรู้สึกขอบคุณมากที่พี่คริสเปิดรับหนู

เห็นแต่มุมซีเรียส แล้วมีมุมฮาๆ บ้างมั้ย
ตายแล้วหนูโดนด่าแน่เลย(หัวเราะ) จริงๆ พี่เกด ทุกคนจะชอบคิดว่าเขาดุ เพราะพี่เกดชอบบอกว่า เวลาไปรายการไหนให้บอกว่าเขาดุ แต่จริงๆ เขาเป็นคนอ๊องๆ จริงๆ นะ เขาจะเป็นคนแบบ...เขาจะตลกนิดนึงนะคะ เขาจะคล้ายๆ หนู จะไม่มีตรงกลาง ถ้าอ่อนหวานก็คือสุดโต่ง ถ้าปรี๊ดแตกก็คือสูงสุด(หัวเราะ) ถ้าตลกสุดเหรอคะ เคยไปกินข้าวด้วยกัน ตอนนั้นเป็นทีมลูกเกดเฉยๆ นะคะ แล้วเหมือนเขาอยากร้องเพลง เขาก็ไปเอาไมค์นักร้องมาร้อง ชวนพวกหนูร้อง แล้วปีนขึ้นโต๊ะกัน อะไรประมาณนี้ เขาจะเป็นแบบนี้ (หัวเราะ) ไม่ได้คีปลุกอะไรเลย เวลาเขาเจอเพื่อนหรือเจอลูกทีม เขาจะปล่อยตัวเอง จริงๆ เขาเด็กกว่าอายุเยอะมากๆ เลย
คนที่โตน่าจะเป็นพี่คริสมากกว่าด้วยซ้ำ พี่คริสจะมีหลักการในการใช้ชีวิต น้องต้องทำอย่างนี้นะ เดี๋ยวน้องต้องเจอสิ่งนี้แน่ๆ ในวงการ พี่คริสจะให้ข้อคิดเยอะมากกว่า พี่คริสชอบปล่อยมุกด้วยค่ะ แต่เป็นมุกแบบแป้กๆ แบบ...อยู่ต่อหน้าแฟนคลับ แล้วเวลาหนูเล่นอะไรตลกๆ เขาก็เหมือนจะมาต่อมุกหนู แต่มันก็แบบแป้กๆ อะไรประมาณนั้น



เพื่อนร่วมทีมล่ะ มีมุมฮาๆ บ้างมั้ย เม้าให้ฟังหน่อย
ใครดีอะ...หงส์(กาญศิริ ศิริมาตย์) แล้วกัน ไม่รู้เป็นอะไร หงส์จะชอบเปิดตากว้างมาก จริงๆ นะ ถ้าสังเกต ไม่รู้เป็นอะไร เวลาซ้อมนะสวยมาก แต่เวลาเดินจริงชอบถลึงตา พี่เกดก็จะปวดหัวเล็กๆ กับการถลึงตาของหงส์ ทุกคนก็จะ นี่แหละหงส์ ถ้าหงส์หรี่ตาเดินออกมา ก็จะไม่ใช่หงส์แน่นอน
ส่วนดารัญก็จะเป็นเออออห่อหมก นี่คือฉายานาง เวลาทุกคนพูดอะไรก็จะ เออใช่ๆๆๆ จนทุกคนรู้แล้วว่า ไม่รู้ว่ามีความคิดส่วนตัวเป็นของตัวเองรึเปล่า บอกดารัญเดี๋ยวจะไปนี่ เออไปด้วย อันนี้อร่อยมาก เอออร่อย ทุกอย่างจะเออออห่อหมกตามเพื่อนหมดเลย มันก็เลยเป็นเหมือนทุกคนรักกัน เลยคิดไปในทางเดียวกันหมด


