“ออเจ้า” ท่วมเมือง!! บุกกอดรัดฟัดเหวี่ยง “พี่หมื่นโป๊ป” ทุกอีเวนต์ที่ไป ล่าสุด พี่สาวดาราดังทนไม่ได้ โพสต์คลิปที่ถ่ายแฉพฤติกรรมแฟนๆ ทั้งทุบรถ ทุบกระจก ปาของใส่ ฯลฯ นี่หรือคือ “การแสดงความรัก” ต่อคนที่ชื่นชม? ก้าวร้าวขนาดนี้ จิตแพทย์สงสัยอาจมีปัญหาด้านอารมณ์ เตือนพี่หมื่นเตรียม “ตั้งรับ” ไว้ให้ดี เพราะการศึกครั้งนี้คงอีกนาน งัดกลยุทธ์จาก “ป้าแจ๋ว” มาช่วยสอน บอกชัด “รักได้ แต่อย่าคลั่งไคล้” มันจะเกินพอดี!!
นี่ “ความรัก” หรือ “ความเจ็บปวด!!?
[ภาพจากคลิปของพี่สาวโป๊ป ทนไม่ไหวพฤติกรรมของแฟนคลับบางราย]
“การปาของใส่ การทุบรถบ้าง ทุบกระจกรถบ้าง คืออะไรคะ พฤติกรรมเช่นนี้คือการแสดงความรัก และให้กำลังใจที่มีต่อกันจริงๆ เหรอคะ?”
เติ้ง-วรรณิภา วรรธนะภูติ พี่สาวของ โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ นักแสดงชายที่กำลังดังสนั่นเมืองไทยจากละครยอดฮิต “บุพเพสันนิวาส” โพสต์คลิปพร้อมบรรยายความรู้สึกผ่านอินสตาแกรม @queenofambitieux บอกเล่าเรื่องราวเลวร้ายที่สุดในชีวิตตั้งแต่เคยเจอมา เพื่อหวังช่วยเตือนสติคนที่บอกว่า “รักโป๊ป” แต่ปาก แต่การกระทำสวนทาง พร้อมกับขอโทษที่ทำกล้องถ่ายรูปของน้องคนนึงตกท่อ เนื่องจากความโหดของบรรดาแฟนคลับที่กระแทกกระทั้นกันไปมา
“อยากให้ทุกคนที่เห็นคลิปนี้ ช่วยตระหนักลงไปที่หัวใจสักนิดนะคะว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือความรักความหวังดีต่อกันหรือ วันนี้เป็นวันที่ไปงานกับน้องแล้ว รู้สึกแย่และไม่ปลอดภัยมากที่สุด ทั้งเรื่องการดูแลความปลอดภัยให้กับศิลปินของผู้จัดงานนี้ และมารยาทของคนที่มารอส่ง”
ใครที่รู้นิสัยใจคอของโป๊ป จะพอรู้ว่าเขาเป็นคนนุ่มนวล ไม่ชอบความวุ่นวาย ตลอดชีวิตการเป็นนักแสดงที่ผ่านๆ มา แทบไม่ค่อยปรากฏตัวออกสื่ออย่างมากมายขนาดนี้ด้วยซ้ำ หรือแม้แต่คำอธิบายของตัวเองในอินสตาแกรม @popezaap ของโป๊ปก็ยังเขียนโค้ดคำพูดเอาไว้ว่า "To come into existence, prevail and perish สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี”
เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบนี้ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะยังไม่ออกมาชี้แจงอะไร หรือไม่เคยแสดงความไม่พอใจออกมา แต่ถ้าย้อนกลับไปอ่านคำสัมภาษณ์ที่เขาให้ไว้กับสื่อมวลชน หลังดังเปรี้ยงปร้างจากบท “หมื่นสุนทรเทวา” เกี่ยวกับเรื่องโดนแฟนๆ รุมทึ้งด้วยความรัก ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ครั้งล่าสุดครั้งนี้ขึ้น ซึ่งพระเอกหนุ่มหน้านวลได้ตอบเอาไว้ว่า ขอบคุณที่ไม่มีใครทำรุนแรงอะไร
