"เขาคือ หนึ่งในการซื้อตัวแห่งศตวรรษของสโมสรฟูแล่ม"
.
ก่อนที่ฟูแล่มจะกลายเป็นทีมระดับกลาง ๆ ในแชมเปี้ยนชิพที่พยายามแล้วพยายามเล่าจะขึ้นชั้นให้ได้แต่ไม่สำเร็จสักทีแบบในปัจจุบันนี้นั้น ในช่วงยุครุ่งเรืองที่พวกเขาฟอร์มดีขนาดไปถึงรอบชิงยูฟ่าคัพมาแล้ว ซึ่งนอกจากบ๊อบบี้ ซาโมร่า รอยส์ ฮอดจ์สัน แล้ว อีกหนึ่งคีย์แมนที่พาทีมไปได้ไกลถึงตอนนั้นก็คือ กองหลังปราการเหล็กแห่งนอร์เวย์นามว่า แบรนด์ ฮันเกลันด์
.
ฮันเกลันด์เกิดในสหรัฐอเมริกา ในครอบครัวกรรมการพลัดถิ่นที่ต้องไปทำงานอยู่ที่นั้นหลายปี ฮันเกลันด์ว่า จำไม่ได้ว่าอยู่ในอเมริกา เพราะตอนอยู่นั้นเขาอายุน้อยมากจนยากจะจำความได้ หลังจากกลับมานอร์เวย์แล้ว เขาเริ่มต้นเข้าโรงเรียนพร้อมกับเป็นนักฟุตบอล
โดยเริ่มจากทีม ไวกิ้ง ทีมแถวบ้านในฐานะนักเตะเยาวชนในฐานะกองกลางตัวรับ ก่อนถูกขยับเข้าไปเป็นกองหลังตัวกลางในภายหลัง ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า มาตรฐานของบอลนอร์เวย์นั้นด้อยกว่าลีคอื่น ๆ ในยุโรปมากทีเดียว
แถมยังต้องเผชิญหน้ากับสภาพหนาวจัดอีกต่างหากจึงเป็นความท้าทายมากสำหรับผู้เล่นในลีคนนี้หากจะต้องไปเล่นข้างนอกประเทศ แถมค่าเหนื่อยก็ไม่ถึง 250 ยูโรอีกต่างหาก
.
"ผมโชคดีที่เล่นได้ดีกับไวกิ้งนะ ฟอร์มของเราดีมาก ถึงจะเป็นทีมเล็ก ๆ ผมเริ่มเล่นด้วยตำแหน่งกองกลางตัวรับ ทำหน้าปัดกวาดทุกอย่างก่อนจะไปถึงแผงหลัง มันสนุกดี แต่เหนื่อย ผมมาเล่นกองหลังก็ตอนที่นักเตะในทีมเจ็บ โค้ชถามผมว่า เล่นกองหลังตัวกลางได้ไหม ผมบอกว่าได้ นั่นแหละสิ่งที่เกิดขึ้น"
.
ฟอร์มของฮันเกลันด์ไปเข้าตาของเอฟซีโคเปเฮเกนเข้าและตัดสินใจคว้าตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัวที่คุ้มค่ากับทีมไวกิ้งเองหลังอยู่มาถึง 5 ฤดูกาล ถึงเวลาที่เขาจะโบยบิน โดยเริ่มจากการค้าแข้งกับทีมในเดนมาร์กนี้ก่อน ซึ่งที่นี่เองที่ทำให้เขามาเล่นเป็นกองหลังตัวกลางแบบเต็มตัว หลังจากไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับจากนักเตะเดิม
แต่นั่นกลับทำให้เขาแจ้งเกิดในฐานะนักเตะกองหลังอย่างรวดเร็ว และ พาทีมไปไกลถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนลีคด้วยซ้ำ ความยอดเยี่ยมและการบัญชาการเกมรับของทีมนั้นโด่งดังจนบรรดาทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีคพากันส่งแมวมองมาดูเขากันเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น นิวคาสเซิ่ล ลิเวอร์พูล หรือ แอสตัน วิลล่า รวมทั้งทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ด้วย แต่กลับกลายเป็นฟูแล่มที่คว้าตัวเขามาได้แบบไม่ได้เปิดค่าตัว แต่สื่อรายงานอาจจะอยู่ที่ 5 ล้านปอนด์เท่านั้น
.
"ผมมาอยู่ฟูแล่มเพราะ โค้ชที่นี่คือ รอยส์ ฮอดจ์สัน เขาเป็นโค้ชเก่าของผมตอนเล่นทีมชาตินอร์เวย์"
.
