“เขาได้รับการยกย่องน้อยกว่าที่ควรจะเป็น สำหรับผมแล้ว เขาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง เราดีใจที่คว้าเขามาร่วมทีม”
แฮร์รี่ เรดเน็ปส์ อดีตกุนซือทีมพอร์ตสมัธ กล่าวถึงการคว้าตัวกองหน้าจอมเก๋าแห้งไนจีเรียอย่าง “เอ็นวาโก้ คานู” มาร่วมทีม ก่อนที่เจ้าตัวจะเป็นหนึ่งในคีย์แมนของทีมกะลาสีเรือแห่งแดนใต้ยุครุ่งเรือง ที่คว้าแชมป์เอฟเอคัพได้สำเร็จ ขณะที่ “ไนเจล วินเทอร์เบริ์น” อดีตเพื่อนร่วมทีมอาร์เซนอลกล่าวถึงเขาว่า
“เขาคือสุดยอดกองหน้าอย่างแท้จริง รูปร่างของเขาสูงใหญ่ และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี เขาเป็นคนที่สามารถลงมาพลิกสถานการณ์ให้ทีมได้เสมอมา”
“ยุคหนึ่งอาร์เซนอลครบเครื่องไปด้วยกองหน้าที่มีสไตล์แตกต่างกัน แต่เป็นส่วนผสมที่ลงตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ “เธี่ยร์รี อองรี” คือ จอมถล่มประตู, “วิลตอร์” ปั่นป่วนกองหลังด้วยความเร็วของเขา, “เบิร์กแคมป์” เป็นคลาสสิกกองหน้าที่เต็มไปด้วยเทคนิคตัวฉกาจ ส่วน “คานู” คือราชาเหินหาว
นี่คือ ส่วนผสมที่ลงตัวของทีมยุคนั้น และคีย์แมนของการเป็นแชมป์ของทีม มันน่าตกใจที่ไม่ว่าจะมีกองหน้าใหม่เข้ามา พวกเขาจะถูกพูดถึงอยู่เสมอ”
คำกล่าวนี้มิใช่ความเกินจริงเลย สำหรับดาวเตะไนจีเรียผู้โด่งดังจากเกมฟุตบอลชื่อดังอย่าง วินนิ่ง ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่กว่า 197 เซนติเมตร ทำให้เขาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่มีค่าพลังในการโหม่งถึง 9 เลยทีเดียว จนเป็นที่มาของสูตรในเกมว่า บาบันกีด้าวิ่ง, คานูโหม่ง, อาโมคาชี่วิ่ง เป็นสูตรลับที่แฟนๆ จำกันได้จนกลายเป็นทีมต้องห้าม..ห้ามใช้ไนจีเรียไปเลย
สำหรับคานูนั้น แม้ว่าฟอร์มในเกมของเขาจะดีเพียงใด แต่ในชีวิตจริง เขาเป็นสิงห์พเนจรที่กว่าจะได้สร้างชื่อลงหลักปักฐานจริงๆ ต้องรอนแรมไปหลายสโมสร เขาเริ่มต้นค้าแข้งในยุโรปด้วยการค้าแข้งกับอาแจ็กซ์ ก่อนคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีคกับทีมได้สำเร็จ
ก่อนจะย้ายไปอยู่กับอินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์ ก่อนสร้างชื่ออีกครั้งด้วยการระเบิดฟอร์มในศึกโอลิมปิกเกมส์ด้วยการคว้าเหรียญทองมาได้ แถมเจ้าตัวยังเรียกว่า ติดทีมยอดเยี่ยมของโอลิมปิกปีนั้นบวกกับค้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแอฟริกามาได้ด้วย
นั่นคือ ช่วงเวลาอันสดใสของคานู
กระทั่งวันหนึ่งเจ้าตัวต้องหยุดเล่นฟุตบอลไปเนื่องจาก มีการตรวจพบว่า หัวใจของเจ้าตัวมีการเต้นผิดปกติส่งผลให้ต้องพักการเล่นไปเกือบปี พอกลับมาคานูต้องตกเป็นตัวสำรองของทีมอินเตอร์ มิลานไปเสียแล้ว
แถมยังโดนดองเค็มจนแทบไม่มีโอกาสได้โชว์ฝีมืออีก เจ้าตัวจึงต้องหาทางย้าย และโชคดีที่ “อาร์เซน เวนเกอร์” ได้รับคำแนะนำมาจาก “เดนนิส เบิร์กแคมป์” ที่เคยค้าแข้งกับอินเตอร์ มิลาน และอาแจ็กซ์ ให้คว้าตัวเขามาแบบถูกเพียง 3 ล้านปอนด์เท่านั้นพร้อมคำสมทับจากแฟนอินเตอร์ มิลานว่า
“เราขายนักเตะไร้ประโยชน์ที่มีดีแค่ความสูงไปได้ในราคาที่งามใช้ได้เลย”
ทว่า คานูได้พิสูจน์ให้แฟนอินเตอร์พบว่า พวกเขาคิดผิด
คานูลงเล่นในถิ่นไฮบิวรี่เพียง 114 นัด จาก 5 ฤดูกาล แต่เขากลับเป็นหนึ่งในโคตรตำนานของทีมด้วยยิงไปถึง 44 ประตูในทุกรายการ เวนเกอร์บอกว่า คานูสามารถพลิกเกมของทีมได้ด้วยความแข็งแกร่งและลูกเล่นกลางอากาศของเขา รวมทั้งความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือทีม ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะชุดแชมป์ไร้พ่ายในตำนาน และคว้าเกียรติยศด้วยการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีคถึง 2 สมัย ทีเดียว
ทว่า งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ด้วยอายุที่มากขึ้น คานูหวังว่าตัวเองจะได้ลงเล่นมากขึ้น ขณะที่อาร์เซนอลก็มีกองหน้าหน้าใหม่มาแทนที่เขาที่บ่อยครั้งก็เจ็บบ่อยเหลือเกินแล้ว เขาจึงย้ายออกจากทีมไปในที่สุดพร้อมกับคำยกย่องของอองรีและปิแรส เขาคือสุดยอดของทีมตลอดมา
คานูลงเล่นให้ทีมเวสต์บรอม หรือพอร์ตสมัธ แม้จะยิงได้น้อยลงบวกกับอายุที่มากขึ้น เขายังคงทุ่มเทให้ทีมเสมอ รวมทั้งการเลือกจะลงเล่นให้ทีมกะลาสีแดนใต้อย่าง พอร์มสมัธที่ประสบปัญหาการเงินจนตกชั้นไปเล่นแชมเปี้ยนชิพแบบไม่เอาค่าเหนื่อยก็ตาม แต่สุดท้ายกองหน้าไนจีเรียรายนี้ก็แขวนสตั๊ดไปในที่สุด
ทิ้งความสุดยอดอันน่าจดจำให้แฟนๆ ของทีมปืนใหญ่และทีมอย่างพอร์ตสมัธไปตลอด