เติร์ด / น้ำหวาน / นิกกี้ / จีน่า / ดารัญ / หงส์ สมาชิกทีม คริส – ลูกเกด

คิดว่าความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง ตั้งแต่ ss2 จนถึง ALL STARS คืออะไร
1.เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นค่ะ เพราะว่าเราทำงานมาเยอะพอสมควร เราได้เจอผู้ใหญ่สอนหลายๆ อย่าง 2.ตั้งใจทำงานมากขึ้น เพราะว่างานที่ได้มาแต่ละชิ้นเนี่ยค่ะ หนูรู้สึกว่า มันเป็นเพราะตอนนั้นที่เราเลือกมาประกวด THE FACE แล้ววันนี้เราได้มันมา เราจะทำให้มันแย่เหรอ เหมือนตอกย้ำตัวเองตลอดเวลาว่า เราไม่ได้ตำแหน่งแต่เราต้องทำงานให้ดีที่สุดในแต่ละชิ้น เพื่อที่จะได้รับโอกาสไปเรื่อยๆ เพราะเราไม่เคยรู้เลยว่าจะมี THE FACE ALL STARS มาให้เราแก้มืออีก
แล้วก็ 3.ความอดทน ทุกอย่าง หนูอดทนมาก อดทนที่จะต้องฟังทุกคนบอกว่า เธอไม่ใช่ THE FACE 2 ปีที่ผ่านมา มันทำให้เป็นแรงผลักดัน ตอนนี้เหมือนมีพลังทำงานในแต่ละเช้ามากขึ้น มันเกินร้อย ขอบคุณพี่คริสกับพี่เกดมากที่ทำให้หนูปลดล็อกตัวเองได้ แล้วทีนี้เราไม่เคยรู้เลยว่าทำงานแต่ละครั้ง เราให้กับงานไปกี่เปอร์เซ็นต์ กี่ร้อย แต่พอวันที่เราชนะ หนูเดินกลับไปกอดพี่เขา 2 คน แล้วบอกว่า ขอบคุณมากที่ปลดล็อกหนู หนูรู้แล้วว่ามันต้องเต็มที่แบบนี้ เราถึงจะได้ในสิ่งที่เราหวังมา


Ginaa’s lifestyle



หนูนะ เอาจริงๆ ตอนนี้ถ้าว่างคือนอน แต่ว่าทุกเข้าตื่นมาหนูจะต้องวิ่ง 30 นาที หรือเดินเร็ว เพราะว่าเราไม่มีเวลาออกกำลังกาย เหมือนเวลาที่จะออกกำลังกายตอนนี้มันหายไปเลย หนูเป็นคนรู้สึกว่า ถ้าเราไม่ให้เหงื่อออก มันก็จะรู้สึกตันๆ แต่ก่อนหน้านี้ออกกำลังกายหนักพอสมควรค่ะ ออกกำลังกายเสร็จแล้วก็ว่ายน้ำต่อ แล้วก็ซาวน่า ระบบนี้มันช่วยให้เรื่องผิวด้วยค่ะ
ตอนนี้พยายามกินผักให้เยอะขึ้น เพราะมีเวลาออกกำลังน้อยมาก แล้วนอนน้อยอีก ถ้าเราไม่ช่วยจากข้างใน มันจะแย่ค่ะ ต้องกินวิตามินเยอะมากค่ะ แล้วก็ดื่มน้ำตลอด เลิกกินแป้ง กินของมัน แต่ก็ยังไม่ขาด เป็นคนตามใจปากนิดนึงค่ะ โชคดีเป็นคนอ้วนยาก ผอมง่าย


ถึงจะแพ้ แต่ต้องอยู่เหนือเกม!

ทำไมตอนซีซัน 2 ถึงตัดสินใจมาสมัคร ปกติเป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องการเดินแบบอยู่แล้วรึเปล่า
ใช่ค่ะ เป็นความฝันของหนูเลย ตั้งแต่เด็กแล้ว เราโตมากับช่องแฟชันชาแนลค่ะ ที่มันเป็นเดินแบบทั้งวัน หนูจะดูช่องนั้นตลอดเวลา แล้วเราก็รู้สึกแบบ...เอ้ย เราอยากเป็นอย่างนี้ เราอยากเดินแบบอย่างนี้ ไม่รู้เพราะอะไรนะคะ แต่ชอบมาก แล้วก็ชอบดูการแต่งตัวของนางแบบเมืองนอก คือเหมือนหลงรักในการแต่งตัวอะไรแบบนี้ค่ะ ก็เลยโตมาแบบนั้น ก่อนหน้านี้ ทุกคนจะบอกว่า ไปประกวดมิสยูนิเวิร์สมั้ย จีน่าเหมาะมาก หน้าเราไปทางนี้นะ หนูก็แบบ...ไม่ค่ะ จริตหนูไม่ได้เลยพี่ หนูไม่สามารถโบกมือทักทายคน หรือยิ้มได้ตลอดเวลา รักเด็กก็ไม่ใช่(หัวเราะ)
แล้วพอมีเวทีนี้ขึ้นมา ก่อนหน้านี้เราทำงานมาแล้ว 2 ปี แล้วหนูสนิทกับซาบีน่า(อจิรภา ไมซิงเกอร์ ผู้ชนะ THE FACE THAILAND ss1 ) แล้วซาบีน่าเป็นคนโทรมาบอกว่า ยูต้องไป วันนี้วันสมัคร แล้วหนูก็คิดอยู่สักพักใหญ่ๆ เลยว่า เอาจริงเหรอ แล้วเราจะได้เหรอ คือตอนนั้น 4 ep. ก็หรูแล้ว ก็เลยเอาวะ ไปก็ไป ก็เลยไปสมัครค่ะ


