"ผมแปลกใจเสมอนะที่กุนซืออย่างโทนี่ พูลิซ ถูกมองข้ามตลอดเวลาพูดถึงยอดกุนซือในลีคนี้ มันแปลกที่เขาไม่ได้รับการยกย่องมากกว่านี้ ทั้งที่สิ่งที่เขาทำมาตลอดชีวิต คือการคุมทีมที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังมาสู้ในลีคที่เขี้ยวที่สุดในโลกนี้ และเขาพาทีมได้ในตัวเลขกลางตารางทั้งนั้นเลย ผมทำแบบเขาไม่ได้หรอก เขาเป็นกุนซือที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งของอังกฤษด้วยซ้ำ"
คำกล่าวยกย่องของโฆเซ่ มูรินโญ่ กุนซือทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่กล่าวยกย่องโทนี่ พูลิซ กุนซือของทีมเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนในปัจจุบันว่า เป็นหนึ่งในกุนซือฝีมือฉกาจในพรีเมียร์ลีค นับจากคุมทีมสโต๊ก ซิตี้ในปี 2006 เป็นต้นมา เขามีสถิติที่ไม่ว่าจะคุมทีมใดก็ไม่ตกชั้น เช่นเดียวกับ แซม อัลดราไรซ์ ของ คริสตัล พาเลซ ด้วยซ้ำ ที่สำคัญเป็นหนึ่งในกุนซือที่ยึดแนวทางบอลอังกฤษโบราณที่สร้างปัญหาให้ทีมใหญ่เสมอว่า พวกเขาไม่มีทางมาได้แต้มง่ายที่บ้านของพวกเขาแน่นอน
"บอลของเขาเป็นฟุตบอลแบบอังกฤษขนานแท้ มันเหมือนกำแพงเหล็กที่ยากจะพังทลาย คุณจะเล่นยังไงกับทีมที่มีกองหลังตัวใหญ่ อัดเป็นอัดชนเป็นชน และโยนยาวแม่นเหมือนจับวางละ มันยากอยู่แล้ว แถมกองหน้าของเขาก็ตัวใหญ่มากด้วย"
อาร์เซน เวนเกอร์กล่าวถึงความไม่สบอารมณ์ในการมาที่สนามของทีมสโต๊คอย่าง บริทาเนียสเตเดี้ยมที่เขาต้องพบกับการโยนบอลโยนทั้งลูกเตะมุม เซ็ตพีตฟรีคิกไปจนกระทั่งลูกทุ่มไกลที่ยิ่งกว่าฟรีคิกของรอรี่ ดีแล็ป
"ผมปวดหัวกับการรับมือทีมของพวกเขาเสมอ ผมอยากให้แบนการโยนไกลของพวกเขาชะมัด ลูกทุ่มของพวกเขาสร้างปัญหาให้พวกเราเสมอ"
เวนเกอร์กล่าว ขณะที่พูลิซกล่าวถึงแนวทางของเขาในการสร้างสโต๊กว่า
"ผมกลับมาคุมทีมเป็นครั้งที่สองพร้อมกับงบประมาณที่มีไม่ถึง 10 ล้านปอนด์"
พูลิซกล่าวถึงการกลับมานั่งตำแหน่งสโต๊กในปี 2006 หลังเคยมีปัญหากับเจ้าของเก่าจนโดนไล่ออก แต่ก็กลับมาคุมทีมอีกครั้งหลังการเทคโอเวอร์ของปีเตอร์ คอร์เตส ที่ให้เขากลับมาคุมทีม แม้ว่า ทีมจะไม่ใช่ทีมเงินถุงเงินถัง แต่พูลิซก็บอกว่า เขาพอจะเห็นแล้วว่า ลูกทีมต้องเล่นยังไง เขาตัดสินใจการเล่นแบบบอลอังกฤษโบราณที่หลายคนเรียกว่าUgly Football หรือ บอลน่าเกลียดที่เน้นการเล่นเซ็ตพีชและลูกทุ่มไกลของดีแร็ป
