ห้างเซ็นทรัล จับมือ นิตยสารลอฟฟีเซียล ไทยแลนด์คว้า Arianna Caroli ศิลปินหญิงชื่อดังชาวอิตาเลียน สร้างสรรค์โปรเจ็กต์พิเศษ เนรมิตอาร์ทิสต์ลอฟต์ของศิลปินระดับโลกมาให้ชมอย่างใกล้ชิด ด้วยแนวคิดที่ว่าศิลปะนั้นอยู่รอบตัวเราเสมอ และเพื่อตอกย้ำจุดยืนในฐานะจุดหมายปลายทางด้านแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และศิลปะ ห้างเซ็นทรัล ได้ร่วมกับนิตยสารลอฟฟีเซียล ไทยแลนด์ จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อร่วมฉลองครบ “70 ปีห้างเซ็นทรัล” ด้วยนิทรรศการ “Arianna Caroli : Artist in Residence” (อาเรียนนา คาโรลี : อาร์ทิสต์ อิน เรสซิเดนซ์)
นำเสนอผลงานศิลปะอันงดงามและการทำงานของ Arianna Caroli (อาเรียนนา คาโรลี) ศิลปินชื่อดังชาวอิตาเลียนผู้หลงใหลในความงดงามของดอกไม้ที่กลับมาร่วมงานกับห้างเซ็นทรัลอีกครั้งในรอบสิบปี โดยในงานนี้จะมีทั้งการจัดแสดงภาพจิตรกรรมสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษกว่า 30 ชิ้น ตลอดจนผลงานอื่น ๆ ที่สร้างสรรค์จากผ้าพิมพ์ลายภาพจิตรกรรม รวมทั้งเวิร์กช็อปสร้างแรงบันดาลใจทางศิลปะ ซึ่งเกิดขึ้นภายใน "อาร์ทิสต์ลอฟต์" โดยจำลองห้องทำงานของศิลปินมาไว้กลาง ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี
โดยในงานเปิดตัวนิทรรศการอย่างเป็นทางการ นำโดย ยุวดี จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่มเซ็นทรัล อาทิ ทศ – ศุกตา จิราธิวัฒน์, ปริญญ์ จิราธิวัฒน์, สิริเกศ จิรกิติ, บรม พิจารณ์จิตร, ปิยวรรณ ลีละสมภพ พร้อมด้วย อาลี ซีอานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมส คอนเน็ค จำกัด ผู้จัดทำนิตยสารลอฟฟีเซียล ไทยแลนด์ และ อาเรียนนา คาโรลี ศิลปินชื่อดังเจ้าของผลงาน ร่วมให้การต้อนรับ ฯพณฯ ฟรันเชสโก ซาเวรีโอ นีซีโอ เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย รวมถึงเหล่าผู้ชื่นชอบงานศิลปะจากหลากหลายวงการ อาทิ บังอร โชติกเสถียร, กฤตพล ฉันทฤธานนท์, พลอย จริยะเวช, วรวิทย์ ศิริพากย์, ปัทมวดี เสนาณรงค์, สันติมาน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, อนิวรรต ณ นคร ที่ให้เกียรติมาร่วมชมผลงานศิลปะสุดตื่นตากันอย่างคับคั่ง
สำหรับงานเปิดตัวนิทรรศการศิลปะครั้งสำคัญจากศิลปินรุ่นใหญ่จากอิตาลีครั้งนี้ แน่นขนัดไปด้วย ผู้หลงใหลในงานศิลปะจากหลากหลายแวดวง ที่ต่างมาชื่นชมผลงานสุดพิเศษที่อาเรียนนา คาโรลี บรรจงสร้างสรรค์เพื่อร่วมฉลอง 7 ทศวรรษ ห้างเซ็นทรัลโดยเฉพาะ พร้อมร่วมเผยความรู้สึกประทับใจที่ได้มีโอกาสชมงานศิลป์จากศิลปินมากฝีมือระดับโลกที่บินมาจัดนิทรรศการสุดเอ็กซ์คลูซีฟให้ชาวไทยได้ชมกันอย่างใกล้ชิด
