หากินกับความโลภ! เตือนภัย “โครงการรากหญ้า” แจกเงินเป็นล้าน ให้ชาวบ้านใช้ฟรีๆ แต่มีข้อแม้ว่าขอสำเนาเอกสารแบบสี ไม่ต้องมีอะไรขูดขีดฆ่า เหยื่อเห็นเงินแล้วยิ้มร่า ส่งเอกสารใส่พานให้ สุดท้ายหากข้อมูลถูกนำไปทำเรื่องผิดกฎหมาย คงได้ฉิบหายกันทั้งบาง!!
“โครงการรากหญ้า” ปลดหนี้หรือเป็นหนี้?!
“ระวังกันด้วยนะครับ เตือนคนเฒ่าคนแก่ที่บ้าน อย่าหลงเชื่อ พวกนี้ไม่จริง ไม่มีกองทุนบ้าบอไรแบบที่ว่าทั้งนั้น”
ข้อความข้างต้น จากเพจเฟซบุ๊ก “Drama-addict” ออกมาเตือนภัยชาวโซเชียลฯ ถึงกรณีของ “ขบวนการโครงการสานฝันรากหญ้า” ขบวนการที่อ้างตัวว่า จะนำเงินกองทุนมาปลดหนี้ให้แก่ชาวบ้านกันไปฟรีๆ ตั้งแต่หลักแสน ไปจนถึงหลักล้าน ซึ่งเป็นขบวนการที่กำลังระบาดอย่างหนักอยู่ตามต่างจังหวัดของบ้านเรา
สำหรับเงื่อนไขในการเข้าโครงการนี้ ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแค่ลงชื่อ และกรอกเอกสารสำคัญต่างๆ ทั้ง เลขที่บัญชี บัตรประชาชน บัญชีธนาคาร และที่สำคัญ สำเนาเอกสารเหล่านั้น ต้องไม่มีการขีดคร่อมหรือเขียนอะไรลงไป เมื่อเสร็จแล้วก็ส่งเอกสารให้ผู้ดำเนินโครงการและรอรับเงินไปใช้แบบฟรีๆ
“พอมันเอาเอกสารสำคัญไปได้ จะเอาไปทำไรไม่มีทางคาดเดาได้เลย ถ้าเกิดเอาไปทำไรผิดกฎหมายนี่ -บหายกันทั้งตำบลเลยนะ” แอดมินเพจดัง กล่าวทิ้งท้าย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “โครงการรากหญ้า” ถูกหยิบขึ้นมาตั้งคำถาม โดยก่อนหน้านี้เมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว ทางเว็บไซต์ Pantip กลุ่มสังคมออนไลน์ชื่อดัง ได้มีสมาชิกหมายเลข 1931854 ตั้งกระทู้ถามถึงความผิดปกติของโครงการนี้ ในหัวข้อ
“โครงการรากหญ้านี่ได้เงินจริงหรือเปล่า”
เนื้อหาภายในกระทู้ ระบุว่า เหตุการณ์เริ่มจากญาติของเจ้าของกระทู้ ได้ชักชวนให้เข้ากลุ่มไลน์สำหรับพูดคุยเรื่องกู้เงินเพื่อการเกษตร รวมถึง “โครงการรากหญ้า” ที่ให้เงินฟรี โดยมีจำนวนเงินดังนี้ รากหญ้า 2 ได้ 400,000 บาท , รากหญ้า 3 ได้ 500,000 บาท , รากหญ้า 4 ได้ 1,000,000 บาท และรากหญ้านำร่อง 400,000 บาท
อีกทั้งเอกสารที่ต้องนำส่งโครงการก็ไม่เหมือนกับสำเนาเอกสารที่ใช้กันทั่วไป เพราะต้องใช้สำเนาเอกสารแบบสี กระดาษ A490 แกรม ห้ามถ่ายสำเนาเบี้ยว และห้ามเซ็นทับเอกสารด้วย ซึ่งหลังจากที่รับทราบเงื่อนไข และเห็นข่าวผู้คนที่โดนหลอก เจ้าของกระทู้จึงฉุกคิดและมาตั้งกระทู้ถามถึงโครงการดังกล่าวว่าเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด
หลังจากที่โพสต์ดังกล่าว ถูกส่งต่อกันไปบนโลกออนไลน์ ก็นำมาซึ่งความคิดเห็นจากโลกออนไลน์กันอย่างเนืองแน่น ส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือมองว่าขบวนการเหล่านี้คือขบวนการหลอกลวงชาวบ้าน การที่อยู่ดีๆ จะมีคนเอาเงินมาให้เฉยๆ นั้น เป็นไปไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็มีหลายความคิดเห็นมาเหล่าประสบการณ์ของตนเอง ทั้งแบบที่ตนเองหลงเชื่อเอง และคนในครอบครัวตกเป็นเหยื่อ
“หมู่บ้านของเราก็โดนค่ะ เขาบอกเป็นโครงการรากหญ้า คนในหมู่บ้านแห่กันไปลงชื่อเต็มเลยค่ะ แต่เราไม่ให้แม่เราลงค่ะ มันน่ากลัว ขอสำเนาบัตร ปชช.สำเนาทะเบียนบ้านแบบไม่ขีดคร่อม รูปถ่ายใส่สูท มีวิธีไหนตรวจสอบหรือแจ้งให้เขาตรวจสอบไหมคะ”
“คิดเอา เอาเอกสารเราไป โดยไม่ให้ขีดค่อมอะไรเลย แค่นี้ก็ไม่ไว้ใจแล้วครับ เตือนๆ กันให้ทีครับ ชาวบ้านก็คือชาวบ้าน จะเป็นหนี้กันโดยไม่รู้ตัวเอา”
“คนโลภ คนโง่ ย่อมเป็นเหยื่อของคนโกง”
รู้ทัน ก่อนตกเป็นเหยื่อ “ขบวนโกง”!!
เมื่อทีมข่าวผู้จัดการ Live ทำสืบค้นข้อมูลต่อไป ก็ทำให้พบว่า “โครงการรากหญ้า” โครงการที่อ้างว่าจะให้เงินชาวบ้านกันไปแบบ “ฟรีๆ” ขณะนี้ได้กระจายตัวไปทั่วทุกภูมิภาคในประเทศและยังได้ดำเนินการมานานแล้ว โดยในแต่ละพื้นที่จะมีสิ่งที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย เช่น บางพื้นที่อาจเก็บแค่สำเนาเอกสารเพียงอย่างเดียว ในขณะที่บางแห่ง อาจมีการเรียกเก็บค่าเดินเรื่องเพิ่มเติม ตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพันบาท โดยจะเรียกโครงการนี้ว่า “พันแลกล้าน” คือเรียกรับเงินลงทุนหนึ่งพันบาท เพื่อแลกกับเงินหนึ่งล้านบาท
อีกทั้งการอ้างอิงแหล่งที่มาของเงินก็มีความแตกต่างกันไป มีทั้งที่อ้างว่ามาจากทหาร มาจากรัฐบาล มาจากองค์กรทางศาสนา มาจากกลุ่มเศรษฐีหรือองค์กรจากต่างประเทศ แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือการอ้างว่าเงินที่นำมาแจกนั้น เป็นเงินจากสถาบันเบื้องสูง
แต่จุดเหมือนกันของทุกพื้นที่ในโครงการนี้ คือสำเนาเอกสารที่ใช้ยื่นลงทะเบียน จะต้องถ่ายเอกสารเป็นสี โดยเฉพาะบัตรประชาชน ถ่ายให้เหมือนบัตรประชาชนจริงมากที่สุด ห้ามเอียง ห้ามเบี้ยว และห้ามเซ็นข้อความใดๆ ลงไป อีกอย่างที่เหมือนกันคือ ผู้ดำเนินโครงการจะหาข้ออ้างและเลื่อนการจ่ายเงินไปเรื่อยๆ จึงไม่มีใครได้รับเงินจากการสมัครโครงการนี้แม้แต่คนเดียว
