มาถึงจุดนี้แล้ว! บริการ “ให้เช่าสินสอด” ธุรกิจสุดแปลก หวังตีตลาดบ่าวสาวชอบสร้างภาพ จะเงินสด ทองคำ หรือรถหรูก็มีครบ อยากรวยขนาดไหน จัดให้ถ้ามีเงินเช่า นักการตลาดคาด กระแสแรงแต่ไม่น่าอยู่ได้นาน แม้สานฝันเป็นเจ้าสาวสินสอดเงินล้านได้ แต่ก็เป็นแค่ฝัน ด้านโลกโซเชียลฯ แซว อีกหน่อยคงมีเจ้าบ่าวให้เช่า!
ธุรกิจแหวก บริการคนหน้าใหญ่ “ให้เช่าสินสอด”
กลายเป็นประเด็นฮอตสะเทือนโลกโซเชียลฯ ทันที หลังจากที่เพจเฟซบุ๊ก “บริษัทโรแมนทีส ให้เช่าสินสอดวันแต่งงาน เงินสด ทองแท่ง รถเบนซ์ส่งตัว” ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการวางแผนจัดงานแต่งงาน โพสต์ภาพเงินสินสอดกองโต พร้อมระบุแคปชันไว้ว่า “สินสอดให้เช่า” เมื่อตามต่อไปก็พบว่า ทางเพจยังได้ลงรายละเอียดค่าใช้จ่ายของบริการนี้ไว้ ทั้งยังจัดโปรโมชันพิเศษ หากลูกค้าเช่าเงินสดพร้อมรถหรูติดโบว์ ตามบรรทัดต่อจากนี้
“บริการให้เช่าเงิน ทองแท่ง รถเบนซ์
ทองแท่งหนักแท่งละ 10 บาท ค่าเช่าแท่งละ = 10,000฿
เงิน 3 แสน - 5แสน = 30,000฿
เงิน 1 ล้าน = 50,000฿
เงิน 5 ล้าน = 150,000฿
เงิน 10 ล้าน = 250,000฿
รถเบนซ์ติดโบ 15,000฿
หรือลูกค้าจะเลือกในแบบโปรก็ได้ โดยมี 2 โปรด้วยกัน คือ โปรไฟลุก 1 เงินสด 5 แสน + รถเบนซ์ติดโบว์ ค่าเช่า 35,000 บาท และโปรไฟลุก 2 เงินสด 1 ล้าน + รถเบนซ์ติดโบว์ ค่าเช่า 49,999 บาท”
นอกจากนี้ ยังมีเงื่อนไขต่างๆ ที่ทางบริษัทกำหนดไว้ อาทิ เริ่มบริการที่ค่าเช่า 35,000 บาทขึ้นไป , จ่ายค่าเช่าเต็มจำนวนก่อนวันงานไม่น้อยกว่า 7 วัน , บริการทั่วประเทศ มีการทำสัญญาเก็บเป็นความลับของลูกค้า , สินทรัพย์สแตนด์บายที่งาน ตามวันเวลาที่นัดหมาย , วันงานมีตำรวจคอยคุ้มกันสินทรัพย์ , ลูกค้าสามารถเก็บภาพได้ตามต้องการ , ตำรวจนำสินทรัพย์กลับหลังเสร็จพิธี , ไม่คืนเงินกรณีแจ้งยกเลิกก่อนวันงานจริงน้อยกว่า 14 วัน , คืนเงิน 50% หากแจ้งยกเลิกก่อน 15 วัน และคืนเงิน 70% หากแจ้งยกเลิกก่อน 1 เดือน
หลังจากที่รายละเอียดต่างๆ ในการให้บริการของบริษัทให้เช่าสินสอด ถูกส่งต่อไปบนสังคมออนไลน์แล้วนั้น ก็นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือมองว่าเป็นการสิ้นเปลืองที่ต้องมาเช่าสินสอดเพื่อแต่งงานแบบนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนบางกลุ่มให้ความสนใจและมองว่าเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์คนสมัยนี้
“อีกหน่อยคงมีเจ้าบ่าวให้เช่า”
“เอาเงินค่าเช่าไปไว้ใช้หลังแต่งงานจะดีกว่าครับ”
“ธุรกิจแบบนี้เกิดขึ้นได้เพราะความหน้าใหญ่ กลัวอายคนอื่นเลยทำทุกทางเพื่อให้ดูดี แต่ก็เนอะเช่ามาดีกว่าเป็นหนี้เพราะกู้มาแต่ง”
“มีแค่ไหนก็แต่งแค่นั้น ไม่ต้องห่วงหน้าตามากมาย สุดท้ายจะอยู่กันรอดรึเปล่ายังไม่รู้เลย ปล.จัดงานเวอร์แล้วต้องมานั่งใช้หนี้มันใช่ไหม???”