[พี่หมื่นโป๊ป โดนห้อมล้อมไปด้วยสาวๆ]
“ผมว่าเขาก็อยากถ่ายรูปแหละ อยากจับมือแค่นั้น ก็ขอบคุณนะครับที่ไม่ได้ทำอะไรรุนแรง เขาก็แค่จับมือแล้วก็ยิ้ม ผมก็เข้าใจเขาแหละครับว่า เขาอยากเห็นใกล้ชิด อย่างมากก็จับแก้ม แค่นั้นแหละฮะ ไม่มีอย่างอื่น ส่วนเรื่องวิธีรับมือเหรอครับ (ยิ้ม) ผมก็ยังไม่มีวิธีรับมือเลยนะ อาจจะต้องให้ทางสถานที่จัดงาน มีการป้องกันให้เรานิดนึง เท่านั้นแหละครับ”
แต่ดูเหมือนว่าจากเหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่เกิดกับงานที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ก็ยังคงไม่สามารถทำตามคำขอของพระเอกหนุ่มเรื่อง “การป้องกัน” เจ้าตัวเอาไว้ได้เท่าที่ควร ล่าสุด แฟนคลับที่รักโป๊ปมาก่อนที่จะโด่งดังในฐานะพี่หมื่น ต่างก็ได้แต่ขอร้องให้แฟนคลับหน้าใหม่ๆ เห็นใจและทะนุถนอมคนสำคัญของพวกเขา อย่างบนทวิตเตอร์ @popetnwch3 ที่แสดงความห่วงใยเรื่องสุขภาพเอาไว้อย่างชัดเจน
“ได้ข่าวว่าคนรุมพี่โป๊ปเยอะมาก รักพี่โป๊ปก็ช่วยกันทะนุถนอมแกหน่อยนะครับ เลข 3 แล้ว ข้อเข่า หลังแกก็ไม่ค่อยจะดีด้วย อย่ารุม อย่าเบียดกันนะครับ เป็นห่วงพี่โป๊ป”
หรือแม้แต่แฟนเพจ "Popeclub" เพจของแฟนคลับโป๊ป ก็ถึงกับต้องตั้งกฎกติกาขึ้นมาให้แฟนๆ ที่ตามได้ปฏิบัติกันอย่างชัดเจนอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องการมอบของให้ รวมถึงการพยายามเข้าถึงตัวดารา ที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินจนต้องประกาศอย่างเป็นทางการ โดยเน้นย้ำเอาไว้ด้วยว่า เข้าใจว่าทุกคนรักและหวังดีกับโป๊ป แต่อยากให้ช่วยกันเพื่อเซฟคนที่พวกเขารัก
[อีเวนต์มากมาย พร้อมใจกันจ้างโป๊ป]
"ประกาศเพื่อทราบค่ะ จากเหตุการณ์งานที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ในวันนี้พฤติกรรมของกลุ่มแฟนคลับบางกลุ่มเป็นพฤติกรรมไม่น่ารักเลยนะคะ เบียด ผลัก เพื่อให้เข้าถึงพี่โป๊ป โยนของใส่พี่โป๊ป ทุบรถพี่โป๊ป การทำแบบนี้อาจเป็นอันตรายกับพี่โป๊ปและแฟนคลับคนอื่นๆ ได้นะคะ
สำหรับการนำของมาให้พี่โป๊ปในงานอีเวนต์ ขอความร่วมมืองดนำมาให้พี่โป๊ป เนื่องจากทีมงานต้องคอยดูแลความปลอดภัย หากถือของจะไม่สะดวกในการดูแลพี่โป๊ปค่ะ หากใครต้องการให้รบกวนส่งถึงช่อง 3 นะคะ จะมีทีมงานรวบรวมให้พี่โป๊ป