แบรนด์ ฮันเกลันด์กล่าวถึงเหตุผลที่เลือกฟูแล่มาจากการต้องการร้วมงานกับรอยส์ ฮอดจ์สันล้วนๆ และอีกอย่างฮอดจ์สันใช้วาจากล่อมกองหลังนอร์เวย์คนนี้ว่า อยากให้เริ่มต้นด้วยการเล่นในทีมระดับกลางๆ ในพรีเมียร์ลีคน่าจะดีกับพัฒนาการของเขามากกว่า ด้วยเหตุนี้แบรนด์จึงย้ายมาเล่นกับฟูแล่มในที่สุด
.
ฮันเกลันด์ได้ลงสนามให้ฟูแล่มในปี 2008 กับโบลตัน และโชว์ฟอร์มได้ดีจนได้รับรางวัลแมนออฟเดอะแม็ตช์ในคืนนั้น แถมยังจับคู่เข้าขากับอารอน ฮิวจ์ อีกต่างหาก และปีนั้นฟูแล่มรอดตกชั้นไปได้ ทำให้แผนการสร้างทีมเดินหน้ากันต่อไป และฟอร์มของเจ้าตัวถูกใจอาร์เซนเวนเกอร์มากด้วย แต่เจ้าตัวปฏิเสธ เพราะอยากอยู่กับฟูแล่มต่อไป
.
เจ้าตัวยังคงลงเล่นอย่างแข็งชันในฐานะปราการเหล็กของทีม จนกระทั่งในปี 2010 เจ้าตัวพาทีมไปถึงรอบชิงยูฟ่าคัพได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าจะได้เพียงรองแชมป์เท่านั้น แต่ก็เป็นจุดสูงสุดและจุดที่ทำให้หลายคนประเมินเขาใหม่ว่า เขาเป็นกองหลังที่ยอดเยี่ยมเพียงใด ฟอร์มของเขาทำให้ทีมในยุโรปมองตาเป็นมัน
ด้วยความแข็งแกร่งในลูกโด่ง การปะทะที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขาถูกเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจับตามองแล้วตัดสินใจยื่นข้อเสนอถึง 15 ล้านปอนด์ให้กับกองหลังฟูแล่มวัยใกล้สามสิบคนนี้ให้มาร่วมทีมในฐานะตัวแทนของเนมันย่า วิดิชที่ใกล้โรยราไปทุกที
.
และเจ้าตัวก็ปฏิเสธและต่อสัญญาอีกสองปี โดยไม่รู้ว่า มันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่
.
เมื่อฟูแล่มหลังยุครอยส์ ฮอดจ์สันได้แต่ทรุดลงทุกวันการลงทุนให้ทีมน้อยลง นักเตะที่มีก็ค่อย ๆ ทยอยออกจากทีมไป หลังจากนั้นมีข่าวว่า เขาถูกปล่อยตัวจากทีมผ่านอีเมล์ทั้งที่ยังมีสัญญาอีกสองปีด้วยซ้ำไป มันทำให้เขาโกรธและโมโหมาก ๆ ที่ทีมทำแบบนี้กับความไว้ใจของเขา เขาจึงเข้าไปพบผู้บริหารว่าทำไมทำกันแบบนี้ ก่อนจะพบว่ามันเป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างเขากับเฟลิธ มากัธที่มองว่า เขาไม่ยอมเล่นให้ทีมแล้วอ้างเรื่องอาการบาดเจ็บ
ซึ่งแบรนด์โต้มาว่า เขาเจ็บหนักจริง ๆ จนต้องฉีดยาลงเล่นด้วยซ้ำไป เพราะทีมต้องการให้เขาช่วย ความวุ่นวายนี้จบลงด้วยการฟูแล่มปล่อยตัวเขาไปฟรี ๆ พร้อมกับเงินชดเชย ขณะที่ฟูแล่มของมากัธตกชั้นไปอย่างน่าอดสูแทน
.
เพราะมีบ้านและครอบครัวตั้งรกรากในลอนดอนไปแล้ว ฮันเกลันด์ตัดสินใจเซ็นสัญญากับคริสตัล พาเลซ แต่ฟอร์มของเขาไม่กลับมาแล้ว เพราะอาการบาดเจ็บสมัยฟูแล่ม เขาลงเล่นเพียง 21 นัด ก่อนจะหมดสัญญากับทีมไปแบบเงียบ ๆ และตัวของเขาตัดสินใจแขวนสตั๊ดไปแล้วแบบเงียบ ๆ
.
"ผมรักฟูแล่มมาก ๆ ผมยอมปฏิเสธข้อเสนอทีมใหญ่หลายทีมเพื่ออยู่กับพวกเขาต่อไป ผมผิดหวังกับการจบแบบนี้มากๆ แต่ผมยังคิดถึงพวกเขา และสักวันอาจจะกลับไปที่นั้นอีกครั้ง"
.
ยอดแบ็คแห่งนอร์เวย์กล่าว