“มีจริงๆ นะ อารมณ์คล้ายขายตรง เช่ารถ ไปถ่ายโปรไฟล์ อาหารเสริม เช่าเงินไปนอนกองเล่นๆ คู่แต่งงานเชิงธุรกิจ ต่อยอดหาคนมาลงทุนยิ่งกว่านิยาย”
ล่าสุด ทางด้านเจ้าของธุรกิจ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ว่า ก่อนมาทำธุรกิจนี้เคยให้เช่ารถส่งตัวบ่าวสาวมาก่อน ซึ่งการให้เช่าสินสอดทำมาได้ 3 เดือนกว่า กระแสตอบรับดีมากและมีลูกค้าใช้บริการมาแล้วกว่า 10 ราย และบ่าวสาวที่จะมาเช่าสินสอดนั้น ต้องให้พ่อแม่ของทั้งคู่รับทราบและเซ็นสัญญาร่วมกันด้วย ทั้งยังยืนยันว่า จะเก็บข้อมูลของลูกค้าเป็นความลับที่สุด ไม่มีการเปิดเผยอย่างแน่นอน
สร้างภาพเพื่อ “คู่รัก” ตอบโจทย์ยุคโซเชียลฯ
เพื่อความชัดเจนของเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทีมข่าวผู้จัดการ Live ได้สอบถามไปยัง ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด และผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ให้ช่วยวิเคราะห์ธุรกิจตัวใหม่ที่กำลังเป็นกระแสอยู่บนโลกโซเชียลฯ ในขณะนี้
“ธุรกิจนี้มันอาจจะมีมานานแล้วแต่เราไม่ได้สนใจกัน สิ่งเหล่านี้มันอาจมีอยู่ในตลาดมืดแต่ตอนนี้อยู่ในที่สว่าง คนก็จับจ้อง อย่างคู่รักจะแต่งงาน อยู่ดีๆ มีทอง 10 บาท เงินเป็นล้าน เขาก็ต้องไปดูต่อว่าฐานะเป็นยังไงครอบครัวนี้ ทำงานอะไร การแต่งงานในยุคปัจจุบันผมมองว่ามันเป็นการสร้างภาพมากกว่า เพราะว่าก่อนที่เขาจะแต่งงานส่วนใหญ่เขาอยู่กินกันก่อนแล้วด้วยซ้ำไป
บางงานบอกว่าได้สินสอด 10 ล้าน ทองคำ 10 บาท แต่แขกรู้ไหมว่าสินสอดเหล่านี้มันเป็นเงินของใคร พอหลังจากที่เขาแต่งงานเสร็จ เขาเอาไปไหน แขกก็ไม่รู้ มันจะมีช่องว่างตรงนี้นิดๆ ที่เขาจะมาทำเป็นธุรกิจได้ เมื่อก่อนไม่มีใครมาเฝ้ามองเราเพราะมันไม่มีโซเชียลฯ พวกนี้ แต่ปัจจุบันในโลกของเทคโนโลยี การสร้างภาพมันก็จะยิ่งใหญ่ขึ้น เพราะภาพจะถูกแชร์ออกไป”
เมื่อให้นักการตลาดคนดัง วิเคราะห์ในมุมเจ้าของธุรกิจนี้ เขาก็กล่าวว่า แม้จะเป็นธุรกิจที่ลงทุนไม่มาก แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่ที่เรื่องของระบบการจัดการ การรักษาความลับของลูกค้า และการทำให้ถูกกฎหมาย
“สิ่งที่สะท้อนได้ชัดประเด็นแรก ผมมองว่ามันต้องมีตลาด มีดีมานด์ เจ้าของธุรกิจก็เลยเสนอซัปพลายออกไป ประเด็นต่อมาคือปัจจุบัน มันเป็นยุคของการสร้างภาพ สร้างอิมเมจ นอกจากงานแต่งงานแล้ว อย่างนักธุรกิจบางทีก็มีการเช่ารถขับไปประมูลงาน ขับไปสร้างภาพให้ตัวเอง ต้องระวังคือเรื่องของการรักษาความลับลูกค้า อย่างรถป้ายทะเบียนนี้ทุกงานเลยรึเปล่า เพราะบางทีคนไปงานแต่งก็จะชอบถ่ายรูปกับรถเจ้าบ่าวเจ้าสาวแล้วเจอรถป้ายทะเบียนนี้ทุกงานเลย ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ แม้แต่รถผมเองก็เคยถูกใช้เป็นรถเจ้าบ่าว 3 - 4 ครั้งแล้ว
