“เพียงสมัครสมาชิก รับเงินปันผลหลักหมื่น-แนะนำบอกต่อได้เพิ่ม” ธุรกิจขายฝันคนอยากรวย ผุดขึ้นอย่างกับดอกเห็ด ล่าสุด ปิดบัญชีขบวนการแฟรนไชส์ขายฝันได้อีกราย ทำคนหลงสมัครเสียหายร่วม 100ล้าน! สังคมออนไลน์วิจารณ์เผ็ด 'ก็โง่เอง..ช่วยไม่ได้' ด้านนักการตลาดวิเคราะห์เชิงลึก ยิ่งอยากรวย..ยิ่งเข้าทางมิจฉาชีพ!
“แฟรนไชส์ขายฝัน“ พารวยหรือพาหมดตัวกันแน่!?
“โอกาสก็เหมือนไอติม ถ้าไม่รีบกินมันก็จะละลาย คุณเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ได้รับปันผล แนะนำบอกต่อแฟรนไชส์ได้ค่าลิขสิทธิ์ ว้าว!!”
ข้อความโฆษณาชวนเชื่อขายฝันแก่ผู้อยากรวย! ถูกเผยแพร่ตามสื่อโซเชียลฯ อย่างกว้างขวาง หลังงัดกลยุทธ์เด็ดทางการตลาด “สมาชิกได้เงินปันผล-แถมดอกเบี้ยสูง-แนะนำบอกต่อได้อีกหลักหมื่น”จากหนุ่มเจ้าของฉายา 'อายุน้อยร้อยล้าน' ต้น-ชาญณรงค์ โพธิ์งาม ทำคนหลงเชื่อยกใหญ่ก่อนหอบเงินหายไปในกลีบเมฆ!!
ถือเป็นกระแสการตลาดด้านมืดที่ยังคงฉาวไม่หยุด สำหรับ 'ธุรกิจขายฝัน' สร้างภาพชีวิตหรูหรา-อู้ฟู่ ล่อลวงสมัครสมาชิก โดยได้มีการเชิญชวนผู้สมัครร่วมลงทุนกับบริษัท เอสเอฟ กรุ๊ป ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการขายแฟรนไชส์ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ซึ่งผู้ที่สมัครจะต้องสมัครสมาชิกเป็นเงิน 90,000 บาท โดยจะได้รับเงินปันผลจำนวน 5,000 ต่อเดือน
ทั้งนี้ หากสมาชิกที่สมัครสามารถแนะนำบุคคลอื่นมาสมัครสมาชิกเพิ่มจำนวนได้อีก จะได้ค่าแนะนำจำนวน 25,000 ต่อคน ซึ่งหากมีการแนะนำมากกว่า 2 คนขึ้นไป จะได้เพิ่มอีกรายละ 7,500 บาท!! พร้อมพาเที่ยวต่างประเทศฟรีอีกด้วย
ล่าสุด 'พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงค์' นำกำลังเข้าจับกุมตัวนักต้มตุ๋นรายนี้เป็นที่เรียบร้อย ฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หลังจากที่มีผู้เสียหายร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ขณะที่เจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำการหลอกลวงผู้เสียหายใดๆ
จากการตรวจสอบข้อมูลของทีมข่าว ผู้จัดการ Live พบว่า บิ๊กบอสรายนี้ได้มีการสร้างภาพลักษณ์ให้กับตัวเองตามสื่อต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง เพื่อเป็นการการันตีความน่าเชื่อถือในสายตาของสมาชิก โดยการอ้างตัวว่าเคยได้รับรางวัลคนไทยตัวอย่าง อีกทั้งยังเคยออกรายการ 'อายุน้อยร้อยล้าน' อีกด้วย
หลังจากเกิดกระแสธุรกิจขายฝันถูกเปิดโปงเพิ่มอีกราย จนทำให้โลกโซเชียลฯ วิจารณ์กันอย่างดุเดือดว่าถึงแม้ธุรกิจประเภทนี้จะมีให้เห็นถึงภัยด้านมืดตามสื่อกระแสหลักอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังไม่วายมีผู้ที่หลงเชื่อ ยอมเทเงินในกระเป๋าให้ขบวนการหลอกรวยเช่นนี้ให้เห็นอยู่ไม่ขาด