สำหรับพื้นที่ที่ขอเก็บค่าสมัคร เมื่อขบวนการนี้ได้เงินค่าสมัครมาแล้ว ก็จะเชิดเงินหนีหายลอยนวล ปล่อยให้ชาวบ้านที่ถูกชักจูงด้วยลมปาก เฝ้ารอเงินล้านอย่างไร้จุดหมาย และแม้ในบางพื้นที่จะไม่ได้เสียเงินค่าสมัครสักบาท แต่อย่างน้อยที่สุด มิจฉาชีพกลุ่มนี้ก็ได้ข้อมูลทั้งสำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชนแบบไม่ขีดคร่อม ที่สามารถนำข้อมูลไปทำเรื่องผิดกฎหมายได้อีกเพียบ
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผู้ตกเป็นเหยื่อมากไปกว่านี้ ทีมข่าวผู้จัดการ Live จึงขอรวบรวมวิธีจับพิรุธ “โครงการรากหญ้า” เพื่อไม่ให้มีใครหลงตกเป็นเหยื่อเพิ่มอีก ส่วนใครก็ตามที่สมัครไปแล้ว จะได้ตั้งสติและไหวตัวทัน ก่อนที่จะสูญเงินไปมากกว่านี้
1.เหยื่อที่หลงเชื่อขบวนการเหล่านี้มักเป็นผู้สูงอายุตามต่างจังหวัด ซึ่งคนใกล้ชิดต้องหมั่นให้ข้อมูลและชี้ให้เห็นถึงผลเสียที่จะตามมา หากได้ตกลงเข้าร่วมโครงการไปแล้ว
2..หากมีใครมาขอสำเนาเอกสารสำคัญต่างๆ แบบไม่ขีดคร่อม ให้ปฏิเสธที่จะให้ไป เพราะคนเหล่านี้สามารถนำข้อมูลนี้ ไปใช้ทำเรื่องไม่ดีได้อย่างสบายๆ
3.ส่วนใหญ่โครงการเหล่านี้มักมีการอ้างอิงถึงคนใหญ่คนโต รวมถึงองค์กรที่มีชื่อเสียงต่างๆ เพื่อให้เหยื่อตายใจ
4.ข้ออ้างที่มักนำมาใช้ดึงดูดคนบ่อยๆ คือ “ลงทุนน้อยแต่ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันรวดเร็ว”
5.มักจะชักชวนให้คนที่หลงเชื่อแล้ว ชวนญาติพี่น้องหรือคนสนิทให้มาเข้าร่วมโครงการจำนวนมากๆ
6.หากเป็นกลุ่มที่พูดคุยผ่านโลกโซเชียลฯ มิจฉาชีพมักจะใช้ภาพทรัพย์สินจำนวนมาก มาล่อตาล่อใจ
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีหลักๆ ในการจับพิรุธ โครงการหลอกขายฝันคนรากหญ้า สำหรับใครก็ตามที่รู้ตัวว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดตกเป็นเหยื่อ ก็ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการเอาผิดต่อไป
แต่ท้ายที่สุดแล้วนั้น ไม่ว่าจะมีกี่สิบเสียงเตือน หรือกี่ร้อยวิธีจับพิรุธ หากยังมีคนไม่มีสติและปล่อยให้ความโลภเข้าบังตา ยังไงก็ไม่สามารถปราบขบวนการเหล่านี้ให้สิ้นซากลงได้ ...
ขอบคุณภาพและข้อมูล : เพจเฟซบุ๊ก “Drama-addict” และสมาชิก Pantip หมายเลข 1931854