อีกอย่าง ต้องเน้นเรื่องการจัดการ ซึ่งในมุมการลงทุน ลงทุนไม่ได้เยอะ มันอยู่ที่ระบบบริการจัดการ การป้องกันหรือการเก็บความลับ กลไกที่ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นตรงนี้มากกว่า เงินสด 10 ล้านที่ให้เช่า ผมไม่แน่ใจว่ามีเงินปลอมรึเปล่า ถ้าเป็นเงินปลอมก็ผิดกฎหมาย ถ้าทองคำปลอมก็ผิดกฎหมาย คิดจะทำธุรกิจแบบนี้ต้องทำให้ถูกต้อง ต้องไปจดทะเบียนพาณิชย์ขึ้นมาว่าเราให้เช่าสินทรัพย์อะไรยังไง เพราะถ้าเราไม่มีการจดทะเบียน การทำสัญญามันอาจจะเป็นโมฆะได้ ถ้าสมมติมีปัญหา สิ่งเหล่านี้มันต้องไปด้วยกัน
ทำไมโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กและไลน์มันเติบโตเร็ว เพราะคนมันยึดติดกับการสร้างภาพ พอสร้างภาพเสร็จก็ต้องโชว์ให้คนอื่นเห็น แล้วถ้ามองในเรื่องของธุรกิจ เขาก็เห็นช่องว่างที่จะทำได้อยู่ แต่ต้องรัดกุม แล้วธุรกิจลักษณะนี้เป็นธุรกิจที่ลงทุนไม่ได้เยอะ พอลงทุนไม่ได้เยอะปุ๊บ ความเสี่ยงมันก็ไม่ได้เยอะ แล้วก็มีโอกาส มีตลาดเฉพาะกลุ่ม ซึ่งก็น่าจะเป็นคนมีฐานะปานกลางขึ้นไป”
สุดท้าย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ได้ทิ้งท้ายถึงธุรกิจสุดแหวกแนวนี้ไว้ว่า แม้ตอนนี้จะเป็นกระแสดังสนั่นโลกโซเชียลฯ แต่ก็ไม่น่ามีความยั่งยืน เพราะยังไงก็เป็นเพียงการสร้างภาพเท่านั้น
“ในตอนนี้กำลังเป็นกระแสบนโลกโซเชียลฯ เขาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ไม่ต้องโฆษณาเลยเพราะมีคนแชร์ต่อให้ ก็น่าจะได้คนสนใจสัก 10 - 20 ราย เขาก็คุ้มแล้ว แต่ผมมองว่าธุรกิจนี้มันไม่น่ายั่งยืน เพราะมันเหมือนเป็นการสร้างภาพจอมปลอมขึ้นมามันอาจจะเป็นแค่เพียงว่า เป็นการสร้างฝันให้เป็นจริง แต่มันเป็นแค่ฝัน เพราะสุดท้ายเงิน 10 ล้านก็ไม่ได้เป็นของเรา
ผมมองว่าอยู่ไม่นาน มันเป็นกระแสสักพักนึง เดี๋ยวมันอาจจะมีอะไรที่เกี่ยวเนื่องมาอีก อย่างเช่น ทองปลอม ขุดคุ้ยว่าใครเคยใช้บริการมาก่อนบ้าง มันอาจจะมีดรามาลักษณะนี้ตามมา มันก็อาจจะเป็นไปได้”
ขอบคุณภาพและข้อมูล : เพจ “บริษัทโรแมนทีส ให้เช่าสินสอดวันแต่งงาน เงินสด ทองแท่ง รถเบนซ์ส่งตัว” และรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้”