พลอย จริยะเวช อาร์ทิสท์ ไรเตอร์ชื่อดังของเมืองไทย ผู้หลงใหลในความงามของศิลปะ เผยความรู้สึกว่า “ประเทศอิตาลี เป็นนครแห่งศิลปะ ที่ตัวเองหลงรักและเดินทางไปค่อนข้างบ่อย และเมื่อทราบว่ามีศิลปินหญิงชื่อดังจากอิตาลีมาแสดงผลงานจัดนิทรรศการศิลปะที่เมืองไทยจึงไม่พลาดมาชม ประกอบตัวเองเป็นคนชอบวาดรูปที่ใช้สีสันที่ตัดกัน เลยชื่นชอบผลงานของอาเรียนนาหลายชิ้น เช่นชิ้นที่ใช้สีพื้นดำในภาพที่ทำให้ดอกไม้สีสด ๆ โดดเด่นขึ้นมา รวมทั้งการใช้สีทอง หรือเทคนิคการใช้เกรียงที่ทำให้เกิดผิวสัมผัสบนภาพขึ้นมา ซึ่งอาเรียนนาสร้างสรรค์ได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ อาเรียนนายังนำภาพวาดมาทำเป็นลายผ้า ซึ่งมีความน่าสนใจ และเป็นการนำงานศิลปะมาอยู่ใกล้ชิดในชีวิตประจำวัน ช่วยสร้างสีสันให้การแต่งตัวสนุกยิ่งขึ้น และเพิ่มความท้าทายในการลองใช้สีสันใหม่ ๆ มาประยุกต์กับการแต่งตัว อย่างใส่ชุดดำล้วน ๆ แต่มีผ้าพันคอลายพิมพ์ดอกไม้สีสันสดใส ก็เปลี่ยนลุคไปอีกแบบเลย รวมถึงการจัดเวิร์กช็อปที่น่าสนใจมาก และเป็นเทรนด์ใหม่ในยุคนี้ ที่ผู้คนเปิดใจรับประสบการณ์ใหม่ ๆ”
พลอย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การได้มาชมนิทรรศการครั้งนี้ ก็ทำให้ได้แรงบันดาลใจหลายอย่าง นอกจากทำให้อยากสร้างผลงานที่ชิ้นใหญ่ขึ้นจากเดิมที่เคยทำแล้ว ยังให้ความรู้สึกเหมือนเป็น Color Therapy หรือ สีบำบัด เพราะสีสันต่าง ๆ ส่งผลต่อความรู้สึกและอารมณ์ เช่น บางสีทำให้ใจเต้นแรง หรือทำให้เรามีความกล้า รวมไปถึงสร้างสรรค์สิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นไปไม่ได้ในเรื่องของสี อย่างภาพที่เป็นสีโมโนโทน ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ศิลปินแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการใช้สีในการสร้างผลงานศิลปะที่น่าสนใจ”
วรวิทย์ ศิริพากย์ นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคสัญชาติไทยที่ดังไกลไปถึงต่างประเทศ เผยถึงความรู้สึกที่ได้มีโอกาสชื่นชมผลงานของอาเรียนนาอีกครั้งว่า “เคยได้ชมผลงานของ อาเรียนนา เมื่อ 10 ปีก่อน ที่เธอมาจัดนิทรรศการกับห้างเซ็นทรัลในงานฉลองครบรอบ 60 ปี และยังจำเส้นสายที่มีพลังและเป็นเอกลักษณ์ของเขาได้ โดยเฉพาะดอกไม้ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน รวมทั้งการใช้สีที่ค่อนข้างสด และเป็นเสน่ห์ที่ชัดเจนในการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินรุ่นใหญ่ท่านนี้ได้ดี ซึ่งผลงานที่ประทับใจส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นที่สีสด ๆ และผสมสีทองเข้ามาเพิ่มความหรูหราให้ชิ้นงานมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญ ครั้งนี้อาเรียนนาได้นำผลงานของเธอมาพิมพ์ลงผืนผ้า ที่สามารถนำไปตัดเป็นชุด รวมทั้งนำลวดลายมาทำเป็นสินค้าพิเศษ อย่างกระเป๋า และผ้าพันคอ ซึ่งการนำมาทำเป็นแอคเซสซอรี่ต่าง ๆ นั้น ก็ทำให้เราสามารถอยู่ใกล้ชิดกับงานศิลปะได้มากขึ้น ผู้ที่ชื่นชอบผลงานของอาเรียนนา ก็จะได้มีโอกาสมีผลงานของเธอติดอยู่กับตัวตลอดเวลา รวมทั้งได้ร่วมทำบุญกับศิริราชมูลนิธิฯ ไปในตัวด้วย”