การเดินตามไปส่งพี่โป๊ปที่รถ ขอความร่วมมือแฟนคลับทุกท่าน อย่าดึง ทึ้ง ฉุด กระชาก พี่โป๊ปนะคะ เนื่องจากพี่โป๊ปอาจได้รับบาดเจ็บ รวมถึงในขณะที่พี่โป๊ปออกรถแล้ว หากต้องการจับมือ ขอแค่แตะแล้วปล่อยมือนะคะ ล่าสุด มีการจับมือแล้วไม่ปล่อยขณะรถเคลื่อนตัว พี่โป๊ปเจ็บแขนมากค่ะ"
[กฎอย่างละเอียดจาก "แฟนคลับสำนึกดี"]
ปรากฏการณ์ “พี่หมื่นฟีเวอร์” เตือนอย่า “คลั่งไคล้” จนน่ากลัว
“จากสถานการณ์นี้ คิดว่ามันไม่น่าจะใช่ความคลั่งไคล้ที่เป็นปกติเท่าไหร่นะคะ” พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ช่วยวิเคราะห์ปรากฏการณ์ “พี่หมื่นฟีเวอร์” เอาไว้ให้ ทีมข่าว ผู้จัดการ Live ตามคำขอผ่านปลายสาย โดยอธิบายกระแส “ออเจ้า-พี่หมื่น” เอาไว้ว่า เกิดขึ้นมาจากความดึงดูดของดาราชาย ทั้งเรื่องความสามารถ บุคลิกภาพ หรือแม้แต่เรื่องเพศ ซึ่งส่งผลให้มีกองทัพออเจ้าไล่ตามพี่หมื่นกันเป็นขบวนๆ
“รวมถึงอิทธิพลของสังคม อิทธิพลของหมู่คณะ อำนาจของการชื่นชมเป็นกลุ่มก้อน ก็มีผลทำให้กระแสนี้ยิ่งหนักหน่วงรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยค่ะ จนก่อให้เกิดเป็น "พลังด้านสังคม" ด้วย ครั้งนี้ก็เลยจะดูมีคนแห่ชื่นชมเขาเยอะไปพิเศษ”
แต่ถ้าใครเกิดอาการหลงใหลจนเข้าขั้น “คลั่งไคล้” อย่างน่าสงสัย จนลุกขึ้นมาแสดง “พฤติกรรมก้าวร้าว” อย่างที่เกิดขึ้นในกรณีนี้แล้วล่ะก็ ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันว่าจะเข้าข่ายอาการ “ผิดปกติทางจิต” คือเข้าขั้นเป็นแฟนคลับประเภท “สุดโต่งด้านลบ”
[แฟนคลับตรึม!! เมื่อพี่หมื่นไปเยือนเซ็นทรัลโคราช]
“คือถ้าเป็นคนทั่วๆ ไป ก็คงแสดงออกมาในลักษณะการชื่นชม ความปลาบปลื้มยินดี อยากเข้าใกล้ อยากที่จะสื่อถึงความรู้สึกดีๆ ด้วย แต่ถ้าเป็นคนที่อ่อนไหวเป็นพิเศษ หรือมีข้อจำกัดของจิตใจบางอย่าง เมื่อเขาเจอกับสิ่งเร้าพวกนี้ เขาก็จะเกิดความตื่นตัวทางอารมณ์ไปด้วย
คือจะมีคนประเภทที่ แม้ว่าจะรู้สึกปลาบปลื้มชื่นชม แต่ในอีกส่วนนึงเขาก็อาจจะเป็นคนที่มีภูมิหลังบางอย่าง ที่ทำให้เขาต้องแบกความเกรี้ยวกราด ความก้าวร้าวมาด้วย ดังนั้น เมื่อถึงขีดสุดของอารมณ์ นอกจากความชื่นชมที่แสดงออกมาแล้ว ยังจะมีความก้าวร้าวปะปนออกมาด้วย
[ฮอตที่สุดในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น "พี่หมื่นโป๊ป"]
