ณ ช่วงสงครามปราบปรามการก่อการร้ายของอเมริกาได้เกิดขึ้นในช่วงปี 2001 ได้ทำให้กองทัพของสหรัฐอเมริกาและยูเอ็นได้เข้าไปยังประเทศอัฟกานิสถาน เพื่อดำเนินการกวาดล้างรัฐบาลตาลีบันที่ปกครองประเทศ
และเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์วินาศกรรมในวันที่ 11 กันยายน 2001 นั้น ทำให้ทหารจำนวนมากเข้าสู่ประเทศตะวันออกกลางแห่งนี้นับแสนคนทีเดียว
แน่นอนว่าการมาเข้ามาของทหารมากมายนี้ นอกจากพวกเขาจะต้องใช้เสบียงอาหารจำนวนมาก ที่ส่งมาจากอเมริกาหรือทั่วโลกแล้ว ทหารฉกรรจ์เหล่านี้ (ซึ่งบางคนยังหนุ่มมาก) ต่างก็มีความต้องการด้านเพศด้วย
พูดคือ การจะต้องจากบ้านต่างเมืองมายังประเทศที่ห่างไกลคนละโลกนี้นั้น เป็นเรื่องที่ชวนให้เปลี่ยวเหงาหนาวใจไม่ใช่น้อย จะช่วยตัวเองบ่อยๆ ผ่านหนังโป๊ก็ใช้ไม่ได้ทุกครั้ง ทำให้บ่อยครั้งนายทหารใหญ่ต้องเปิดโอกาสให้ทหารเข้าไปในเมือง เพื่อปลดปล่อยอารมณ์นี้ออกมากัน
ซึ่งในเมืองหลวงของอัฟกานิสถานของกรุงคาบูนั้น ก็มีสถานบริการทางเพศแห่งนั้นไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งที่ในบทบัญญัติของศาสนาอิสลามห้ามมีการค้าประเวณี แต่ก็อย่างที่ว่า มีได้ก็เกิดขึ้นได้
ดังนั้น หากไปตามร้านอาบอบนวด หรือร้านนวดน้ำมันในกรุงคาบู หรือโรงเตี้ยม คุณจะได้พบกับสาวหน้าตาดีมากมายที่รอให้บริการคุณ เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่บอกโต้งๆ ก็เท่านั้นเองว่า ขายบริการ นอกจากคุณจะถามพวกเธอว่า อยากจะต่อเวลาหรือพาไปข้างนอกด้วย นั่นแหละคือจุดเริ่มต้น
ผู้หญิงชาวอัฟกานิสถานหลายคนมาทำงานนี้ เพราะในการปกครองพวกตาลีบัน สาวๆ รุ่นไม่ได้รับอนุญาตให้อ่านหนังสือ หรือเรียนแต่อย่างใด
พวกเขาได้วางแผนให้พวกเธอทำหน้าที่เพียงแค่ผู้หญิงโง่ๆ ที่มีหน้าที่เป็นเพียงทาสเนื้อของพวกเขา หรือเป็นแหล่งระบายกามของพวกตาลีบันเท่านั้น จึงไม่แปลกที่ร้อยละ 80 ของผู้หญิงในอัฟกานิสถานจะไม่ได้เรียนหนังสือเลย
บางคนก็มีชีวิตที่ยากจนและต้องขายลูก ให้ลูกมาขายตัวกับพวกตาลีบันในคาบูก็มี บางคนก็ทำเพราะถูกบีบบังคับก็มีเช่นกัน
ที่สำคัญกว่านั้น โสเภณีหลายคนอายุไม่ถึง 18 ปี บางคนถูกพาตัวมาตั้งแต่อายุ 12 ปีก็มีเหมือนกัน เพื่อทำงานในซ่อง หรือโรงอาบอบนวดนี้
แม้ว่า พวกตาลีบันจะหมดอำนาจไปแล้ว และเข้าสู่รัฐบาลหุ่นเชิดของอเมริกาก็ตาม สถานะของพวกเธอก็ไม่ได้ดีขึ้น เพียงแต่เปลี่ยนเจ้าของซ่องจากตาลีบันเป็นรัฐบาล หรือคนมีอำนาจเท่านั้นเอง
ปัจจุบัน ซ่องโสเภณีเหล่านี้ยังคงอยู่ในเมืองหลวงคาบู และเมืองใหญ่ทั่วอัฟกานิสถาน และมีลูกค้ามากหน้าหลายตา รวมทั้งโสเภณีรุ่นใหม่ที่มาแทนที่รุ่นเก่าสลับไป
สะท้อนถึงความน่าเวทนาของประเทศที่ผู้หญิงไม่มีสิทธิเสียงใดๆ นอกจากก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมไปก็เท่านั้นเอง