“เวลาพูดก็ว่าได้เงินง่ายแล้วโน้มน้าวเก่ง น่าจะโดนไปหลายคน พวกนี้เหมือนมาสะกดจิต เป็นการโน้มน้าวใจเชิงจิตวิทยา ขนาดเพื่อนๆ ซึ่งก็มีการศึกษาสูงบางคน ยังตามน้ำไปด้วยเลย”
“พวกนี้มีวิธีพูดโน้มน้าวใจครับ จิตวิทยาล้วนๆ หลักการและเหตุผลให้เราคล้อยตาม เราต้องจิตแข็งครับ ต้องใช้การคิด-ใช้เหตุผลให้มากๆ อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด”
“มีแต่คน"โลภ" และ "โง่" เท่านั้นแหละที่ตกเป็นเหยื่อ ทำแล้วรวยใครจะมาบอกให้โง่”
“คนที่รวยด้วยตัวเองจริงๆ คำพูดเขาจะทำให้เรารู้สึกว่าสามารถนำมาปรับใช้ได้ ไม่ไกลตัว แต่มันทำให้เรารู้สึกมันยาก มันลำบาก ส่วนพวกขายฝันก็ตามชื่อคือจะพูดแต่สิ่งที่เราอยากฟัง เราอยากได้เหมือนยกความฝันมาให้เราจับต้องได้ ง่ายๆ สบายๆ”
หากินกับ “ความโลภ” รวยทางลัดไม่มีจริง!
หลังข่าวคราวธุรกิจขายฝัน-แชร์ลูกโซ่-ขบวนการหลอกลวงคนโลภโผล่ให้เห็นตามสื่อกระแสหลักอย่างไม่หยุดหย่อน! เพื่อวิเคราะห์กลยุทธ์ทางการตลาดธุรกิจขายฝันเชิงลึก ทีมข่าว ผู้จัดการ Live ได้ติดต่อไปยัง 'อ.วีรพล สวรรค์พิทักษ์' นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดถึงประเด็นดังกล่าว
โดยได้มีการอธิบายถึงสาเหตุหลักที่ทำให้ธุรกิจขายฝันเหล่านี้ประสบความสำเร็จ แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีกรณีตัวอย่างให้เห็นกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าธุรกิจลักษณะนี้ก็ยังผุดขึ้นมาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว!
“ประเด็นแรกคือ ภาพรวมในช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี คนมักจะหาช่องทางให้ตัวเองมีรายได้ ส่วนประเด็นที่สอง ด้วยเจนเนอเรชั่นของคนรุ่นใหม่ ทั้ง Gen Y และ Gen Z คนรุ่นนี้ไม่ได้เกิดมากับการสร้างเนื้อสร้างตัว ฉะนั้น ถ้ามีช่องทางที่จะทำให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการทำงานก็จะมองหาวิธีการพวกนี้
ส่วนมากเป้าหมายของธุรกิจขายฝัน จึงเป็นกลุ่มคนในช่วง Gen Yกับ Gen Z ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ นอกเหนือไปจากเรื่องของเจนเนอเรชั่น ประเด็นถัดมาคือกลุ่มคนผู้สูงอายุที่เกษียณและไม่มีรายได้ ประกอบกับสังคมไทยกำลังเป็นสังคมผู้สูงอายุ
ฉะนั้น ผู้ที่ไม่มีงาน แต่ต้องการรายได้มาดูแลตัวเอง ธุรกิจพวกนี้จึงมองคนเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งเป้าหมาย