"ผมไม่ปฏิเสธที่เราเล่นบอลแบบนี้ แต่นี่คือ สิ่งที่เหมาะกับทีมแบบเราที่สุด"
พูลิซเวลามีคนมาต่อว่าทีมพวกเขาเล่นบอลขี้ขลาดไม่สวยงาม แถมยังเล่นหนักหน่วงจนครั้งหนึ่ง ไรอัน ชอว์ครอสเคยเสียบรุนแรงจนทำให้อารอน แรมซีย์ขาหักมาแล้ว แต่ตัวของพูลิซก็ไม่เปลี่ยนแนวทาง และที่สำคัญเขาพาอยู่ในกลางตารางตลอดชนิดที่หลายทีมที่ทุ่มทุ่นไปเยอะ ๆ ยังงงว่า เขาทำได้ยังไง
"สิ่งที่ผมทำคือ เลือกนักเตะที่เข้ากับระบบของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ผมต้องดูกันว่า พวกเขาเข้ากับระบบได้ไหม ค่อยซื้อเข้ามา นี่คือ สูตรในการซื้อนักเตะของผม ซึ่งก็โอเคนะ การซื้อแบบนี้คุณไม่ต้องปรับอะไรมากนัก และทำให้สมดุลทีมไม่เสียด้วย"
ทว่า เส้นทางอันหอมหวานของพูลิซกับสโต๊กจบลงเมื่อ เขามีปัญหากับบอร์ดบริหาร เพราะ อยากได้งบประมาณเสริมทีมเพิ่ม และ ที่สำคัญคือ แฟนบอลรู้สึกว่า การได้ลุ้นแค่พื้นที่ยูฟ่าคัพกับกลางตารางมันไม่ไปไหนเลย ส่งผลให้เขาถูกออกจากทีมและเปลี่ยนเป็นมาร์ค ฮิวจ์จนถึงปัจจุบัน (ซึ่งน่าตลกคือ ฮิวจ์ใช้เงินมากกว่าพูลิซหลายเท่าในการทำผลงานให้ได้เท่ากับกุนซือคนนี้)
พูลิซได้เข้าไปคุมทีมคริสตัล พาเลซ ซึ่งเขาพาพาเลซบินสูงด้วยอันดับ 11 จากโซนตกชั้น ทำให้ได้สัญญาถาวรจากทีม ทว่าก็อีกครั้งที่เขาทะเลาะกับบอร์ดบริหารของพาเลซเรื่องงบเสริมทีมจนต้องถูกยกเลิกสัญญาไปอีก ก่อนจะเข้ามาคุมทีมเวสต์บอรมต่อ ก่อนจะทำให้ทีมที่ต้องหนีตกชั้นทุกปีกลายเป็นทีมกลางตารางที่แข็งแกร่งที่ยากจะเอาชนะ และ สังเวียนสิ้นชีพของทีมใหญ่หลายต่อหลายทีมมาแล้ว
"มีคนถามว่า ผมสนใจไปรับงานทีมใหญ่บ้างไหม ผมสนใจนะ ผมอยากคุมทีมใหญ่ ๆ เหมือนกัน แต่เหมือนไม่มีทีมไหนอยากได้พบนี่สิ ผมเลยสะดวกใจกับการคุมทีมเล็ก ๆ มากกว่า มันควบคุมง่ายและเล่นในสไตล์ที่ผมอยากให้เล่นด้วย ต้องขอบคุณบอร์ดเวสต์บรอมที่อุนญาตและสนับสนุนผมเต็มที่ด้วย แบบที่ผมไม่ค่อยได้กับทีมเก่า ๆ มาก่อน แต่เรื่องทีมชาติอังกฤษ หากพวกเขาอยากได้พบจริง ๆ ผมก็อยากลองคุมทีมเหมือนกัน"
โทนี่ พูลิซ กล่าว