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าความชื่นชมที่เขาแสดงออกไป ไม่ได้รับการตอบสนองให้เป็นไปตามความคาดหวัง ก็อาจส่งผลให้เขามีแนวโน้มที่จะแสดงความก้าวร้าวออกมาได้มากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้น อาจถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสเลยค่ะ ที่จะช่วยตรวจเช็กให้ได้ว่า ความอ่อนไหว และการแสดงออกที่ไม่ถูกทางของเรานั้น อาจจะสะท้อนถึงปมปัญหาบางอย่างทางจิตใจก็ได้
สำหรับหลายๆ คนที่พบว่า ความคลั่งไคล้หรือกระแสของการชื่นชมครั้งนี้ ทำให้เรามองเห็นว่าตัวเองแสดงออกไม่ถูกทาง เช่น ลุ่มหลงหมกมุ่นเป็นอันมาก คิดถึง คาดหวัง แล้วก็โกรธเคืองมากๆ ฯลฯ ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องทบทวนตัวเองแล้วค่ะว่า เรากำลังผิดปกติด้านจิตใจอยู่หรือเปล่า อาจจะมีปมปัญหาทางใจ หรือโรคจิตเวชด้านอื่น อันนี้ก็ควรที่จะต้องทบทวน เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป”
ในส่วนของดาราที่ถูกรัก (จนมากเกินไป) ก็ควรจะรู้จักวิธีรับมือสำหรับตัวเองเอาไว้ คือต้องเตรียมความพร้อมเรื่องการป้องกันและดูแลสวัสดิภาพของตัวเอง รู้จักพูดคุยแสดงเหตุผล สื่อสารกับแฟนๆ ด้วยความรู้สึกที่ดี ซึ่งเป็นวิธีที่คุณหมอมองว่าน่าจะปลอดภัยและได้ผลที่สุด
“กระแสของความก้าวร้าวมันมีน้อยกว่ากระแสของความรักอยู่แล้ว ถ้าคนดังคนนั้นวางตัวอยู่ในความไม่ประมาท รับมือด้วยสติ ต้องไม่ทำตัวก้าวร้าวกลับ การตอบโต้ ทำตัวท้าทาย ทำท่าทีโกรธเคือง ไม่ใช่สิ่งที่พึงกระทำแน่นอน และการไม่ตอบโต้ก็จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความรุนแรงลงได้”
[สาวๆ พร้อมใจสวมชุดไทย มาวิ่งแย่งคิวลงทะเบียน 15 คนแรกที่เซ็นทรัลโคราช เพื่อให้ได้ถ่ายรูปคู่]
ที่สำคัญที่คุณหมอย้ำก็คือ ในฟากของแฟนๆ เองก็ควรจะรู้จักควบคุมตัวเองให้ปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามกรอบของกติกาสังคม ศีลธรรม วัฒนธรรม และกฎหมาย “ถ้าหากว่าเราสามารถทำได้ตามนั้น กระแสความชื่นชมที่มีต่อบุคคลที่เราชื่นชอบ ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นผลทางบวกให้แก่กันและกัน ทำให้ดาราที่เรารักมีกำลังใจต่อไป”
สอดคล้องกับคำสัมภาษณ์ของ ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ ผู้จัดละครชื่อดัง ที่เคยออกโรงเตือนแฟนคลับของ ณเดชน์-ญาญ่า เอาไว้อย่างตรงไปตรงมา โดยพูดถึง “ลิมิตการเป็นแฟนคลับ” ที่น่าคิดน่าปฏิบัติตามเป็นอย่างมาก สำคัญที่สุดคือการเตือนใจให้รู้จัก "รักให้เป็น"