ประเด็นต่อมาที่ทำให้ธุรกิจขายฝันพวกนี้ประสบความสำเร็จ ยึดตามแนวคิดของ 'อับราฮัม มาสโลว์' เลยนะครับว่า คนเรามีความต้องการพื้นฐานที่ไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคุณสำเร็จในขั้นแรก คุณก็จะอยากประสบความสำเร็จในขั้นต่อๆ ไป มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์
ดังนั้น ธุรกิจประเภทนี้มันจึงเป็นธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการของคนที่มีสูงขึ้นเรื่อยๆ ได้ เราสังเกตได้อย่างหนึ่งว่า ธุรกิจพวกนี้จะนำคนที่ประสบความสำเร็จมาแสดงให้ดู ผมว่าทุกอย่าง ไม่ใช่แค่ธุรกิจขายฝัน มันมีตัวอย่างให้เห็นเยอะเลย เช่น โพสต์ว่าแพ็คสินค้าไม่ทัน ของหมด ของขาด คนจะรู้สึกว่าฉันก็น่าจะทำได้”
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด อ.วีรพล ยังเผยทิศทางของธุรกิจขายฝันในอนาคตอีกด้วยว่า มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างแน่นอน ซึ่งเหตุผลที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นคือการมีเป้าหมายที่พุ่งตรงไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาโอกาสและแนวทางในการประสบความสำเร็จด้วยวิธีที่รวดเร็ว
“ผมว่าในอนาคตรูปแบบธุรกิจประเภทนี้มันจะเพิ่มขึ้น เพราะมันมีเป้าหมายแน่นอนว่าในอนาคตคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาทำงานในออฟฟิศจะน้อยลง หรือเป็นลูกจ้างน้อยลง เพราะคนอยากเป็นเจ้านายตัวเองกันเพิ่มขึ้น จึงทำให้ธุรกิจขายฝันพวกนี้กลายเป็นอีกช่องทางหนึ่ง รวมถึงธุรกิจ E-Commerce การซื้อ-ขายออนไลน์ที่เติบโต
มันก็เป็นช่องทางในการค้าขายที่ทำให้คนพวกนี้เติบโตได้ง่าย ทั้งนี้ แม้สองประเด็นนี้จะสนับสนุนกันก็ตาม แต่ภาครัฐก็ควรเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบมากขึ้น ทว่า ธุรกิจขายฝันก็มีจุดอ่อนด้วยเหมือนกัน ต้องดูว่ามีการจดทะเบียนรูปแบบธุรกิจถูกต้องไหม หรือบริษัทมีตัวตนหรือไม่ รวมถึงช่องทางการขายที่มีกฎหมายระบุชัดเจน”
สุดท้าย อ.วีรพล ยังฝากถึงผู้บริโภคหรือกลุ่มคนที่มีแนวคิดสนใจธุรกิจลักษณะนี้ด้วยว่า ให้ศึกษาข้อมูลอย่างถูกต้องและละเอียดรอบคอบเสียก่อนหลงเชื่อคำโฆษณาใดๆ จนนำมาสู่ความเสียหายที่ไม่สิ้นสุด
“ผมเชื่อว่าไม่มีธุรกิจไหนในปัจจุบันที่มันจะฟลุค บังเอิญ หรือรวยขึ้นมาง่ายๆ ดังนั้นคนจะทำธุรกิจ ถึงแม้ว่าจะรวยเร็วก็ตาม แต่มันมีเส้นทางของมันอยู่ ต้องอย่าไปเป็นเหยื่อว่าเราจะรวยได้ในสัปดาห์เดียว หรือลงทุนแล้วรวยทันที
ผมว่าการทำธุรกิจมันมีเส้นทางการเติบโตของมัน ถ้าคุณพยายาม รายได้มันก็จะมา แต่ถ้าหวังจะรวยทางลัดอย่างเดียว ผมว่าแบบนี้มันไม่น่าจะประสบความสำเร็จ เพราะถ้าธุรกิจแบบนี้มันดีจริง เขาก็คงทำเองแล้ว”
ข่าวโดย ทีมข่าวผู้จัดการ Live