“โหนลูกพรุนยักษ์” แคมเปญสุดหินของจีน่า

ตั้งแต่แข่งมา คิดว่าแคมเปญไหนโหดสุด
โหดสุดนะคะ จริงๆ ก็คงเป็นพวกใต้น้ำ สลิง แล้วก็แคมเปญสุดท้ายที่เราชนะ ที่ช่วยเด็กในรถค่ะ ทุบรถ แต่หนุรู้สึกชอบนะ เป็นคนชอบใช้พลัง แต่เอาจริงๆ เป็นคนกลัวความสูง แคมเปญลูกพรุนคือแย่มาก(ลากเสียงยาว) แต่เราไม่ได้บอกใครไงคะว่าเรากลัว เรารู้สึกว่าก็ต้องทำ จะมานั่งบอกว่าเรากลัวก็ไม่ได้ เราต้องทำ

ถ้าให้นั่งมองตัวเอง คิดว่าอะไรคือเอกลักษณ์ว่านี่คือจีน่า ตัวเองเป็นคนยังไง
ทุกคนจะชอบบอกว่าหนูดีด เล่นใหญ่ เสียงดัง เอกลักษณ์ของหนูจะเป็นพวกแววตา จริต ทุกคนจะชอบพูดว่า “จริตนาง” เลยทำให้เราดูมีเอกลักษณ์มั้งคะ แล้วก็กิ๊บติดผมสีๆ ค่ะ ติดประจำ ติดเต็มผมค่ะ



ในรายการดูเป็นคนมีความมั่นในสูงมาก แล้วสถานการณ์แบบไหนที่ทำให้หมดความมั่น
ทุกครั้งที่ประกาศว่าเราแพ้ค่ะ มันก็จะรู้สึกเฟล คือโชคดีที่พวกหนูได้พี่คริสกับพี่เกดคอยบอกว่า ไม่เป็นไรน้องอย่าเฟล เพราะถ้าเฟลมันจะมีผลต่อสัปดาห์หน้าที่เราจะทำแคมเปญ เอาใหม่ เราไม่ได้ตายซะหน่อย นี่มันไม่ใช่สิ่งสุดท้ายในชีวิตเรา เขาก็จะคอยบอก คอยเตือนสติ ถ้าไม่เตือน เราคงท้อไปแล้ว เคยคิดว่าหรือเราจะออกกันทั้งทีมเลยมั้ย ขอเมนเทอร์เข้าห้องดำทั้งทีมเลยดีมั้ย ให้มันออกๆ ไปเลย เคยถึงขั้นนั้นนะคะ ก็ไม่ได้บอกเมนเทอร์ตัวเอง แค่คิดกันเองในกลุ่ม

ดรามาในรายการ มีสคริปต์จริงมั้ย
รายการไม่เคยมีสคริปต์ค่ะ จริงๆ แต่อาจจะมีทีมงานคอยถามว่ารู้สึกยังไง เหมือนจี้จุดเรา เรายิ่งแพ้เขาจะยิ่งจี้ แล้วเราจะยิ่งโมโห เพราะฉะนั้นหนูเรียนรู้แล้ว ซีซัน 2 หนูโดนเยอะมาก เราเรียนรู้แล้วถ้าเราตามเกมเขา เราก็จะเป็นฝ่ายแพ้ของจริง เพราะฉะนั้นเราต้องอยู่เหนือเกม พี่เกดกับพี่คริสจะคอยบอกเสมอว่า แพ้ยังไงก็ได้ให้อยู่เหนือเกม น้องไม่ต้องเสียใจเลยกับการแพ้ เพราะเราทำดีแล้ว แต่เราแค่ไม่ถูกจริตลูกค้า แค่นั้นเอง



