ถ้าพูดถึงกองกลางตัวรับปิดทองหลังพระที่ดีที่สุดในยุคนี้เราจะนึกถึงใคร
เนมันย่า มาติช
เอ็นโกโล่ ก็องเต้
เอ็มเร่ ชาน
แต่ถ้าย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ฟุตบอล คงไม่มีใครไม่นึกถึงกองกลางชาวฝรั่งเศสนามว่า โค้ช มาเคเลเล่ ไปได้อย่างแน่นอน แม้หน้าจะไม่หล่อ พ่อจะไม่รวย แถมผิวสีอีก แต่ตัวเขานี่ล่ะคือ คีย์แมนที่ทำให้รีลมาดริดในยุคกาลาติกอสคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีคได้หลายสมัย รวมทั้งแชมป์ลาลีกาอีกด้วย
แต่แน่นอนว่า เพราะเป็นตำแหน่งปิดทองหลังพระนี่ล่ะ ประธานสโมสรจึงไม่ได้สนใจนัก แถมหมางเมินเขาด้วยการไม่ยอมต่อสัญญาขึ้นค่าแรงให้เขาอีก ซึ่งตอนนั้นมาเกเลเล่ไม่ได้มีความคิดจะย้ายไปไหนเลย เขาอยากอยู่กับทีมนี้เพียงแค่อยากให้ค่าเหนื่อยเขาเพิ่มบ้างเท่านั้นเอง แต่กลับถูกปฏิเสธ
เหตุผลของการปฏิเสธก็คือ เรามีตัวแทนของเขาอยู่แล้ว (นั่นคือ ลูกหม้อของมาดริดอย่าง กัมบิอัสโซ่และกูตี) และทีมพึ่งได้ เบ็คแฮมมาร่วมทีมด้วย
ผลก็คือ มาเกเลเล่ต้องย้ายทีมไปแบบจำใจ เมื่อสโมสรไม่เห็นค่าเขาเลยทั้งที่ทำงานหนักมาตลอด
ซีดานแสดงความไม่เห็นด้วยกับการขายมาเคเลเล่ออกจากทีม ประโยคเด็ดของเขาที่หลายคนจำได้ก็คือ
“จะเอาทองมาเคลือบรถยนต์ทำไมในเมื่อคุณเสียเครื่องยนต์ไปแล้ว”
แต่เปเรซก็เหมือนไม่เห็นค่าอยู่ดี เขาออกมาพูดต่อเหมือนเป็นชัยชนะของธุรกิจว่า
“เป็นการขายนักเตะที่คุ้มค่าที่สุด ราคา 16 ล้านปอนด์กับนักเตะที่ไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากเกมรับอย่างเดียว นี่คือ ธุรกิจที่ดี”
ทำให้มาเกเลเล่ย้ายมาอยู่กับเชลซีด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ และคนที่ซื้อเขาเข้ามาคือ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ที่เห็นความสำคัญของเขา
ปีแรกของมาเกเลเล่เขาทำได้ดีพอสมควรกับการเป็นห้องเครื่องให้ทีมทำหน้าที่เก็บกวาดแผงหลังให้กับทีมคว้าอันดับ 2 และเข้ารอบรองของแชมเปี้ยนลีคได้สำเร็จ
และการมาของมูริญโญ่ทำให้ทีมเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีคสมัยแรกได้สำเร็จ เขาจับคู่กับแฟรงค์ แลมพาร์ดได้อย่างลงตัว คนหนึ่งบุกคนหนึ่งรับส่งผลให้ทีมคว้าแชมป์ได้อย่างสวยงาม
และไฮไลท์ในชีวิตของเขา ก็คือ มาเคเลเล่มีโอกาสได้ยิงประตูแรกของตัวเองด้วยการทำหน้าที่สังหารจุดโทษ โดยตั้งแต่สร้างชื่อกับมาดริดและเชลซีนั้นเจ้าตัวไม่เคยยิงประตูแม้แต่ลูกเดียว (ถึงจะเคยยิงกับทีมเก่าในฝรั่งเศสมาก็ตาม) แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ยิงลูกโทษ ซึ่งมีคนไปถามมาเคเลเล่ว่า ทำไมคุณไม่ยิงประตูเลย เขาตอบว่า
“หน้าที่ของผมคือ เล่นเกมรับ”
ทว่า งานเลี้ยงเกือบกร่อย เมื่อมาเคเลเล่ดันยิงไปติดสตีเฟ่น เฮนเดอร์สัน โกลล์ของทีมชาร์ลตัน แต่โชคดีที่เขาวิ่งตามไปซ้ำเข้าไปได้สำเร็จทำเอาแฟน ๆ เชลซีและเพื่อนร่วมทีมแทบคลั่งกันไปเลยทีเดียว
เป็นเสมือนการตอกย้ำถึงความยอดเยี่ยมของเขาที่หลาย ๆ คนต่างจดจำเขา
“ใครก็อยากได้กลางรับแบบมาเคเลเล่ไปร่วมทีมทั้งนั้น การมีเขาอยู่ข้างหน้าย่อมทำให้แผงหลังอุ่นใจว่า พวกเขาจะไม่เจองานหนักแน่นอน”
รานิเอรี่กล่าวเอาไว้ตอนซื้อตัวของมาเกเลเล่มาร่วมทีม และนี่คือ การตัดสินใจที่ถูกต้องของเขาที่ทิ้งมรดกเอาไว้ให้ทีมกับทีมของมูรินโญ่ในภายหลังและนำไปสู่ยิ่งใหญ่เมื่อเขาพาแชมป์ลีก 2 สมัยติดต่อกัน, ลีกคัพ 2 สมัย, เอฟเอคัพ 1 สมัย และ คอมมูนิตี้ชิลด์ 1 สมัย เรียกว่า เป็นยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทีมสิงโตน้ำเงินคราม
ความสำเร็จของเชลซีช่างสวนทางกับรีล มาดริด ที่หลังจากเสียมาเกเลเล่ไปแล้ว พวกเขาแทบจะไม่ประสบความสำเร็จเลย เสียแชมป์กับบาร์ซ่าไปไม่พอ ยังแสดงให้เห็นว่า ทีมซุปเปอร์สตาร์ของพวกเขานั้นไม่ได้เรื่องเลย กว่าจะได้กองกลางตัวรับดี ๆ มาแทนก็สายไปเสียแล้ว
หลังประสบความสำเร็จมาเคเลเล่ก็ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรสุดท้ายของอาชีพค้าแข้งที่เปแอสเชก่อนแขวนรองเท้าลง ณ ที่นั่น
พร้อมกับความทรงจำว่า ครั้งหนึ่งบนโลกนี้มีกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในโลกอยู่ด้วย
ชื่อของเขาคือ มาเคเลเล่