วรวิทย์ทิ้งท้ายว่า “ถึงแม้จะเป็นนักธุรกิจ แต่ก็มีใจรักศิลปะตลอดเวลา ดังนั้นถ้ามีการจัดแสดงงานศิลปะก็มักจะแบ่งเวลามาให้เสมอ โดยเฉพาะการได้มาชมผลงานศิลปะของศิลปินระดับโลก ช่วยทำให้ได้รับแรงบันดาลใจใหม่ ๆ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้จิตใจของเราละเอียดอ่อนขึ้น รวมทั้งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงานได้ด้วย และมองว่าศิลปะเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ที่สามารถชื่นชมกันด้วยความรู้สึกและจิตใจภายใน ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านศิลปะ แต่ก็สามารถซึมซับความสวยงามนั้นได้ แค่มาชมแล้วเรารู้สึกเชื่อมโยงกับงานศิลปะ ได้เพียงเท่านี้ก็คุ้มแล้ว”
อนิวรรต ณ นคร อีกหนึ่งแฟนตัวจริงที่ติดตามผลงานของอาเรียนนา คาโรลี กล่าวถึงความรู้สึกปลาบปลื้มที่ศิลปินคนโปรดได้กลับมาจัดแสดงนิทรรศการที่เมืองไทยอีกครั้งว่า นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้มีโอกาสชมผลงานของอาเรียนนามากว่า 4 ปี จากนั้นก็ติดตามผลงานผ่านทางอินสตาแกรมมาโดยตลอด เพราะชื่นชอบผลงานของอาเรียนนาตรงการนำดอกไม้มาครีเอทให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ ให้อารมณ์ความรู้สึกต่างจากดอกไม้ของศิลปินคนอื่น ๆ และความที่ตัวเองเป็นสไตลิสต์ ซึ่งต้องทำงานเกี่ยวข้องกับศิลปะด้วย ก็สามารถนำแรงบันดาลใจจากศิลปะมาประยุกต์ใช้ในงานของตัวเองได้ด้วย ส่วนผู้ที่มีโอกาสได้มาชมนิทรรศการสุดพิเศษครั้งนี้ ก็เรียกว่าจะได้เปิดโลกรับประสบการณ์ใหม่ ๆ เพราะไม่เพียงแสดงแต่ภาพวาดเท่านั้น แต่ยังนำเสนอในรูปแบบแบบใหม่ อย่างจำลองห้องทำงานของศิลปินมาให้ชมกัน ทำให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปในโลกของเขามากขึ้น รวมทั้งมีเวิร์คช็อปที่น่าสนใจ ซึ่งศิลปินก็ลงมือสอนด้วยตัวเองอีกด้วย ซึ่งผมก็อยากจะมาเข้าร่วมเวิร์กช็อปของคุณอาเรียนนาสักครั้งนะครับ เพราะนี่คือโอกาสพิเศษมากจริง ๆ”
สำหรับงานนิทรรศการ “Arianna Caroli : Artist in Residence” (อาเรียนนา คาโรลี : อาร์ทิสต์ อิน เรสซิเดนซ์) จัดขึ้น ณ บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดยจะเปิดให้เข้าชม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ - 18 กุมภาพันธ์ ศกนี้ พร้อมพบกับ อาเรียนนา คาโรลี ที่จะมาสร้างสรรค์ผลงานด้วยตนเอง ภายใน “Artist Loft” (อาร์ทิสต์ลอฟต์) อย่างใกล้ชิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 – 20.00 น.