อยากให้พูดถึงความประทับใจที่ผ่านมาในรายการ
ประทับใจที่สุดเลยคือมิตรภาพ จริงๆ นะคะ หนูโชคดีมากๆ ที่ได้โตมากับพี่เกด เพราะพี่เกดจะสอนให้พวกเรารักกัน ทุกเดือนเราจะต้องนัดกินข้าวกัน จะต้องเจอกัน แลกเปลี่ยนกัน ในกรุ๊ปทีมลูกเกดคุยกันแทบทุกวันเลยค่ะ เหมือนเราขาดกันไม่ได้แล้ว พี่คริสติดเด็กมาก(ลากเสียงยาว) จะต้องอัปเดตตลอด หนูประทับใจตรงนี้มาก หนูโชคดีมากๆ จริงๆ หนูเชื่อว่าทีมอื่นก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน แล้วก็สิ่งที่ได้จาก The face เลย คือความอดทนและความพยายาม วันนี้รู้แล้วว่ามันไม่สูญเปล่าแน่นอน ถ้าเราพยายามจริงๆ ค่ะ

“ละคร” คือตัวตนของหนู

ตอนนี้มีผลงานอะไรบ้าง
ตอนนี้มีถิ่นผู้ดีค่ะ ช่อง 7 ออนแอร์อยู่ค่ะ ใกล้จะจบแล้ว แล้วก็มีงานเดินแบบถ่ายแบบทั่วไปค่ะ

ผ่านงานอะไรในวงการบันเทิงมาแล้วบ้าง
ตอนนี้เป็นพิธีกรรายการ ET Thailand ช่อง PPTV ค่ะ จะมีพิธีกร 7 คน เป็นทีมใน THE FACE หมดเลยค่ะ 7 คน แล้วก็เดินแบบถ่ายแบบ , MV , เล่นละคร แล้วก็เคยผ่านเวทีประกวด Thai Supermodel Contest 2011 ได้ตำแหน่ง Body Perfect by สก๊อต รังนกแท้ รอเยล พรีเมี่ยม ไซลิทอลค่ะ


ชิมลางงานพิธีกร

ตั้งแต่ทำงานในวงการมา คิดว่าตัวเองชอบหรือถนัดอะไรมากที่สุด
ตอนแรกเราคิดว่าเราชอบเดินแบบ แต่พอมาประกวด ซีซัน2 แล้วเราได้มีโอกาสเล่นละคร เรารู้สึกแล้วว่านี่คือเราเลย เราชอบที่จะปล่อยพลัง เราชอบที่จะทำสิ่งนี้ ไม่รู้ทำไม รู้สึกอยากไปกองละครทุกวัน

ถ้าให้เทียบระหว่างเดินแบบกับเล่นละคร ก็คือชอบละครมากกว่าอยู่ดี?
ใช่ค่ะ แต่เราก็ไม่ได้ทิ้งงานเดินแบบ เพราะเราโตมากับมัน มันเหมือนอยู่ในสายเลือดไปแล้วค่ะ

มีบทไหนที่อยากลองเล่นอีก
บทโรคจิตค่ะ อยากเล่นบทโรคจิต เพราะหนูยังติดใจตอน ss2 อยู่ ที่แคมเปญสุดท้ายต้องเล่นเป็นบทโรคจิตๆ หน่อยนึงค่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่เคยได้ลองเล่น ตอนนี้เล่นแค่ร้ายกับดีอยู่ค่ะ ร้ายตลก อะไรแบบนี้