“ทุกๆ คนเนี่ย อยากใกล้ชิดคนที่ตัวเองรัก อยากถ่ายรูปกับคนที่ตัวเองรัก แต่ลืมนึกไปว่าคนที่ตัวเองรักเหนื่อยมาก (เน้นเสียง) คือทำงานมาก็เหนื่อยแล้ว เดินทางก็เหนื่อยอีก แล้วยังมาเจอกองทัพเด็กๆ ซึ่งรอจะถ่ายรูปเอง แต่ก็โอเค ถ้าถ่ายกันตามสมควรไม่ว่า แต่นึกออกไหมว่าทุกคนอยากถ่ายเดี่ยวๆ หมดเลย ถ่ายเป็นกลุ่มไม่เอา ถ้ามี 100 คน น้องก็จะต้องถ่าย 100 ครั้ง ซึ่งมันทำให้น้องลำบากมาก
อีกอันนึงที่เราเห็น ซึ่งตัวน้องไม่ได้พูดอะไร แต่ในฐานะที่เป็นป้าแก่ เราก็รู้สึกว่าต้องพูดนิดนึง เพราะบางทีเวลาเอาของต่างๆ มาให้น้องทั้งสองคน เลิกไหม เปลี่ยนไหม เปลี่ยนเป็นเอาผลการเรียนมาให้น้องเขาดูไหม หรือคุยกันเรื่องการเรียนที่ดีขึ้น เพราะเห็นเขาเป็นตัวอย่าง ดีกว่าไหม
ดีกว่าที่จะต้องไปเสียสตางค์มาซื้อของ หรือว่าซื้อตุ๊กตา ซื้อขนมมาให้ ซึ่งขนมเนี่ยซื้อแต่เช้า กว่าจะมาถึงน้องก็ตอนค่ำ บูดหมดแล้ว น้องก็กินไม่ได้ ต้องโยนทิ้ง เสียสตางค์เปล่าๆ เอาเงินเหล่านั้นไปทำอย่างอื่นยังได้ประโยชน์มากกว่า หรือขนมเหล่านั้นซื้อกลับไปให้คุณพ่อคุณแม่ของเด็กๆ ที่เป็นแฟนคลับรับประทานจะดีกว่าไหม
หรือถ้าเป็นแฟนคลับกันจริง รักน้องจริง จะต้องปล่อยให้น้องมีชีวิตที่เป็นตัวของตัวเองบ้าง อย่าให้น้องต้องตกอยู่ท่ามกลางแฟนคลับอยู่ตลอดเวลา จนน้องไม่มีความเป็นส่วนตัว
หรือโลเกชันบางอย่างมันไกลมาก มืดมาก น้องๆ รวมตัวกันขับรถไป 2 คัน อัดกันไปแน่นเอี๊ยด เพื่อจะไปรอ ขอบันทึกเทปอวยพรวันเกิดให้เขาในที่มืดตึ๊ดตื๋อ เราก็บอกน้องเขาว่า น้องเอ๊ย..ทำไมน้องไม่เลือกวันที่มาสบายกว่านี้ ใกล้กว่านี้ เพราะการที่ขับรถในทางเปลี่ยวๆ ตอนดึกๆ มันเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้
และถ้าเกิดอะไรขึ้นกับน้องๆ คนที่เสียใจมากที่สุดต้องเป็นพ่อแม่ของน้องๆ อยู่แล้ว และที่เสียใจมากกว่าก็คือตัวดารา ที่เขาต้องเป็นต้นเหตุให้มาเจอเรื่องที่ไม่ดี เพราะฉะนั้น ต้องขอร้องว่า รักได้ แต่รักให้พอดีๆ อย่า “หลง” หรือ “คลั่งไคล้” จนเกินไป”
[วิ่งแข่งไปลงทะเบียน เพื่อให้ได้ถ่ายรูปคู่]
ได้ข่าวว่าคนรุมพี่โป๊ปเยอะมาก รักพี่โป๊ปก็ช่วยกันทะนุถนอมแกหน่อยนะครับ เลข3แล้วข้อเข่าหลังแกก็ไม่ค่อยจะดีด้วย อย่ารุมอย่าเบียดกันนะครับ เป็นห่วงพี่โป๊ป💕 #popezaap #popethanawat
— Pope (@popetnwch3) March 17, 2018
ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพ: อินสตาแกรม @popezaap, แฟนเพจ "Popeclub" และทวิตเตอร์ @popetnwch3