นอกจากมีการจัดแสดงภาพจิตรกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษกว่า 30 ชิ้น และชุดที่สร้างสรรค์จากผ้าพิมพ์ลายภาพจิตรกรรม ยังมีเวิร์กช็อปงานอาร์ต ได้แก่ การสร้างสรรค์ปกหนังสือ ด้วยการเพ้นต์ภาพสีอะคริลิก และ D.I.Y ชุดตุ๊กตาหมี เพื่อสร้างแรงบันดาลใจทางศิลปะ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมเวิร์กช็อปกับศิลปินหญิงชาวอิตาเลียนได้ ในวันที่ 11, 17 และ 18 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 11.00 น. และ 14.00 น. รับจำนวนจำกัดเพียง 20 ที่นั่ง / เวิร์กช็อป / รอบ เท่านั้น สำรองที่นั่งได้ที่จุดบริการลูกค้าสัมพันธ์ (Concierge Counter) ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี
Arianna Caroli (อาเรียนนา คาโรลี) เกิดที่เมืองออร์วีโต แคว้นอุมเบรีย ประเทศอิตาลี เธอเริ่มวาดภาพตั้งแต่อายุเพียง 13 ปี อาเรียนนาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ด้านวรรณคดีโบราณและโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยกรุงโรม เคยเป็น นักออกแบบฉากและนักออกแบบชุดให้กับผู้กำกับภาพยนตร์อย่าง James Ivory (เจมส์ ไอวอรี่) หรือสองพี่น้องตระกูล Taviani (ตาวิอานี่)
อาเรียนนาเริ่มฝึกวาดรูปที่โรมโดยได้ Fortunato del Tavano (ฟอร์ตูนาโต เดล ทาวาโน) เป็นอาจารย์ ก่อนจะไปร่ำเรียนด้านศิลปะในสถาบันศิลปะต่าง ๆ หลากที่และตัดสินใจเปิดสตูดิโอศิลปะอย่างจริงจังที่นิวยอร์ก จนวันหนึ่ง Gene Moore (จีน มัวร์) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของแบรนด์ Tiffany & Co. (ทิฟฟานี่ แอนด์ โค) ได้เห็นผลงานของเธอ และให้เธอช่วยวาดภาพไว้ประดับร้าน หลังจากนั้น ศิลปะก็กลายเป็นเส้นทางสายหลักของเธอ
อาเรียนนาเดินทางมาแล้วทั่วโลกและได้ใช้เวลาทำความรู้จักกับความงามสง่าเป็นเอกลักษณ์ เพื่อสัมผัสอารมณ์และจิตวิญญาณของแต่ละประเทศ ทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา และแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยที่เธอ โปรดปราน การเดินทางของเธอจึงเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดลงไปในภาพวาดที่มีเอกลักษณ์คือความเป็นเลิศทั้งในแง่การนำเสนอและเทคนิควิธีที่ใช้ ทำให้ภาพวาดของเธอได้รับการจัดแสดงมาแล้วทั่วโลก
หัวข้อในภาพเพ้นต์ของอาเรียนนา คาโรลี มีหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่เป็นภาพดอกไม้ ซึ่งมีทั้งดอกไม้จริงและดอกไม้ในจินตนาการ เธออธิบายถึงเหตุผลที่ต้องเป็นภาพดอกไม้ว่า “บางดอกฉันก็จำได้ชัดเจนในความทรงจำ บางดอกก็จำได้ลาง ๆ ในความทรงจำ” ถ้าคุณมองดอกไม้ คุณจะเห็นธรรมชาติ สีสัน และความเคลื่อนไหว เป็นความงามที่ฉันอยากบันทึกไว้ เพราะดอกไม้จริงบานได้แป๊บเดียวก็เหี่ยวเฉาไป แต่ดอกไม้ในภาพอยู่ได้เป็นร้อยเป็นพันปี