ไอดอลในวงการบันเทิงของจีน่าคือใคร
ถ้าเดินแบบ จริงๆ ชอบการเดินของ Bella Hadid มาก แต่ก็ชอบ Kendall Jenner ด้วย แต่ถ้าเป็นที่ไทยนะคะ ก็เป็นพี่บี น้ำทิพย์ กับพี่เกดเลย พี่ซินดี้(สิรินยา บิชอพ)ด้วย เพราะว่าแต่ละคนมีคาแรกเตอร์ไม่เหมือนกัน เราก็จะเอาไปปรับใช้ในแต่ละงานได้ค่ะ ส่วนเรื่องการแสดง จริงๆ หนูชอบฝั่งของผู้ชายมากกว่า จะชอบแบบ...ชอบของพี่ชาคริต(ชาคริต แย้มนาม) ชอบของพี่ซันนี่ (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) หนูรู้สึกว่าพี่เขาเป็นธรรมชาติ หนูชอบคาแรคเตอร์แบบธรรมชาติๆ

ในเส้นทางนี้ คิดว่าตัวเองเดินมาได้กี่เปอร์เซนต์แล้ว
จริงๆ เหมือนเพิ่งเริ่มเลยอะ จริงๆ คิดว่าเราอยู่มานานแล้วเนอะ ประมาณ 4 ปีกว่าๆ เกือบ 5 ปีแล้ว เดินแบบแล้ว เล่นละครแล้ว พิธีกรก็เริ่มทำ แต่ความเป็นจริง ที่เพิ่งผ่านวันเสาร์นี้มา เพิ่งเริ่มต้นเลยอะ มันยังมีอะไรใหม่ๆ เข้ามาอีกเยอะมากตอนนี้ค่ะ จริงๆ มันเหมือนเพิ่งจะเป็นบันไดก้าวที่ 3 เองมั้งคะ



สำหรับจีน่า คิดว่าการที่จะอยู่ในวงการบันเทิงได้นาน อะไรคือสิ่งสำคัญ
สิ่งสำคัญเลยนะ หนูว่าสิ่งแรกเลย เราต้องมีสัมมาคารวะ แล้วก็ตรงต่อเวลา 2 สิ่งนี้มันทำให้เราอยู่ได้ คือต่อให้เราทำงานออกมาได้ไม่ดีมาก ถ้าสมมติเราน่ารัก เราตรงต่อเวลา เราไนซ์ มันเป็นอะไรที่สำคัญจริงๆ นะในวงการนี้

มีแผนจะโกอินเตอร์ไว้มั้ยในอนาคต
ยังค่ะ หนูยังอยากทำงานในไทย หนูเพิ่งได้ตำแหน่งเอง ยังอยากทำงานที่ไทยอยู่ อนาคตไม่รู้ แต่ว่าตอนนี้หนูยังอยากทำงานกับทางทีมงานเราอยู่ค่ะ เพราะว่าเราโตมาตรงนี้ แล้วเราสบายใจมาก ขอโตตรงนี้ก่อน

สุดท้าย ฝากถึงคนที่ติดตามรวมถึงคนใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามารู้จัก
แต่ละคนก็น่าจะมีคติในการทำงานไม่เหมือนกัน แต่อยากฝากไว้ว่า ถ้าเราพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เราจะไม่หยุดอยู่กับที่ แล้วก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ เดี๋ยวจะมีอะไรใหม่ๆ ให้ติดตามกันอีกเยอะเลยค่ะ รับรองว่าแซ่บแน่นอน ยังคงคอนเซ็ปท์แซ่บ (หัวเราะ)


เข้าใจ + ซื่อสัตย์ = ความรัก



หนูเป็นคนติดเพื่อน เป็นคนบ้างานค่ะ ชอบทำงาน ก็เลยรู้สึกว่าคนที่จะต้องอยู่กับเรา ต้องเข้าใจซึ่งกันและกันมากๆ หนูเชื่อว่าความเข้าใจและความซื่อสัตย์ เป็นอะไรที่สำคัญมากต่อความรัก ซึ่งมันก็ยากพอสมควร ความเข้าใจมันคือไม่ใช่พยายามเข้าใจนะคะ มันต้องเข้าใจจริงๆ แม่หนูจะบอกเสมอว่า มันจะมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราต้องอดทนในเรื่องของความรักนั้น ทุกคู่มันจะไม่เหมือนกัน แต่จะมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราต้องอดทน ถ้าเราผ่านมันไปได้ มันก็คือชีวิตคู่ค่ะ


สัมภาษณ์โดย : ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพ : อินสตาแกรม @ginaa.24


กำลังโหลดความคิดเห็น